ธรรมหรรษา
รศ.ดร. พระมหา หรรษา นิธิบุณยากร

LIKE: มุทิตาของผู้ให้กลายเป็นอัตตาของผู้รับ?!?


     ในยุคปัจจุบันนี้ เรามักจะเห็นปรากฎการณ์ "ขอรับบริจาคไลค์" กันอยู่เสมอ เช่น "ครบ ๑๐,๐๐๐ คุณพ่อจะเลิกบุหรี่" และ "คุณ... เป็นโรคร้าย ช่วยกดไลค์ให้กำลังใจเธอ" และหลายครั้งที่เราแสดงออกซึ่งการ "ทำบุญและทำทานด้วยการบริจาคไลค์" กันเนืองนิตย์ ด้วยการชื่นชมต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ทั้งในกิจกรรม ความสำเร็จ วิธีคิด และมุมมอง การแสดงออกในประเด็นหลังจึงมีความสัมพันธ์กับหลักการในพระพุทธศาสนาที่ว่าด้วย "มุทิตา"

        มุทิตา แปลว่า "ความยินดี, ความเป็นผู้มีความยินดี" หมายความว่า ความเบิกบานพลอยยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี ทั้งในแง่ของการประสบรับความสำเร็จ มีความสุขความเจริญก้าวหน้า เราจึงพลอยชื่นชมยินดีในสิ่งที่เขาได้รับ โดยไม่มีความอิจฉาริษยาในความสำเร็จของเขา ด้วยการพูดแสดงความยินดีบ้าง ส่งบัตรอวยพรไปแสดงความยินดีบ้าง มอบของขวัญมอบกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดีบ้าง เป็นต้น และในหลายสถานการณ์ และหลายโอกาสที่เราไดแสดงออกด้วยการกด "ไลค์" (Like) เพื่อแสดงความยินดี และชื่นชมต่อความสำเร็จ และความก้าวหน้า นอกจากนั้น มุทิตาในปัจจุบันจึงกินพื้นที่ไปถึงการชื่นชมต่อกิจกรรมดีๆ แง่คิด และมุมมองที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งได้กระทำและแสดงออกผ่านหน้ากระดานทางเฟซบุ๊ค

        อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปรากฎการณ์การกดไลค์ในบางครั้งจะสะท้อนแง่มุมในเชิงบวก แต่งานงานวิจัยบางชิ้นระบุว่า กลุ่มคนจำนวนไม่น้อยที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเฟซบุ๊ค แล้วมีอาการหมกมุ่นกับภาพลักษณ์ของตนเองมากขึ้น และหลายครั้งที่โพสต์ข้อความบางอย่างแล้วมุ่งหวังที่จะได้มาซึ่งการกดไลค์ และมักจะมีอาการผิดหวังที่หลายครั้งตัวเองไม่ได้รับการตอบสนองตามที่มุ่งหวังแม้จะความมุ่งมั่นในการนำเสนอภาพ หรือประเด็นบางอย่าง นอกจากนี้ บางคนอาจจะจะมีบุคลิกหลงตัวเอง (Narcissistic personality) มากยิ่งขึ้น เมื่อได้รับการยอมรับจากการกดไลค์ของผู้อื่น (Damien Pearse.2012)

       คำถามคือ เมื่อวิเคราะห์จากผลวิจัยดังกล่าว เพราะเหตุใด!?! มุทิตาของผู้ให้จึงกลายเป็นอัตตาของผู้รับ การกดไลค์ได้เดินทางมาพร้อมกับการกดอัตตาในวินาทีเดียวกัน เพราะผู้รับได้แปลงไลค์ไปสู่การเพิ่มอัตตาขึ้นในขณะที่ได้รับไลค์ อัตตาคือการยึดมั่นในความเก่ง หลงยึดมั่นในความรู้ หรือหลงชื่นชมในความสำเร็จ กิจกรรม และแง่มุมดีๆ ที่ตัวเองนำเสนอจนกลายเป็นภาวะติดกำดักในความสำเร็จ หรือสิ่งดีๆ ของตัวเองอันเนื่องด้วยคำชื่นชมยินดีที่คนอื่นๆ กดไลค์ให้ ฉะนั้น เพื่อให้ได้มาซึ่งไลค์ บางคนจึงพยายามที่จะนำเสนอรูปแบบวิถีชีวิตและกิจกรรมของตัวเองผ่านสื่อให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยการถ่ายรูป และนำเสนอแง่มุมของการใช้ชีวิตโดยไม่แยกแยะว่า ภาพใด หรือกิจกรรมใดที่เหมาะสม หรือไม่ควรต่อการนำเสนอความเป็นเราต่อกลุ่มคนต่างๆ ที่อยู่ในเครือข่ายวงกว้าง

       
ภาวะไลค์ที่กลายเป็นอัตตา จึงทำให้คนจำนวนหนึ่งโหยหาไลค์ และในทุกครั้งที่มีการนำเสนอกิจกรรม แง่คิด หรือมุมมองผ่านเฟซบุ๊ค ดวงจิตมักจะกระวนกระวายและกระสับกระส่าย เพื่อจะเฝ้ามองว่าระดับความสนใจ หรือเรตติ้งของสิ่งที่นำเสนอเป็นไปในทิศทางใด และหลายครั้งที่ไม่ได้การกดไลค์ หรือจำนวนกดไลค์ไม่เป็นไปตามคาดหวัง ความผิดหวังจึงเกิดขึ้นตามมา ความชื่นชมในฐานะคนกดไลค์ย่อมมีนัยยะเชิงบวกเป็นที่ตั้ง แต่ความพลาดพลั้งเกิดจากการที่ผู้รับได้พัฒนาไลค์ให้กลายเป็นการเพิ่มพูนอัตตา หรือการยึดมั่นในความดี ความงาม และความเก่งกล้าสามารถของตัวเองในที่สุด

  ทางออกของประเด็นนี้ จึงกลับมาที่ผู้ที่ได้รับการบริจาคไลค์จากผู้อื่นด้วยใจที่เปี่ยมมุทิตาว่า จะวางท่าทีของตัวเองต่อไลค์อย่างไร? เราควรขอบคุณในทุกไลค์ด้วยใจที่รู้ ตื่น และเบิกบาน ไม่ยินดียินร้ายกับไลค์ จนปล่อยให้ใจไถล่ไปกับคำชื่นชมของใครสักคนผ่านไลค์มากระตุ้นภาวะการหลงตัวเองให้งอกเงยขึ้นมาในจิตใจ ทุกครั้งที่คนกดไลค์เราจึงต้องกดใจให้สงบนิ่งไม่ตื่นเต้น หรือไม่หลงละเมอไปกับไลค์ที่ได้ และประเด็นที่สำคัญที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบัน อย่าเปิดพื้นที่ให้ไลค์มาชักใยใจของเรากระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งจะก่อให้เกิดผลเสียในภาพรวมโดยการกระตุ้นให้เรานำเสนอภาพ ข้อมูล และเสียงในทิศทางที่ไม่เหมาะสมต่อชีวิต และการทำงาน หรือก่อให้เกิดความขัดแย้ง และความรุนแรงจนนำไปสู่ความโกรธ เกลียด เคียดแค้น และชิงชังเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกของเรา


หมายเลขบันทึก: 543472เขียนเมื่อ 24 กรกฎาคม 2013 13:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 กรกฎาคม 2013 22:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

นมัสการพระคุณเจ้า  ธรรมหรรษา เดือนนี้ทั้งพุธและมุสลิม เป็นเดือนแห่งการเรียนรู้ธรรม ทบทวนธรรมปฎิบัติ นำมายกระดับพัฒนาจิตใจไปสู่ อภิธรรม  กำหนดรู้  ดูออก  บอกได้ ใช้เป็น ในธรรม เพราะรู้ธรรม

สาธุได้อ่านเรื่องดีๆเสมอเลยครับ

ท่านสบายดีไหมครับ

ดร.ขจิต, ท่านผู้เฒ่าวอญ่า และโยมณัฐรดา...

เข้ามาเยี่ยมเยียนถิ่นที่เคยอยู่ อู่เคยนอนอีกครั้ง  หลังจากร้างลาสถานที่แห่งนี้ไปเนิ่ีนนาน เพียงเข้าไปเยี่ยมชมและทักทาย ก็ได้ยินเสียงตอบรับอันอบอุ่นจากแฟนพันธุ์แท้ของ Gotoknow... อาตมายังสบายดีเช่นเดิน ดร. ขจิต และในขณะเดียวกัน ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาดีๆ ของทั้งพี่น้องชาวมุสลิม และชาวพุทธ ที่จะได้มีโอกาสทบทวนความคิด และการดำเนินชีวิตเช่นท่านผู้เฒ่าว่าไว้... แม้ศาสนาพุทธจะเน้นสอนเรื่องอนิจจัง คือความไม่เที่ยง แต่มิตรภาพของเรานั้นมิเคยผันแปรไปตามกาลเวลา...

เจริญพรพี่ๆ ทุกท่านด้วยไมตรีจิต

นมัสการครับ

       เขียนเฟซบุ๊ค  แล้วกระวนกระวาย  กับการหวังผลกดไลค์    ในอดีตผมก็เคยเป็นครับ   ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ครับ ๕๕ แต่ค่อยดีขึ้นมาบ้างแล้ว

       ที่ดีขึ้นมา  คือ   เริ่มปล่อยวางได้บ้างครับ  เขียนเสร็จแล้วก็ทำใจปล่อยไป  ไลค์แค่ไหนก็แค่นั้น   ไม่ไปผูกพันกับความชอบของคนอื่นมาก    ผูกพันความชอบกับคนอื่นมาก   ก็เท่ากับเราไปเอาชีวิตของตัวเองไปขึ้นอยู่กับคนอื่นครับ

       แต่ก็มีเผลอครับ ใครมากดไลค์หลายไลค์   ก็เผลอหลุดหลงไหลกับการไลค์ของคนอื่น   ตอนหลังมารู้ทันได้มากขึ้นครับ

 

นมัสการครับ

      เขียนเฟซบุค  แล้วกระวนกระวาย   หวังผลให้คนมากดไลค์     มีคนมากดไลค์หลายคนก็พอใจ  ใจฟู   ไม่มีคนมากดไลค์ หรือกดไลค์น้อย  ก็หงุดหงิด   ใจแฟ่บ    ผมเองเมื่อก่อนก็เคยเป๋็นครับ  ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่  ๕๕๕     แต่ดีกว่าเก่าครับ

      เขียนแล้ว  เริ่มปล่อยวางได้มากขึ้นครับ   เขียนไป  ได้ไลค์กลับมาแค่ไหนก็แค่นั้น   ความสุขใจขึ้นอยู่กับปริมาณ ไลค์  ของคนอื่น   รู้สึกว่าชีวิตเราไม่เป็นอิสระครับ    เป็นการเอาความสุข ความพอใจของตัวเรา  ไปผูกติดกับการ ไลค์  ของคนอื่น

      ตอนหลัง เริ่มปล่อยวางได้มากขึ้นครับ

      แต่ก็มีเผลอ   พอใจ   ที่คนมากดไลค์มากมาย      พยายามอยู่ครับ

นมัสการค่ะ
Like แบบจริงใจ
Life จะไม่อัตตา

นมัสการ อ่านแล้วได้ข้อคิด ดีครับ

นมัสการครับ

          ขอความอนุเคราะห์ช่วยลบความคิดเห็นของผมหนึ่งความคิดเห็นครับ   ซ้ำกันครับ   บันทึกแรก เขียนไปแล้ว  มาเปิดอ่าน ปรากฏว่าไม่พบ  เลยเขียนอีกความคิดเห็น   เนื้อหาคล้ายๆ กัน    พอกดส่ง มาอ่านอีกที พบวาสมาสองความคิดเห็นเลย  ผิดพลาดทางเทคนิคครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท