บันทึกวันแม่ ของคุณครูป้ายแดง มอบให้กับนักเรียนทุกๆคน


เด็กๆ จำได้ไหมว่า ใครเป็นคนพาเราไปโรงเรียนวันแรก แล้วจำได้ไหมครับในวันแรกว่ามือของใคร ที่จูงมือของหนูแล้วพาเข้าไปในโรงเรียน พาหนูเข้าไปในห้องเรียน แล้วเมื่อพบคุณครู แล้วจึงค่อยๆคลายมือของหนูแล้วส่งต่อให้กับคุณครู จำได้ไหมครับว่าเป็นมือของใคร หนูอาจจะยังจำไม่ได้ เพราะว่าหนูยังเด็กไง แต่ที่ครูอยากจะบอกก็คือ พ่อแม่เนี๊ยะ เริ่มห่างจากเราออกไปทุกที จากพื้นที่ของชีวิตเราทุกวันนี้ จริงหรือไม่ จากเมื่อก่อน ท่านส่งเราหน้าชั้น จากหน้าชั้นก็กลายมาเป็นหน้าโรงเรียน จากหน้าโรงเรียนก็เป็นแค่ส่งข้ามถนน แล้วสุดท้ายท่านก็ปล่อยให้เราเนี๊ยะ โตพอเองที่จะมาเรียนเองได้ นับจากวันนั้นมาถึงวันนี้เนี๊ยะ 10 กว่าปีมาแล้ว มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย กับตัวเรา จะบอกได้เลยว่า การเปลี่ยนแปลงอันนึง ที่เกิดขึ้นแล้วหนูไม่ได้คิดถึง คือ เราห่างคุณพ่อคุณแม่ไปทุกวี่ทุกวันครับ เราเนี๊ยะห่างออกจากท่านมากขึ้นทุกที และความห่างที่มากขึ้นเนี๊ยะ แต่มันมีความห่วงที่เท่าเดิม หรือความห่วงนั้นอาจจะมากขึ้น เป็นเงาตามตัวของเรา เงาเนี๊ยะมันโตขึ้นตามวัยของเรา ยามเด็กเนี๊ยะ เมื่อเรากับพ่อแม่อยู่ใกล้ชิดกัน ท่านก็เป็นห่วงเพียงแค่ กิน อยู่ หลับนอนถูกมั๊ย แต่ยามโตเนี๊ยะ เด็กมันรู้ มันเห็น มันฟัง และมันเข้าใจอะไรต่ออะไรได้มากขึ้น แต่จะแยกแยะถูกผิดได้หรือไม่ มันเป็นความห่างที่สุดแสนจะห่วง เป็นความห่วงที่สุดแสนจะลำบาก เพราะว่าห่วงมากเนี๊ยะ ลูกก็ว่าแม่ “แม่อย่ามายุ่งกับหนูได้ป่าว รำคาญหน่ะ ให้หนูมีชีวิตของหนูเองบ้างได้ป่าว อยากไปกับเพื่อน” พอห่วงน้อยเกินไป ลูกก็ว่าไงครับ “ใช่สิ! แม่ไม่เคยรักหนู แม่ไม่เคยเข้าใจหนู รักแต่น้อง” ถามตัวเองดูนะครับว่าเราได้ทำแบบนั้นไปหรือเปล่า

 

น้องครับ คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้มีลูกเป็นอาชีพนะครับ หลายท่านมีลูกเพียงคนเดียว แล้วบ่อยครั้งนะครับ ที่ท่านได้ทำอะไรผิดพลาดไปกับลูก ท่านอาจจะไม่ใช่คนที่เข้าใจเรามากที่สุด แต่ครูบอกได้เลยว่า ท่านเป็นคนที่ห่วงเรามากที่สุด แต่สิ่งนึงที่ครูอยากจะบอกนะครับ ความห่วงที่มาก ในระยะห่างที่ไกล นั้นหนักหนากว่ามากกว่า ความห่วงที่ใกล้ แต่ไม่ห่วงมาก บางคนอาจจะยังไม่เข้าใจนะครับ ไม่เป็นไรครับ ต้องลองมีลูกดูเองถึงจะรู้ครับ ไม่ใช้บอกให้กลับไปทำลูกวันนี้นะครับ ที่พูดมาทั้งหมดเนี๊ยะ อยากจะบอกว่า นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ สิบกว่าปีไง หนูอาจจะลืมกันบ้าง หนูอาจจะไม่รู้ตัวว่า มีใครคนนึงเนี๊ยะ เค้าเฝ้ารอดูทุกย่างก้าวของเราอยู่ แต่ว่าเราก็มี Space กับเค้า มีใครคนนึง ที่คอยหวังดี และก็รักหนูอย่างจริงใจ มากที่สุด และนานที่สุดในช่วงชีวิตของเขา

 

บอกได้เลยว่า Ent ติดไม่ใช่คำตอบสุดท้ายครับน้อง แต่ครูอยากถามหนูว่า หนูเคยแสดงความจริงใจมั๊ยครับ แสดงความตั้งใจจริงให้ท่านเห็นมั๊ยครับว่า เนี๊ยะ เราเห็นคุณค่าของความหวังดี ความรัก ความปรารถนาดีของคุณพ่อคุณแม่ที่ท่านให้เรามา หนูเคยทำให้ท่านเห็นมั๊ยครับ ว่าเรานะทุ่มเทไปแล้วอย่างสุดตัว มีแรงเท่าไหร่ ถาโถมเข้าไป ครูมั่นใจนะครับว่าท่านต้องสัมผัสได้ เราเกิดมาเป็นผู้เป็นคนเนี๊ยะ เราเคยทำอะไรให้ท่านได้ดีใจ หรือ ภูมิใจ หรือยังครับ อย่าลืมนะครับ เราไม่ได้ทำเพื่อตัวเราเอง ยังมีอีกหลายคนที่เฝ้ายินดีกับเรา วันที่เราประสบความสำเร็จนะครับ

 

พ่อแม่มี เจ้าเป็น ดั่งดวงใจ

คอยห่วงใย ในจิต มิคิดหน่าย

เฝ้าเลี้ยงดู เจ้าอยู่ ไม่รู้คลาย

ให้เจ้าได้ เติบโต เป็นคนดี

พ่อกับแม่ มีแต่ จะแก่เถ้า

อยู่กับเจ้า อีกนาน ก็หาไม่

มีแค่เพียง ความฝัน ที่ฝากไว้

กลัวจะสาย ท่านจากไป ไม่เห็นจริง

 

 

สุดท้ายครูอยากฝากเด็กๆทุกคนเลยนะครับว่า

 

หนูได้อ่าน ได้เขียน ที่ครูสอน

มันเป็นพร จากใจ ที่อยากให้

เป็นความรู้ ติดตัว เอาไว้ใช้

ความตั้งใจ จากครู เท่าที่มี

แม้บางสิ่ง มิได้เป็น เช่นเจ้าหวัง

เจ้าจงฟัง คำครู อย่าท้อถอย

ทุกๆสิ่ง ไม่ใช่เพียง แต่นั่งคอย

โอกาสลอย ผ่านไป ใช่กลับมา

กาลเวลา ผันผ่าน แล้วผ่านเลย

มัวนั่งเฉย น้องเอย ต้องฟันฝ่า

ชัยชนะ มาถึง จึงรู้ว่า

เจ้าก็มี คุณค่า ค่าของตน

 

ปล. ถึงสัมผัสมันจะไม่เพราะ แต่ตั้งใจแต่งจริง

คำสำคัญ (Tags): #ครูพี่เอ็ม#kmpprep
หมายเลขบันทึก: 545289เขียนเมื่อ 12 สิงหาคม 2013 12:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 สิงหาคม 2013 12:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

...ขอชื่นชมค่ะ...บทกลอนจากใจนะคะ

บทกลอนเพราะค่ะ ความหมายดี ติดป้ายให้เด็กอ่านนาน ๆนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท