อยากจะเขียนถึงแม่ซักครั้งในวันแม่ ปี56 ก็ทำไม่ได้

เมื่อก่อนถึงวันแม่ ตั้งใจจะเขียนบันทึกถึงแม่ซักครั้งหนึ่งในปีนี้  และวันที่ ๑๒ สิงหาก็มาถึง เช้าพี่ชายซื้อดอกมะลิมา แล้วเราก็ไหว้แม่กัน ๒คน พี่น้อง น้องอีกคนไม่ได้มาเพราะต้องเข้าเวร  ผู้เขียนไปโรงเรียนที่ระหว่างทางเขาขายหมาก ก็ซื้อมาตากแห้งไว้ เลยถือโอกาสมอบให้แม่วันนี้เลย ประมาณเก้าโมงเช้าทุกคนทานข้ากัน แม่ออกคำสั่งว่า "เดี๋ยวกินข้าวแล้วเก็บพลูให้หน่อยหมดแล้ว" หลังทานข้าวเสร็จผู้เขียน ไปเก็บพลูตามแม่สั่ง ได้๑ ตะกร้า จะขึ้นบ้านหันไปเห็นข้างต้นพลูมีต้นหญ้าขึ้นรก ก็ใช้กรรไกรตัดไป๑ ที พอตัดหนที่๒    รู้สึกจี๊ดที่นิ้วมือขวา มีเลือดไหล จากประสบการณ์รู้ได้ทันทีว่าโดยงูกัด มองไปที่ดินพบงูเขียวหางไหม้นอนขดอยู่  (อยากจะร้องไห้ เพราะเคยโดยงูเขียวกัดมาแล้ว ๑ ครั้ง บวมมาก) สติมาก่อนอื่น ใช้มือซ้ายบีบ ห้ามเลือดที่นิ้วก้อยใช้น้ำปะปาที่ก๊อกข้างบ้านล้างให้เลือดไหลออกตามน้ำไป ณ เวลานั้นนึกได้ว่า รางจืดแก้พิษสารเคมีต่างได้ แต่ไม่รู้ว่าจะแก้พิษงูได้ไม๊ ตัดสินใจรีบเดินไปเก็บมาเคี้ยวๆกลืนบ้าง แปะแผลแล้ว เรียกคนมาช่วยโดยการเอาเชือกทำเป็นบ่วงแล้วใช้ไม้ขันชะเนาะที่นิ้วก้อย รีบอาบน้ำ หาคนส่งโรงพยาบาล 

ต้องเจาะเลือดทุก ๔ ชั่วโมง

[เพชรน้ำหนึ่ง]

-สวัสดีครับ

-ตามมาให้กำลังใจ

-แล้วตอนนี้หายเป็นปกติแล้วใช่ไหมครับ??

-ส่งความสุขย้อนหลังในวันแม่ด้วยนะครับ..

 

[กานดาน้ำมันมะพร้าว]

ตอนนี้ดีขึ้นมากหรือยังค่ะ แล้วรางจืดใช่ได้ผลดีหรือเปล่าค่ะกับพิษงูเขียวหางไหม้ หายเร็วๆนะคะ

[nobita]

มาให้กำลังใจครับ หายเป็นปกติในเร็ววันนะครับ 

[ครูแต๋ว]

   ขอบคุณ คุณเพชรน้ำหนึ่งที่มาให้กำลังค่ะ ตอนนี้เน็ตมีปัญหาเข้า Gotoknow ไม่ได้ เลยเขียนบันทึกไม่ได้

ตอนนี้หายแล้วค่ะ แต่ยังไม่ 100% นิ้วก้อยที่โดนกัด ยังบวมอยู่นิ้วไม่ตรงเหมือนเดิม   เจ็บๆคันๆ เหมือนแมงป่องต่อยคงต้องรอเวลาให้มันทำหน้าที่ของมันเอง(ร่างกายขับสารพิษเอง) ไม่อยากทานยามากเกินไป ส่วนแขนที่ถูกพิษงูทำลายเป็นห้อเลือดเป็นทางตั้งแต่ข้อมือด้านในถึงรักแร้ รอยน่ะหายไปแล้วคือไม่มีรอยช้ำ แต่ยกแขนยังเจ็บกล้ามเนื้ออยู่บ้าง นี่งูเขียวหางไหม้เป็นงูพิษอันดับสุดท้ายที่มีพิษน้อยสุด

   ขอบคุณ กานดาน้ำมันมะพร้าว ที่มาให้กำลังใจ ขอบคุณจริงๆเลย   คิดว่า รางจืดที่ใช้ดื่มช่วงที่โดนงูกัด เป็นแค่การรักษาพยาบาลเบื้องต้นที่พอคิดได้ตอนนั้น  แต่ก็ช่วยได้มากในเรื่องการที่แขนไม่บวม ปวดน้อย ไม่คลื่นไส้จะอาเจียนเหมือน2คนนั่น ซึ่งยาก็ทานแค่แก้ปวด วันละ1เม็ดเท่านั้น  อีก2คน ได้ทั้งยาแก้ปวด แก้อักเสบ แก้ติดเชื้อ คนละ3เม็ด 3เวลาหลังอาหาร ส่วนอีกคนให้น้ำเกลืออีกด้วย คนป่วยนอนเตียงใกล้กัน คุยกันตลอดจึงรู้ว่าเราได้ยาไม่เหมือนกัน พอถามหมอ หมอก็บอกว่าอ้าวไม่มียาแก้อักเสบหรือ เดี๋ยวจะให้ตอนกลับ  โอ! ชีวิตคนป่วยอย่างเรา แถมนอนเตียงอานาถาอีกต่างหาก

  ขอบคุณ nobita ที่เข้ามาเยี่ยมค่ะ