อย่าใช้ชีวิตอย่างหวาดกลัว
เราทำอะไรกับชีวิตที่ผ่านไปแต่ละวันใน 80 ปี หรือ 29,200 วัน หรือ 700,800 ชั่วโมง
เวลาที่เรามีสิทธิ์ใช้..คนเดียว...
การขับรถคนเดียว...พาครอบครัวตะลอนไปตามถนน..ระยะทาง 3,950 กิโลเมตร จึงเกิดขึ้น
ด้วยข้อตกลงว่า ขับไปเรื่อย ๆ ค่ำไหนนอนนั้น จึงเกิดขึ้น
ใครที่กำลังหาที่พักผ่อนปลายเดือนตุลาคมนี้…
ลองดูเส้นทางและที่พักเป็นแนวทางได้รับรองว่าปลอดภัยทุกที่
วันแรกจากหาดใหญ่ ไปท่าเรือดอนสัก เพื่อรับผู้เฒ่า ร่วมเดินทางไปยังจุดหมายแรกคือ ระนอง
แวะทักทายครอบครัวที่บ้านหงาว 1 คืน (ฟรีจ๊ะ..แถมอาหารแสนอร่อยสุดๆ)
วันที่ 2 ออกจากระนอง ไป อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี
จากบ้านหงาวใช้เส้นทางอ.พะโต๊ะ ไปหลังสวนเข้าสู่ชุมพร แวะที่จุดพักรถเขาโพธิ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ผ่านเพชรบุรี
สมุทรสงคราม สมุทรสาคร เส้นธนบุรี-ปากท่อ เข้าสู่กรุงเทพฯ
ใช้ถนนวงแหวนรอบนอกสายตะวันตก(สาย 9 ) สุดทางมุ่งเข้าสู่จังหวัดสระบุรี
พักที่ อารมณ์ดีรีสอร์ทราคา 500 บาทต่อหลัง(4คน)
วันที่ 3 สระบุรี ไป อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ
เช้าไปเที่ยวพระปรางค์ 3 ยอด จังหวัดลพบุรี
และขับรถตามหาทุ่งดอกทานตะวัน จนย้อนกลับมาเจอถนนสายพระพุทธบาท สระบุรี แล้วก็ยังไม่เจอ
ถามชาวบ้านว่าอยู่ไหนเอ่ย..เขาบอกว่าเพิ่งปลูก..ต้นยังไม่โต
หลังจากแวะซื้อไก่ย่างวิเชียรบุรี ที่วางขายตลอดเส้นทาง ...น่ากินมาก..ก็ขับรถย้อนกลับไปใหม่..
จริงๆ ด้วย เป็นทุ่งเลย..ต้นทานตะวันที่มีแต่ใบเลี้ยงคู่ค่ะ....
อีกนานกว่าจะออกดอก...ไหนในเว็บ..บอกว่าเดือนตุลาก็มีให้ดูไง...สงสัยบอกไม่หมด..ฮ่าๆ...
ขับไปถึงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์..ที่นี่มีบ้านพักและลานกางเต็นท์ไว้บริการด้วย...น่าสนใจมาก
หลังจากนั่งพักผ่อนริมเขื่อนให้เย็นใจก็ได้เวลามุ่งหน้าสู่ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ
อุทยานแห่งท้องทุ่งดอกกระเจียว.แต่เหี่ยวหมดแล้ว..ต้องมาใหม่เดือนมิถุนายน-สิงหาคม
ป่าหินงาม......มากมายหลายแบบ
ได้เวลาออกเดินทางเข้าสู่จังหวัดเลย แต่ไม่ทันจะมืดค่ำแล้ว หาที่นอนดีกว่า
ได้พักที่ภูหยวกรีสอร์ท ราคา 1,000 บาท ต่อหลัง(4 คน)เบอร์ตามนามบัตร 089-2803211
เตรียมพร้อมออกเดินทาง.............................ถ่ายรูปกันก่อน
วันที่ 4 ชัยภูมิ ไปอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
มุ่งหน้าสู่ภูกระดึง..เคยมาตอนแต่งงานใหม่ๆ...มาทดสอบที่ว่า...คู่รักใดที่มาภูกระดึงแล้วถ้าไม่เลิกกันถือว่าเป็นคู่แท้...ครั้งนั้นเลยพยายามไม่ทะเลาะกัน ผ่านมาเกือบ 20 ปี แล้วยังอยู่กันดีอยู่
สงสัยผลจากการไม่ทะเลาะกันบนภูกระดึงครั้งนั้น...
ถ่ายรูปกับป้าย..เป็นที่ระลึก
ขอพรพระ..ให้ยายเดินไหวเน้อ......สาธุ
เอ้าเดิน..และก็เดิน......
ถึงแล้วซำแฮก...สภาพยายกับหลาน...62 ปีกับ13 ปี สู้ๆๆ
ได้ซื้อของบนซำแฮก......หมดไปหลายตังส์..หนูจะเอาไปฝากเพื่อน...ทั้งห้อง
คราวนี้พาท่านผู้เฒ่ามาด้วย เลยตั้งเป้าหมายไว้ที่ ซำแฮก แล้วเดินลง กลัวผู้เฒ่าเป็นลม
อย่ากระนั้นเลย ไปนอนเชียงคานดีกว่า..
ณ ริมฝั่งโขง..ลาวอยู่ฝั่งโน้นเอง.เดินต่อหาที่พัก..อ๊ะ..ที่นี่ดีกว่า
พักที่บ้านเคียงโขง ห้อง 4 คน 1,000 บาท
น้ำหยิบเองได้ไม่จำกัดจำนวนว่ากี่ขวด มีกล้วยวางให้กินทั้งวัน เจ้าของก็ใจดีมากๆๆ
พระอาทิตย์ตกที่..เชียงคาน.
คืนนี้..เที่ยวถนน ดูคนเดิน ณเชียงคาน....จนหลับแบบนี้..คร่อกๆ..ช้างสะกิดก็ไม่ตื่น
วันที่ 5 เลย ไปอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
ตื่นเช้า หมอกลงจัด เดินชมบรรยากาศรอบ ๆ ที่พักอีกครั้ง สดชื่นดี
ตักบาตรข้าวเหนียว กิจกรรมที่ควรทำ....
ณ ยามเช้าที่เชียงคาน
ไปดูทะเลหมอกที่ภูทอก มีรถบริการพาขึ้นภูทอกด้วยไป-กลับ คนละ 25 บาท
สะดวกมาก ขึ้นไปแล้วอยากนั่งเล่น ค่อยกลับกับรถคันต่อไปคันไหนก็ได้เขาวิ่งเป็นคิว
ยายโชคดี รออยู่นาน ลมช่วยพัดหมอกที่ฟุ้งกระจายออก..มองเห็นทะเลหมอกแล้ว..นั่นไง
ต่อด้วยแก่งคุดคู้ ตามสูตรที่เขียนไว้ข้างฝาผนังที่พักแล้วมุ่งหน้าสู่ภูเรือ
ถึงภูเรือก็ติดต่อเช่าบ้านพัก จ่ายตังส์ได้ใบเสร็จแล้วแต่ยังไม่เอากุญแจ..ฝากไว้ก่อน
เหมารถกระบะขึ้นไปเที่ยวยอดภูเรือ..กลับลงมาขอกุญแจ..เจ้าหน้าที่บอกว่า..มีคนมาเอากุญแจไปเปิดห้องแล้ว......เลยงง..ก็ยังอยู่กันครบ..แล้วจะมีญาติฝ่ายไหนมาเอาไปน่ะ...นึกยังไงก็ไม่มี
เจ้าหน้าที่เลยไปตามผู้ที่ใช้ห้องของเรามาเจอกัน
เขาว่า..น้องก็พี่ฝากชื่อจองไว้กับน้องคน...ก่อนขึ้นไปเที่ยวบนภูไง..แต่ยังไม่จ่ายตังส์เขาว่าค่อยลงมาจ่าย..
เอ้า..สรุปว่าเขามาจองก่อน(ปากปล่า..แต่ยังไม่จ่ายตัง)เรามาทีหลังจ่ายตังส์ได้ใบเสร็จ...ทำไงล่ะทีนี้..
ห้องพักก็หมดแล้ว ดูเวลาน่าจะไปเขาค้อทัน..
การเสียสละครั้งเล็กๆ เอาใบเสร็จเราให้เขา ..เอาตังส์เขามา..
แล้วเราก็ไปต่อ..ไปหาเอาข้างหน้า..ตามสโลแกน..ค่ำไหนนอนนั้น..
และแล้วก็ถึงเขาค้อ..อย่างปลอดภัย หลังจากขึ้นเขา เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา เจองูยักษ์เลื้อยผ่านหน้า(สงสัยเจ้าป่า)
ก็ได้ที่พักตามป้ายข้างทาง วิธีเลือกก็เลือกป้ายเล็กๆ เผื่อไม่แพง..
ที่ไหนได้เข้าไปแล้วเจอแบบนี้..เสร็จเจ้าตัวเล็กกะคุณยายสิงานนี้...ได้ที่นอนแล้ว....เย้...
ได้พักที่ เขาค้อวัลเลย์ บ้านทั้งหลัง 2,100 บาท..ไม่ใช่หลังนี้น่ะ..นั้นแผนกต้อนรับ
นู๋นอนหลังนั้นแหละค่ะ......ที่อยู่ข้างหลังไงค่ะ
วันที่ 6 เพชรบูรณ์ ไป อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์
เช้ามาออกเดินสำรวจ...ไม่เจอใครเลย.......เมื่อคืนมีแต่บ้านเราหรือเปล่า..
โพสต์ท่าถ่ายรูปก่อน..123..
กับมื้อเช้าก่อนออกเดินทาง...
หลังอาหารเช้าแสนโอชา(ไม่แพง..เมื่อเทียบกับภาคใต้ต่างกันลิบ)มุ่งหน้าไปทุ่งแสลงหลวง.
ถึงพิษณุโลก ไปศาลสมเด็จพระนเรศวร ผู้เฒ่าชอบมาก แดดร้อนยังสู้ ไม่มีบ่น
เลยทอนรูปบูชาแบบลอยตัวมาไว้ที่บ้านซะเลย...คนแก่บายใจนิ
รวมใจไปไหว้พระพุทธชินราช ที่พิษณุโลก องค์จริงงามมาก.
ได้สมุนไพรมาเพียบ สดๆ ก็มาก เป็นแค็ปซูลก็ถูกกว่าซื้อในร้านแถวบ้านเยอะ
หลังจากช็อปปิ้งยาเสร็จ ก็เดินทางถึงพิจิตร.วิ่งสายนอกเมือง..เจอ..ทั้งหลุมเจอทั้งบ่อ ทำเวลาไม่ได้..คราวหน้าไม่เอาทางนี้ดีกว่า
แวะเข้าไปดูขจรฟาร์ม แล้วจะพักที่ขจรรีสอร์ท..ด้วยความไม่รู้ว่า...เขาเลิกกิจการไปแล้วค่า..เย็นแล้วรีบหาที่พักดีกว่า..มาถึงอ.หนองบัวจึงพบกับที่นี่..
พักที่เพ็ญวิภารีสอร์ท หลังละ 450 บาท
วันที่ 7 นครสวรรค์ ไปเกาะประวัติศาสตร์กรุงเก่า อยุธยา
ผ่านชัยนาท แวะ7-11 แล้วเข้าสุพรรณบุรี เที่ยวบึงฉวาก
ซื้อของที่ตลาดสามชุก เคยมาแล้วครั้งนึง ก็ยังเหมือนเดิม เขารักษาความเป็นสามชุกได้ดีมาก
มีขายทุกวัน ไม่ได้เป็นตลาดจัดฉากเหมือนบางที่...
เข้าไปในจังหวัดอ่างทอง
แบบเฉียดทางหลวง ออกมาโผล่ที่ อยุธยา
ครั้งก่อนมานอนที่โรงแรมนอกเกาะ คราวนี้ขอนอนติดชิดโบราณสถาน เอาแบบเดินออกมาก็เห็นแล้ว
ให้ซาบซึ้งกับแหล่งวัฒนธรรมสักที เพราะทุกที
พักนอกเกาะ นั่งรถมากลางวันแล้วนั่งรถกลับ
หลายครั้งยังรู้สึกไม่ถึงอยุทธยาสักทีกลางคืนที่ในเกาะประวัติศาสตร์
เงียบมาก
หมาริมถนนเยอะด้วย หากอยากเดินเล่น น่าจะเตรียมอาวุธไว้ป้องกันตัวสักนิด...
ตอนกลางวันไม่เห็น...แต่กลางคืน..น่ากลัวค่ะ
พักที่ บ้านบัวเกสเฮ้าส์ห้องละ 500 บาท 4 คน
วันที่ 8 อยุธยา ไป หาดบ้านกรูดอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
บรรยากาศยามเช้า..ริมแม่น้ำ...
เช้ามาจัดการกองกำลังกันก่อนที่ริมน้ำ ในบริเวณที่พัก
อิ่มแล้วมุ่งหน้าลงปทุมธานี นนทบุรี รถติดค่ะ ติดมาจนถึงแยกเข้าหัวหิน เลยมาค่อยโล่งหน่อย
ถึงประจวบฯก็เลี้ยวซ้ายเข้าหาดบ้านกรูด บรรยากาศดีทีเดียว
บรรยากาศริมหาดบ้านกรูด
พักที่ศาลาไทยบีช รีสอร์ท หลังละ 1,300 บาท รวมอาหารเช้า 4 คน
บรรยากาศภายในที่พัก
มื้อค่ำ....แสนอร่อยและราคาย่อมเยา............
หมดสภาพ.......ไปตามๆกัน
วันที่ 9 ประจวบคีรีขันธ์ สู่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา รวมค่าน้ำมัน ไม่เกิน 8,500 บาทเพราะยังเหลือในถังน้ำมันอีกเพียบ ค่าอาหาร 4 คน 6,550 บาท ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน 650 บาท
กลับบ้านอย่างปลอดภัย ด้วยความรู้สึกว่า ...เฮ้อ..ที่ไหนก็ไม่น่าอยู่เท่า..บ้านเราเอง..คิดถึงบ้านจัง
สรุป..ไปเที่ยวกันเถอะ..เพื่อให้รักบ้านมากกว่าเก่า.................
น่าสนใจนะคะ...อยากทราบรายละเอียดการจองที่พัก...เผื่อตามรอย...เส้นทางไปเที่ยวบ้างนะคะ...ขอบคุณค่ะ
ลพี่ครับ
ลูกสาวโตแล้ว
พี่รัตน์ยังสดชื่นแจ่มใสดี เย้ๆ
ข้อมูลการติดต่อที่พัก...ที่ลงไว้ให้..คาดว่าทางเว็บไซค์คงลบทิ้งไป
อาจจะขัดกับนโยบายเว็บ...
เอาเป็นว่าทุกที่สามารถค้นหาผ่าน กูเกิ้ล ได้ค่ะ
ลพี่ครับ ลูกสาวโตแล้ว พี่รัตน์ยังสดชื่นแจ่มใสดี เย้ๆ |
ก็พี่ตามใจทุกอย่างนี้ค่ะ..น้องขจิต..
อยากทำอะไร..ให้ทำได้หมด..ยกเว้น..มีกิ๊ก...