๑
น้ำตาแม่หยดไหล...ไม่มีเสียง มีแต่เพียงคำอวยพรพร้อมสอนสั่ง
ว่าไปดีมีชัยให้ระวัง อย่าพลาดพลั้งเพราะเหตุการณ์อันตราย
พี่น้องร่วมแผ่นดินเราเขาเป็นทุกข์ ถึงเราสุขประเทศไทยไร้ความหมาย
หากทหารไม่ตายใครจะตาย ลูกผู้ชายเพื่อชาติพร้อมชีพยอมพลี
ถึงเป็นพลทหารจากบ้านนอก แม่ก็บอกให้ภูมิใจในหน้าที่
ใบแดงจับรับใช้ชาติเพียงสองปี แต่เกียรติศักดิ์จักมีชั่วชีวิต
น้ำตาลูกก็ไหล...จะไกลแม่ ซึ่งใจแท้ถ้อยคำนั้นตื้นตันจิต
ดั่งเปลวเทียนส่องดวงใจไม่มืดมิด ส่องความคิดสู่ทิศทางสร้างความดี
สองแขนแม่กอดลูกไว้ในห้วงรัก อุ่นยิ่งนักวันจะลาสู่หน้าที่
ก้มกราบเท้าซับมงคลล้นชีวี ไปครั้งนี้เพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน
๒
บนถนนสายหนึ่ง-ปัตตานี หลังจากเขาทำหน้าที่จนเสร็จสิ้น
คุ้มครองครูและนักเรียนจนเหงื่อริน ลมประทิ่นกลิ่นเช้าพอชื่นใจ
แต่กลับเป็นเช้าวันอันโชคร้าย เงาความตายทอทาบอยู่หารู้ไม่
พอระเบิดดังลั่นขึ้นทันใด สิ่งที่เหลือคืออะไรในยามนี้ ?
เพื่อนทหารสองนายใกล้ใกล้เขา ภาพน่าเศร้าจมกองเลือดเกินหลีกหนี
แขนไปทางขาไปทิศปลิดชีวี เขาเลือดปรี่เจียนหมดกายทุรายทุรน
ลมหายใจในเรือนร่างอันรุ่งริ่ง ยิ่งเหลือยิ่งเจ็บปวดรุมทุกขุมขน
พอสองมือได้กำหมัดกัดฟันทน จึงรู้ตนว่าบัดนี้รอดชีวา
ภาพหนึ่งพลันผุดให้เห็นเป็นภาพแม่ ดีใจแท้ได้รอดตายกลับไปหา
พอได้ยินเพลงชาติแว่วแผ่วลมมา จะยืนตรงแต่ทว่า.....ขาไม่มี
๓
ทุกวันแปดนาฬิกาหน้าตลาด หนุ่มขาขาดนั่งรถเข็นมาที่นี่
คนเห็นเขาร้องเพลงชาติองอาจดี ก่อนร้องขายลอตเตอรี่เลี้ยงชีวิต.
---------------------------------------
เหตุการณ์ตอนแปดนาฬิกา ของ จักรินทร์ สร้อยสูงเนิน
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ : บทร้อยกรองชนะเลิศ กลุ่มนิสิต นักศึกษา ประชาชน
ก้าวที่สองวรรณกรรมรามคำแหง ปี ๒๕๕๕
ไพเราะและเศร้ากับเหตุการณ์ค่ะ
พี่น้องร่วมแผ่นดินเราเขาเป็นทุกข์ ถึงเราสุขประเทศไทยไร้ความหมาย
หากทหารไม่ตายใครจะตาย ลูกผู้ชายเพื่อชาติพร้อมชีพยอมพลี
เหตุการณ์ตอนแปดนาฬิกา...ซาบซึ้งมากค่ะ...ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณ คุณ noktalay ที่เข้ามาให้ดอกไม้และความเห็น อารมณ์เดียวกันเลยค่ะ ^^
ขอบคุณ ดร.พจนาค่ะ ทั้งให้ดอกไม้และความเห็นจากหลาย ๆ บันทึกที่ผ่านมาด้วย ^^