ไปญี่ปุ่นครั้งแรกสุด สงสัยมากว่า ทำไมคนญี่ปุ่นบางคนที่เดินถนนหรือนั่งในรถไฟจึงผูกหน้ากากอนามัย (Mask) ไปถามไถ่มาได้คำตอบว่า พวกเขาเป็นหวัด
เราพบเห็นคนญี่ปุ่นผูกหน้ากากเดินทางไปทั่ว พวกเขาทำกันจนเป็นนิสัย ถือเป็นสุขอนามัยส่วนตัว (Personal Hygiene) ที่พึงปรารถนายิ่ง
ฉันคิดว่า คนญี่ปุ่นมีความรับผิดชอบต่อสังคมสูงมาก อธิบายอย่างนี้ค่ะ
ในทางการแพทย์เราใช้หน้ากากอนามัยปิดปากจมูกเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น และป้องกันไม่ให้เรารับเชื้อจากผู้อื่น
โรคทางเดินหายใจทุกโรค ตั้งแต่หวัด ไปจนถึงวัณโรคปอด แพร่เชื้อจากตัวคนไข้โดยการไอ จาม พ่นเสมหะที่มีเชื้อโรคออกไปให้คนอื่น หรือละอองเสมหะที่มีเชื้อโรคลอยไปแปะไว้ตามที่ต่างๆ รอคนมาสัมผัสและรับเชื้อไป
คนญี่ปุ่นที่เป็นหวัดผูกหน้ากากอนามัยออกนอกบ้าน จึงถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างสูง เพราะพวกเขาช่วยปกป้องผู้อื่นไม่ให้รับเชื้อโรค
คนไข้บ้านเราจะบอกว่า “อาย”“อึดอัด”“หายใจไม่ออก” ถ้าจะต้องผูกหน้ากากอนามัยตามคำแนะนำของหมอ ของพยาบาล
คนไข้วัณโรคปอดที่บ้านเรามีมากขึ้น พอเราตรวจพบว่าอยู่ในระยะแพร่เชื้อ ก็จะขอให้ผูกหน้ากากอนามัยในระยะแรกจนกว่าจะพ้นระยะแพร่เชื้อ ซึ่งได้รับความร่วมมือน้อย พวกเขาจะผูกหน้ากากเมื่อพยาบาลเอาหน้ากากไปให้ผูกเวลาเข้ามาตรวจ พอออกไปก็ปลดออก
เวลาสอนคนไข้วัณโรคปอดระยะแพร่เชื้อ ฉันจึงเน้นที่ การผูกหน้ากากเพื่อป้องกันรับเชื้อจากผู้อื่นเพิ่มเพราะร่างกายของคุณอ่อนแอ อาจรับเชื้อที่อันตรายได้ เพื่อจูงใจเบื้องต้นและมักได้รับความร่วมมือ
กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายให้รับคนไข้วัณโรคระยะแพร่เชื้อไว้นอนรักษาตัวในห้องแยกของโรงพยาบาลจนกว่าจะพ้นระยะแพร่เชื้อ ซึ่งทำได้ยากเพราะเรามีเตียงจำกัด
เราเพียงต้องการความร่วมมือ และความรับผิดชอบต่อสังคมจากคนไข้ ก็จะป้องกันการแพร่เชื้อได้
นี่ยังไม่รวมการขากถุยเสมหะลงพื้นที่ยังพบทั้งในโรงพยาบาล และตามถนนทั่วไป
เราคุยกันเล่นๆ ในบ้านว่า ถ้าเกิดโรคระบาดร้ายแรงขึ้นในโลก ญี่ปุ่นจะเป็นชาติสุดท้ายที่ติดโรคตายทั้งประเทศ.
.................................
ความรับผิดชอบต่อส่วนรวมสูงมาก อย่างการแยกขยะเขาทำกันเป็นกิจวัตรของครัวเรือน....ตลาดจนการใส่หน้ากากอนามัยด้วยค่ะ
ปลูก ๆ ๆ ๆ ๆ ไม่ง่ายนะคะ แต่ก็ต้องช่วยกัน ... จิตสำนึก
ปลูกไม้ใหญ่ ปลูกได้ ง่ายพิลึก
แต่ปลูก จิตสำนึก ยากหนักหนา
คนต่างชาติ ปลูกสำนึก ในวิญญาณ์
แต่คนไืทย ต้องหา...ที่ปลูก..เอง
............................
ให้ดอกไม้ไปก่อนเดี๋ยวพรุ่งนี้จะกลับมาอ่านครับ คุณหมอ
คืนนี้ดึกแล้ว
ชอบครับวัฒนธรรมญี่ปุ่น..
ขอบคุณดอกไม้กำลังใจจากทุกท่านนะคะ
พรรณี , น้องนก noktalay, คุณหมอ ทพญ.ธิรัมภา, คุณพิชัย พ.แจ่มจำรัส , และ
คุณครูคนขยัน คุณมะเดื่อ
ดิฉันเขียนบันทึกเพราะอยากเชิญชวนให้คนไทยเห็นความสำคัญของ การมีวินัย ที่เป็นส่วนหนึ่งของ "ความรับผิดชอบต่อส่วนรวม" อย่างที่ครูนกเรียกค่ะ
และไม่มีทางอื่นที่จะทำได้ นอกจาก ฝึกที่บ้าน และที่โรงเรียนค่ะ
ไม่เช่นนั้น ในอนาคต สังคมจะยุ่งเหยิง เพราะทุกคนทำตามใจตัวเอง ไม่สนใจ กฎ กติกา มารยาท