เด็กจากกองขยะมาเป็นครู .....จึงกลายเป็นครูกับกองขยะ


ครูหยิน
เป็นครูคนหนึ่งที่เติบโตจากครอบครัวที่ยากไร้ ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก อดมื้อกินมื้อจนบางครั้งต้องรื้อคุ้ยถังขยะหาเศษอาหารมารับประทานเพื่อประทังความหิวโหยชีวิตจึงดูเหมือนไม่ได้ใช้ประสบการณ์ในวัยเด็ก เพราะทันทีที่ลืมตามาดูโลกเท่าที่จำความได้ต้องแบกรับภาระหน้าที่รับผิดชอบครอบครัว ทำมาหาเลี้ยงชีพ
เลี้ยงครอบครัว เพราะความจนจึงต้อง ดิ้นรน อดทนต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อให้หลุดพ้นจากวิถีดังกล่าว มีความมุ่งมั่น มานะ อดทน ประหยัด อดออมต่อสู้เพื่อให้ได้มีโอกาสได้ศึกษาต่อซึ่งเป็นวิธีเดียวที่จะหลุดพ้นจากบ่วงชีวิตแห่งความจนด้วยการทำงานรับจ้างทุกรูปแบบอาทิเช่น รับจ้างเลี้ยงเด็ก รับจ้างกรีดยาง รับจ้างดำนา รับจ้างเกี่ยวข้าว รับจ้างถากหญ้าโคนต้นยางตามฤดูกาลที่เหมาะสม ปิดเทอมระยะยาวรับจ้างทำงานแม่บ้านและทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมไม้แปรรูปจนสามารถฝ่าวิกฤตได้มีโอกาสได้เข้าศึกษาต่อในในมหาวิทยาลัย  เลือกที่จะเรียนสถาบันที่มีทุนให้การสนับสนุนและทุนที่มีงานทำ คือ นักเรียนทุนรังสีเทคนิค คณะแพทย์ศาสตร์  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตหาดใหญ่  จึงได้รับทุนในการลงทะเบียนในการศึกษา พร้อมกับรับจ้างกับทำงานแลกเปลี่ยนให้กับมหาวิทยาลัยเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเพื่อความอยู่รอดของชีวิตจึงได้ใช้เวลาในวันหยุดเข้าร่วมกิจกรรมค่ายต่าง ๆ ที่มหาวิทยาลัยจัดขึ้นเพื่อประหยัดค่าอาหารรายวันและในที่สุดได้ร่วมเป็นคณะกรรมการค่ายอาสาพัฒนา ประสบการณ์ชีวิตชาวค่ายจึงได้หล่อหลอมให้มีความเชื่อมั่น อดทน ต่อสู้ มีความคิด ความพอเพียง ความพอประมาณทำงานเพื่อสังคม มีอุดมการณ์ สืบสานงานเพื่อมวลชน คิดในเชิงสร้างสรรค์เป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่หนุนนำต่อเนื่องเป็นเกลียวคลื่นเปลี่ยนวิถีการงานในโรงพยาบาลเป็นวิชาชีพ“ครู” จึงได้เดินทางตามความฝันยึดมั่นในอุดมการณ์ใช้ประสบการณ์เดิมเป็นบทเรียนที่มีคุณค่าการได้ทำหน้าที่ครูจึงสมบูรณ์แบบ นำความดีงามตามคำสอนของพ่อ
                ความยากลำบากจึงเป็นบทเรียนที่มีคุณค่า  ประสบการณ์แห่งการต่อสู้และดิ้นรน สั่งสมความคิด  จึงนำวิถีชีวิตที่พอเพียงมาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะการใช้ชีวิตอย่างพอเพียงมาโดยตลอดโดยจัดเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยการเข้าค่าย หลากหลายรูปแบบตลอดระยะเวลาที่ประกอบวิชาชีพครู 23  ปี จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในรูปแบบของค่ายมากกว่า 100 ครั้ง ด้วยการนำวิถีชีวิตของตนเองเป็นต้นแบบแห่งการเรียนรู้ความพอเพียงพอประมาณความดีงาม เพราะเชื่อมั่นว่า การเป็นแบบอย่างที่ดีมีค่ามากกว่าคำสอนใด ๆ การเป็นคนต้นแบบให้ผู้อื่นได้ศึกษามีคุณค่ามากกว่าตำราเล่มใหญ่ ๆ จากการที่ได้พานักเรียนศึกษานอกสถานที่จริงในธรรมชาติ เช่น  แม่น้ำ ภูเขา ทะเล  และป่าชายเลน สุดท้ายธรรมชาติเริ่มร่อยหรอ เสื่อมโทรมลงไปทุกวัน พร้อมกับความชราภาพของครูจึงต้องคิดใหม่ทำใหม่ ด้วยจากการใช้ชีวิตที่พึ่งพาตนเอง  ประหยัด มัธยัสต์ อดออม และขยันหมั่นเพียรต่อสู้กับงานทุกรูปแบบโดยไม่ย่อท้อ จึงเกิดผลของใช้ชีวิตอย่างพอเพียงจึงมีเพียงพอที่จะแบ่งปันให้กับสังคม
จึงใช้งบประมาณส่วนตนสร้างแหล่งเรียนรู้ในรูปแบบไร่นาสวนผสมใช้ชื่อว่า  “บ้านสวนไอดินกลิ่นป่า”
ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ในการจัดกิจกรรมค่าย ให้บริการพรรณไม้กับผู้สนใจและชุมชน
และใช้เป็นที่พักของคนเดินทางในรูปแบบของความพอเพียง โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ใด ๆ เพราะพอเพียงจึงเพียงพอเมื่อเพียงพอก็ต้องแบ่งปัน ชีวิตจึงเดินมาไกลเลยความฝัน เพราะเหนื่อยจึงก้าวมาไกล
เพราะให้จึงได้ทุกอย่าง
ชีวิตที่เหลืออยู่จึงต้องทดแทนบุญคุณให้กับแผ่นดินด้วยการทำความดี

หมายเลขบันทึก: 544169เขียนเมื่อ 31 กรกฎาคม 2013 08:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 กรกฎาคม 2013 08:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

เพราะเพียงพอ  จึงพอเพียง

ขอบคุณบันทึกดี ๆ จ้ะน้องครูหยิน

ชีวิตมีคุณค่า...ประสบการณ์ทำให้เราก้าวมาถึงจุดนี้ได้ จะถ่ายทอดต่อไปอย่างไร ที่ทำให้ลูกมีความพยายาม

มีความมุ่งมั่น...จะประสบกับความสำเร็จที่มีแสงสว่างทางเทียนนำทาง....อย่างครูได้

อย่าท้อนะครับ...สู้..สู้

ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจ    เด็กก้คือผ้าขาว ที่เราจะวาดสีอะไร
 
ลงไปก้ได้เราเลือกสอนส่ิงดี ๆ  ข้อคิดดี ๆเราจะต้องให้เขาเป้นคนดีให้ได้
 
เติบใหญ่จะไม่คอรัปชั่น

เมื่อชีวิตมีพื้นฐานไม่ต่างกัน บันทึกที่ได้อ่านจึงเหมือนกระจกที่สะท้อนอดีตของตัวเองอีกครั้ง... แม้ชีวิตจะมาจากขีดลบ แต่จะต้องไม่จบด้วยการขาด เมื่อใฝ่ดีมีพลังและมุ่งมาด ก็นำชีวิตเราและครอบครัวให้สุขสบาย และแบ่งปันสิ่งที่มีให้คนรอบข้างได้ ดีใจที่เจอคนที่มาจากจุดที่คล้าย ๆ กันครับ

ลิขิตฟ้า..หรือจะสู้ลิขิตตน
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆค่ะ

เป็นบันทึกที่มีคุณค่ามากๆนะคะครูหยิน...ขอบคุณค่ะ

 ครูหยินก็ดีใจที่พบคนคล้ายกันซึ่งมาเจอมาแล้วหลายคน   
 
ชีวิตครูหยินกว่าจะเรียนจบได้สะสมประสบการการเป็นนักสู้..
 
มากมาย ตื่นนอนตี ๑ ลุกขึ้นกรีดยาง   พอรุ่งเช้ากลับมาอาบน้ำ
 
แต่งตัวไปโรงเรียน...ไม่มีเงินจ่ายค่ารถโดยสารจึงต้องเดินด้วยเท้าเปล่า
 
เอารองเท้าไปสวมที่โรงเรียน หลายครั้งที่ถูกล้อ เพื่อนดูถูกในความ
 
ยากจน จนทำให้เราขาดความเชื่อมั่นในตนเอง...ชีวิตเราก็ต้องสู้น่ะ
 
 

ขอบคุณมากสำหรับกำลัง เราเลือกเกิดไม่ได้

 

แต่เลือกที่จะทำความดีได้

 

และการทำความดีก็ไม่มีข้อจำกัด

ขอชื่นชมในความขยันอดทนครับ....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท