การเพาะเห็ดฟางแบบปลอดภัยไร้สารพิษ


ได้รับทราบข้อมูลจากรายการเล่าข่าวท็อปฮิตติดอันดับหนึ่งมาหลายปี ถึงกับอดตกใจไม่ได้ว่า ทำไมอาชีพเพาะเห็ดฟางของพี่น้องเกษตรบ้านเราจึงส่งผลให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ทั้งๆที่ในช่วงห้วงสามสิบกว่าปีมานี้ยังไม่เคยได้ยินเกษตรกรผู้เพาะเห็ดฟางเจ็บป่วยล้มตายจากการเพาะเห็ดฟางเลยสักราย  ได้ยินมาบ้างก็แต่เกษตรกรผู้ฉีดพ่นยาฆ่าแมลงกำจัดศัตรูพืช หรือยาฆ่าหรือคุมหญ้าในแปลงนาข้าวที่หลังจากฉีดพ่นสารเคมีอันตรายร้ายแรงเสร็จแล้วไม่ยอมอาบน้ำชำระล้างร่างกายเสียก่อน แล้วไปดื่มเหล้าหรือแอลกอฮอล์ทันทีจึงทำให้สารพิษที่สั่งสมมาอย่างยาวนานก็ทำปฏิกิริยาผสมกลมกลืนพลุ่งพล่านไปตามฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ทำให้เลือดสูบฉีดหมุนเวียนดีขึ้นจนถึงแก่ความตาย

แต่นี่เป็นข่าวที่ครอบครัวผู้เพาะเห็ดหมดสติและเสียชีวิตในโรงเรือนเห็ด ซึ่งค่อนข้างแปลกอย่างมาก เพราะอย่างไรเสียโรงเรือนเห็ดก็จะต้องมีออกซิเจนเพียงพอ มิฉะนั้นการเจริญเติบโตของเห็ดซึ่งเป็นเชื้อราชั้นสูงและเป็นสิ่งมีชีวิตจำเป็นต้องใช้ออกซิเจนด้วยเช่นกัน
จึงไม่น่าเป็นไปได้ว่าโรงเรือนเห็ดนี้จะปราศจากอ๊อกซิเจนจนทำให้ถึงแก่ความตายได้  แต่ถ้ามีการฉีดพ่นสารเคมีที่เป็นพิษและออกฤทธิ์ดูดซึมเพื่อกำจัดแมลง รา ไร ที่รบกวนเห็ดอยู่และยิ่งเป็นสารพิษที่ให้โทษรุนแรง โรงเรือนเห็ดออกแบบมาให้กักเก็บอุณหภูมิและความชื้นได้ดี สารพิษจึงตกค้างอยู่ภายในโรงเรือนอย่างเข้มข้น ไม่แผ่กระจายบางเบาเหมือนฉีดพ่นสารเคมีในแปลงนาหรือแปลงผักที่มีสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้าง ทำให้ประสิทธิภาพของสารพิษไม่เข้มข้นเพียงพอที่จะทำให้มนุษย์หรือสัตว์ใหญ่ตายได้

อันนี้ก็เป็นข้อสันนิษฐานส่วนตัวนะครับ เพราะยังไม่มีการสรุปผลการชันสูตรออกมาว่าครอบครัวเกษตรกรผู้เพาะเห็ดรายนี้ ตายจากสาเหตุใดกันแน่ อย่างไรก็ตามก็ขอฝากไปยังเกษตรกรผู้เพาะเห็ดทั่วประเทศนะครับ ว่าโปรดระมัดระวังเรื่องการใช้สารเคมีที่เป็นพิษในการดูแลบำรุงรักษาเห็ดกันให้ดีนะครับ พยายามอย่าใช้สารเคมีที่มีสารพิษตกค้าง เพราะนอกจากจะเป็นอันตรายทั้งต่อตนเองแล้วยังเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคโดยตรง  เพราะเห็ดนั้นจัดว่าเป็นอาหารที่สามารถดูดซับรับสารพิษได้ค่อนข้างดี จึงไม่เป็นการสมควรอย่างยิ่งที่จะใช้ผลิตภัณฑ์สารพิษนำมาใช้ฉีดพ่นไปที่เห็ดโดยตรง การดูดซับอุ้มน้ำของเห็ด

 

มนตรี  บุญจรัส

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ  www.thaigreenagro.com

 

หมายเลขบันทึก: 546648เขียนเมื่อ 26 สิงหาคม 2013 11:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 สิงหาคม 2013 11:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท