อิสรภาพคือการได้อยู่ในกรงที่เรารัก


"อิสรภาพ คือการได้อยู่ในกรงที่เรารัก"
ประโยคในหน้าสุดท้าย ของหนังสือที่เป็น 'Talk of the town'
'การลาออกครั้งสุดท้าย' ของคุณภานุมาศ ทองธนากุล
เล่มนี้ อาจทำให้หลายคน อยากเป็นนักว่างงาน
แต่ข้าพเจ้า อ่านแล้ว รู้สึกตรงข้าม
...
ข้าพเจ้ารู้จัก วิชาแนะแนว  ตั้งแต่มัธยมต้น
แต่ก็ไม่เคยขอคำปรึกษาจากท่านอาจารย์เลย
ชีวิตไหลตามสายพานมาเรื่อยๆ
จนถึงทางแยก ระหว่าง ออกไปใช้ทุน เรียนต่อข้างใน หรือ ไปทำอย่างอื่น
ข้าพเจ้าก็ใช้ 'ความฝันเป็นอาจารย์' เลือก โดยไม่ได้ปรึกษาใคร
...
เมื่อวันหนึ่ง ที่มีรุ่นน้องมาปรึกษา
ข้าพเจ้าแนะนำสิ่งที่ข้าพเจ้าหวังได้ทำ ตอนอายุเท่าเขา
แบบทดสอบบุคลิกภาพ MBTI หรืออะไรก็แล้วแต่
...
รู้อะไร ก็ไม่เท่ารู้จักตนเอง
ทุกคนมีศักยภาพเป็นประโยชน์
ทุกที่มีความดีของมัน
เพียงแต่ ศักยภาพก็เหมือนเมล็ดพันธ์พืช
เติบโตแข็งแรง ในดินที่ 'ใช่'
...
แต่มนุษย์ ยังโชคดีกว่า เมล็ดพืช
ที่เรามีระบบปรับตัว และมีขา :)

เสน่ห์ หนังสือเล่มนี้ ของคุณภานุมาศ
คือ แทนที่จะบอกแบบกูรูในหนังสือตระกูล  'How to'
เขาใช้วิธีเล่าประสบการณ์ของมนุษย์ธรรมดา ผู้มีผิด ถูก ทุกข์ สุข
จึงสามารถเชื่อมโยง - connect กับมนุษย์ธรรมดา รวมทั้งข้าพเจ้าอย่างอยู่หมัด
...
โดยเฉพาะในสองหน้าสุดท้าย (ที่มา จาก Facebook ของหนังสือ)

"ยังจำได้เลยครับ ตอนตรวจต้นฉบับเล่มนี้ก่อนส่งสำนักพิมพ์
ผมเกิดคำถามขึ้นมาว่า ถ้าให้กลับไปเลือกทางเดินให้ชีวิตตัวเองอีกครั้ง
ผมจะยังเลือกเส้นทางนี้อยู่หรือไม่?
.
คิดแล้วคิดอีก ก็ได้คำตอบว่า จะตัดสินใจแบบเดิม
คือเริ่มงานกับบริษัทที่ผมมีความเชื
่อมั่น เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์
พร้อมๆ กับสะสมความมั่นคงปลอดภัยในมิติอื่นๆ ของชีวิต
.
แต่ผมจะไม่เปลี่ยนงานบ่อยอย่างที่เป็นมา
หากอยู่ๆ ไป เกิดไม่มีความสุขกับงานที่ทำ
ผมจะไม่ชิงหนีปัญหาด้วยการลาออก
แต่จะถามตัวเองให้แน่ใจว่า กำลังอยู่บนเส้นทางสู่เป้าหมายของตัวเองอยู่รึเปล่า?
.
หากคำตอบคือ ใช่ ผมจะอดทนต่อไปอย่างเชื่อมั่น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
แต่ถ้าเป้าหมายก็ไม่ใช่ แถมยังต้องทุกข์ทรมานอยู่ทุกนาที
ผมจะรีบเปลี่ยนงานให้เร็วที่สุด! "

- ภาณุมาศ ทองธนากุล

###

ขอบคุณหนังสือเล่มนี้..
ที่ทำให้ข้าพเจ้านึกขอบคุณในกรงที่ไม่รัก
หากแต่มีคุณค่า..
เพราะนำพาข้าพเจ้าได้พบ กัลยาณมิตร
เพราะสอนให้ข้าพเจ้าเรียนรู้ ที่จะเรียนรู้ 
และสอนให้รัก ที่จะรัก

แล้วกรงที่เรารักอยู่ที่ไหน?
" พาตัวเองไปอยู่ในที่ที่มีคนเห็นคุณค่าของเรา
หรือไม่...ก็เลือกอยู่ในที่ที่เราเห็นคุณค่าในตัวเอง"

- ภาณุมาศ ทองธนากุล

==========================

update 29 ก.ค. 2556
การอ่านคำนำ ทำให้เข้าใจ
ไม่มีใครเติบใหญ่ โดยไร้มือประคอง
 
คำนำ 'Because we living in a material world'  โดยคุณภูมิชาย บุญสินสุข
ผู้เป็นผลัก 'tipping point' จากการขยายผล  'วิชาเลี้ยงเงิน'
ทำให้นักเขียนหนังสือแนวเดินทาง 'คนหนึ่ง' มาเป็นนักเขียนแนวปรัชญาชีวิต 'คนสำคัญ'

หมายเลขบันทึก: 543951เขียนเมื่อ 29 กรกฎาคม 2013 07:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 เมษายน 2014 17:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

อรุณสวัสดิ์ วันแรกของการทำงานในฐานะมนุษย์เงินเดือนอย่างเรานะครับ ;)...

อ่านบันทึกของคุณหมอบางเวลาเป็นคนแรกของวันนี้และเช้านี้

ทำให้คิดถึงคลิปสั้นที่เขาทำเรื่องนี้ไว้ ...

 

ที่มา : http://www.youtube.com/watch?v=uyrN1fEF_HM

 

หนังสือเล่มนี้พิมพ์ครั้งล่าสุด เท่ากับ ครั้ืงที่ ๒๔ แล้วนะครับ ... ขายดีไม่เลิกรา

 

" พาตัวเองไปอยู่ในที่ที่มีคนเห็นคุณค่าของเรา
หรือไม่...ก็เลือกอยู่ในที่ที่เราเห็นคุณค่าในตัวเอง"

- ภาณุมาศ ทองธนากุล

เห็นด้วยที่สุดครับ ;)...

ส่งกำลังใจไปให้คุณหมอบางเวลานะครับ
หากมีเวลาจะแวะเยี่ยมเยือนครับ ;)...

หนังสือน่าสนใจมากครับ จะลองหาอ่านดู ขอบคุณมากครับผม

หนังสือเรื่องนี้ ดูเผินๆ เหมือนไอเดียของธุรกิจขายตรงนะครับ อิสระทางการเงินและอะไรต่างๆ นานา และเหมือนที่คุณหมอ ป. บอกว่าทำให้คนอยากเป็นนักว่างงาน

แต่จริงๆ แล้วมันคือการได้ทำอะไรที่เรารัก โดยไม่เน้นที่รายได้ เงินเดือน แต่เอาเป้าหมายชีวิตและความสุขในการทำงานเป็นตัวตั้ง :)

 

ถ้าไม่มีกรงอยู่คงไม่ดี "ถ้าไม่ได้ทำงานที่เรารัก ก็ต้องรักในงานที่เราทำ"

เป็นปรัชญาชีวิต ที่คนวัยทำงานซึ่งทำงานในหน่วยงาน บริษัท สถานประกอบการ ฯลฯ ควรอ่านนะคะ

ขอบคุณอาจารย์หมอ "ป."ที่นำมาแบ่งปันนะคะ ขอบคุณ "อ.เสือ ชื่อนี้ใครบอกนะ หรือ อ.หน่อย ชื่อนี้ คุณอักขณิช เรียก" ด้วยค่ะ ที่มีคลิปสั้นที่เกี่ยวข้องมาฝาก ตอนนี้อยู่กับลูกสาวที่กทม.ใช้ Internet ความเร็วสูง เลยเปิดดูได้ค่ะ ไม่เหมือนใช้ Internet ตราหอยทากที่ฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้ ที่แค่ดูภาพนิ่งยังไม่ค่อยจะได้ 

- พี่ชาย...เคยอ้อนวอน คนบางคน...ให้เห็นคุณค่าในตัวของพี่ชาย...หรืออย่างน้อย ก็ความดี ความซื่อ ความจริง ที่พี่ชายได้ทำมา...

- ผล เป็นตรงข้าม...แถมเจ็บช้ำหนัก เพราะถูกนำไปเปรียบเทียบซะอีก....

- การสุกงอมทางความรู้สึก...ได้ในการเรียนรู้แก่พี่ชาย ว่า...

- " โง่เอง "...ที่พยายาม ไปขอเป็นคนมีคุณค่า จากคนอื่น...

- นับจากวันนั้นมา...พี่ชาย...อิสระ.. ปราศจาก " กรง " ที่บรรจงสร้างขึ้นมาสุดชีวิต....

- ขอบคุณบันทึกนี้ของน้องมากนะครับ...ฝนตกตลอดเลย ดูแลสุขภาพด้วยนะครับน้องเรา

พี่ชาย ชยพร  แอคะรัจน์

ขอบคุณครับคุณหมอ ป.

มาอ่านถูกเวลา ขณะที่ใจแกว่งๆครับ

ต้องไปหามาอ่านเต็มเสียแล้ว

ขายดีไม่เลิกรา..เขียนโดย คนที่ครั้งหนึ่งกลุ้มแทบคลัง หลังจากว่างงาน
นึกถึงประโยค
"Life is very interesting... in the end, some of your greatest pains, become your greatest strengths"
โดย Drew Barrymore 

ผมอ่านเรื่องนี้แล้ว ดูเหมือนว่าเขาเลือกทำในสิ่งที่เขารักมากกว่า

ขำตอนที่แฟนเขาพาไปพบเพื่อนแล้วเพื่อนแฟนบอกว่า น่าจะหาได้ดีกว่านี้นะ 555


ขอบคุณคะ อาจารย์วสะ อาจารย์ขจิต ที่ชุประเด็นนี้ขึ้นมาคะ
ธุรกิจขายตรงมักหยิบยกเรื่องนี้เชิญชวนสมาชิก
ช่วงที่ที่คุณภานุมาศสัมผัส "อิสรภาพทางการเงิน" บรรยายการเปลี่ยนผ่านจาก
ระยะ 'ยินดีที่ได้ว่างงาน' สองเดือนแรก
ไปสู่ระยะ "ว่างจัด" และระยะสุดท้าย 'ช่วงฝุ่นฟุ้ง" แบบนักวิจัยที่ทดลองแทนคนอื่น
(แบบที่ อ.ประมวล เดินจากเชียงใหม่ไปสมุย)
...
อิสรภาพ ไม่ใช่การมีเวลาทำตามใจเรื่อยเปื่อน แต่เป็น การมีเสรีในการออกแบบชีวิตของเราเอง

ยังพอมีเสรีในชีวิตบ้าง  ....  กรงใหญ่พอควร  หรือเป็นผู้นำในบางเรื่อง  เพื่อจะได้ออกแบบชีวิตเอง

ขอบคุณแง่คิดดี ๆนะคะ

ปล.ระวังเขียนพลาด  จาก อ.วสะ  อย่าสลับเอา ส. ขึ้นก่อนเชียวนะคะ  ๕ ๕ ๕ ๕ 

น่าสนใจ  จะหามาอ่านค่ะ

ชีวิตบางครั้งก็ออกแบบได้ บางครั้งก็ออกแบบไม่ได้ค่ะ

พี่เคยมีประสบการณ์ "ชีวิตที่ออกแบบไม่ได้" แต่อยู่ได้อย่างนิ่งและเนียน 

อ่านหนังสือของอ.ประมวล ๒ รอบ ชอบมาก ซื้อมอบให้คนที่รักเคารพตอนเกษียณหลายท่าน  ท่านหนึ่งมาบอกว่า "ผมอ่านจบแล้ว ชอบมากครับ"  เวลาแนะนำหนังสือดี หรือซื้อหนังสือให้ใครนี่เป็นความสุขอยู่นะอาจารย์

ขอบคุณคะ สำหรับมุกน่ารักๆ

 Internet ตราหอยทากที่ฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้ ที่แค่ดูภาพนิ่งยังไม่ค่อยจะได้ 

:)

อ่าน 'กรงที่รัก' ของแต่ละท่าน แล้วมีกำลังใจ :)

มาด้วยคิดถึงค่ะ คุณหมอ ป.

คุณหมอสบายดีนะคะ

 

เคยเป็น " นกน้อยในกรงทองที่แสนจะอีดอัดด้วยความรักกรง จึงยอมขังตัวเองอยู่ " พอหลุดออกจากกรงได้ใหม่ๆ ก็ไม่ชิน ....

            ใช้เวลาพอควรในการปรับตัว......ค้นพบว่าอิสระนั้นแสนหวาน .....ท้องฟ้านั้นกว้างใหญ่ จะเลือกบินไปที่ใดก็ได้ตามแต่ใจ

            ต้องการ

 

เคยเป็น " นกน้อยในองค์กร ....เฝ้าเพียรพยายามฝึกฝนตนเอง...เป้าหมายอยู่บนหอคอย....ไต่บันไดลิงมาเรื่อยๆ เมื่อใกล้ถึงเป้าหมายที่คิดว่าใช่ หลายๆ ที่ หลายๆ องค์กร  ที่สุดแล้วกลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่ .....และรีบกระโดดออกมาอีกครั้ง ......แม้ยังไม่พบสิ่งที่คิดว่าใช่ที่สุด ...แต่ก็มีอิสระในการบินด้วยตัวเอง ....จะหมดแรงตกลงมาเมื่อใดก็ยังไม่รู้ ....แต่ใจก็ยังสู้ สู้ยังไม่ถอย....

ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันค่ะคุณหมอ

...รู้อะไร ก็ไม่เท่ารู้จักตนเอง
ทุกคนมีศักยภาพเป็นประโยชน์
ทุกที่มีความดีของมัน
เพียงแต่ ศักยภาพก็เหมือนเมล็ดพันธ์พืช
เติบโตแข็งแรง ในดินที่ 'ใช่'
...
แต่มนุษย์ ยังโชคดีกว่า เมล็ดพืช
ที่เรามีระบบปรับตัว และมีขา :) ...

ขอบคุณบันทึกดีๆค่ะคุณหมอ;))

ขอบคุณคร่าอาจารย์ ที่ทำให้วันนี้มีมุมมองกับชีวิตที่กว้างขึ้น...ขอบคุณคลิปดีๆจากอาจารย์ Wasawat ที่ทำให้วันนี้มีรอยยิ้มค่ะ _/\_

ขอบคุณมาก ๆ สำหรับสิ่งดีดี  ในมุมมองของชีวิต ซึ่งนับวัน เริ่มจะโรยลาลง   แต่ก็ยังคงอาศัย กำลังใจ กำลังศรัทธาจากเพื่อนร่วมโลก ที่มีมาให้อยู่เมื่อเชื่อวัน   ขอบคุณจริง ๆ ครับ

ดีใจคะ ที่ร่วมเป็นแรงใจให้เพื่อนร่วมทาง :)

พี่โอ๋เชื่อว่ามีน้อยคนที่จะโชคดีได้ทำอะไรที่ไม่ใช่อยู่ในกรงนะคะ โดยเฉพาะคนไทยเรา เพราะของออสเตรเลีย อายุ 50 เขายังเปลี่ยนอาชีพได้อยู่เลย พี่โอ๋เจอมาสองสามคนทึ่งมากๆกับแนวคิดนั้น บอกพวกเขาว่า บ้านเราน่ะเป็นไปไม่ได้เลย (แอบวงเล็บในใจว่า ถ้าไม่บ้าจริงๆ) เพราะบ้านเราต้องเลือกเส้นทางกันมาตั้งแต่สอบเข้ามหาวิทยาลัย แล้วชีวิตก็ดำเนินไปตามเส้นทางนั้นจนถึงบั้นปลาย แม้จะค้นพบว่าไม่ใช่สิ่งที่ตัวเราชอบ หรือมองเห็นว่ามีแนวทางอื่นที่เราอยากทำ ก็ยากที่จะเปลี่ยนเส้นทาง ซึ่งของเรานั้น หากอยากจะทำให้ชีวิตมีความสุข ต้องท่องคำคมที่ว่า "จงรักสิ่งที่ต้องทำ เมื่อไม่ได้ทำสิ่งที่ตัวเองรัก"  

ขอบคุณคะพี่โอ๋ น่าคิดเหตุใดบ้านเราจึงต่างจากออสเตรเลียคะ 

เร็วๆ นี้มีรุ่นน้องปรึกษา ว่าจบบอร์ดแล้ว จะไปทำอะไรก่อนดี
ก็ให้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ไปว่า ลองเรียงความสำคัญ อะไรเร่งด่วนที่สุดสำหรับตัวน้องเอง
1. เงิน (เช่น บ้านกำลังผ่อน) 2.เวลา (เช่น พ่อแม่มีปัญหาสุขภาพ) หรือ 3.ประสบการณ์
ถ้า ข้อ 1 กับ 2 ไม่ด่วน ให้เลือกงานที่ให้โอกาสเราแสดงศักยภาพเราได้เต็มที่ ได้เรียนรู้เต็มที่
พยายามหาจุดเด่น แล้วพัฒนาจุดนั้นให้เร็วที่สุด

ที่สำคัญ ทุกอย่าง 'เป็นไปไม่ได้'  แต่จะง่าย ( low return) หรือยาก (high return) เท่านั้นเอง


 
 

ขอแก้ไขคะ ทุกอย่าง 'เป็นไปได้'

อีกเล่มหนึ่งที่น่าอ่านคือ งานไม่ประจำ ทำเงินมากกว่า ของวิสูตร แสงอรุณเลิศครับคุณหมอ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท