พักยกเรื่องเดินป่า
หยุดเข้าพรรษา...ออกจากป่า..เลยไปเกาะ... เกาะสมุย..สุดทางที่เกาะพะงัน
ทุกย่างก้าว..กับเพื่อนร่วมทาง...8 คน..รถ 2 คัน
แค่ยอมสวมรองเท้า..ก้าวออกจากบ้าน...ปล่อยวางทุกอย่าง
มาปลดปล่อยตัวเองจากพันธะกันดีกว่า...
โฉมหน้าทีมงาน...เริ่มการเดินทางสู่เกาะสมุย..11.00 น. ขึ้นเรือเฟอร์รี่ที่ดอนสัก
หน้าใส..ใจระรื่น..ทิ้งพ่อให้เฝ้ารถที่ท่าแพ..
รอคิวเอารถลงเรือ อีก 3 ชั่วโมง..ก็หนูไม่ได้จองคิวนี่ค่ะ
ถึงหาดเฉวง..เกาะสมุย..13.00 น.เข้าพัก ณ ยัวร์เพลส..ริมหาด
คนเฝ้ารถยังมาไม่ถึง...................
หาดเฉวง...ก็ยังเป็นของฝรั่งอยู่ดี..มีคนไทยเป็นคนขายของ
ดีจังที่บ้านเราต่างชาติชอบมาเที่ยว..แต่เอ..คนไทยไปเที่ยวไหนกันหมด..
กว่าคนขับจะเอารถขึ้นเรือได้พบกันก็...17.30 น. ทันมื้อเย็นพอดี
หลังจากท่องราตรี..ที่เฉวง..บรรดาหนุ่มหล่อๆในทีมงาน ก็ค้นพบว่าการหลงแสงสี..น่าเวียนหัวกว่าหลงป่า
ตื่นเช้ามาก็ข้ามทะเลสู่เกาะพะงัน เลือกท่าเรือพระใหญ่ ค่าเรือคนละ 200 บาท
เรือทั้งลำมีคนไทย 6 คน...ทีมฉันเอง(ไม่นับลูกเรือกับคนขับ และเด็กน้อยที่ถูกทิ้งไว้กับยายที่เกาะสมุย)
..เย้..ได้เที่ยวต่างประเทศแล้ว
รถ4ล้อ..ที่ขับมา..จะเอาขึ้นเขาก็จอดทิ้งไว้ที่ดอนสัก..เพราะคิวยาวกะว่าค่อยมาเช่ามอไซค์กัน
เราจองที่พักกับAgoda ที่อ่าวท้องนายปาน..โทรถามเจ้าของรีสอร์ทว่าเอามอไซค์ไปได้ไหม
เจ้าของรีสอร์ทตกใจก็ไหนว่าจะมา 4 วีล.....เขาทำถนน..มันลื่น.
การเช่ามอไซค์บนเกาะพะงัน..ยากสำหรับคนไทย..ค่าเช่าเท่ากันทุกร้าน ถูกมาก 24 ชั่วโมงคิด 150 บาท
แต่ค่าประกันมีตั้งแต่ 5,000 บาท 10,000 บาท
และบางร้านที่ไปติดต่อบอกกันตรงๆ เลยว่า ต้องใช้หลักฐานคือ พาสปอร์ต
เป็นคนไทย แต่ต้องใช้พาสปอร์ตไม่เอาบัตรประชาชน..เพราะพี่ไทยทำกันไว้สาหัสเหลือเกิน
ขับรถเขาล้ม..แล้วทิ้งรถ..หนีลงเรือกลับบ้าน
แกะรถเอาชิ้นส่วนไปขาย..และอีกสารพัด
สรุปคือ..เขาไม่อยากให้คนไทยเช่า
เลยเดินหาทางไปวิธีอื่นสรุปความว่า.............
ค่าเดินทาง ขาไป รถตู้คนละ 300 บาท
เหมารถสองแถวคันละ 2,000 บาท(บางคันก็ไม่ไปทั้งที่เขียนข้างรถว่าหาดท้องนายปานเพราะไม่คุ้มค่าความเสี่ยง)
เรือหางยาวเที่ยวละ 1,500 บาท
กดเครื่องคิดเลขแล้วเลยหาที่พักใหม่..ที่ริมหาดริ้นนอก ตรงที่จัด Full Moon Party โชคดีมาก ที่มีห้องว่าง
เป็นเกสเฮ้าแต่สะอาดห้องละ 2,000 บาท ได้เที่ยว Full Moon Party(ล่วงหน้า 2 วัน) ยอมทิ้งค่าที่พักเดิมดีกว่า
บรรยากาศ หาดริ้นนอก ตอนกลางวันสบายกว่าที่เฉวงมาก
เดินจนทั่วพบแต่พนักงานพม่า..กับฝรั่ง..ไม่มีคนไทยเลย(ยกเว้นพนักงานร้านเซเว่น กับเจ้าของรีสอร์ท)
เวลาจะซื้อของ รู้สึกเลยเวลาฝรั่งพูดกับคนไทยแล้วไม่รู้เรื่อง..ฝรั่งรู้สึกอย่างไร
เอนี่...ประเทศไทยหรือเปล่า...........
ค่อยพบกันใหม่กับภาคกลางคืนของที่นี่...ครั้งต่อไป
ดีครับการท่องเที่ยวก็เหมือนเปิดตายอมรับกับความเปลี่ยนของสังคมที่จะต้องพบเจอในวันข้างหน้า
ดีใจที่ได้เห็นพี่ๆมหาวิทยาลันเดิม 55555
น่าสนุกนะครับ
ขอบคุณค่ะ เหมอืนได้ไปจริงๆ นะคะ
เอ..ประเทศไทย..หรือเปล่า..(เปล่าๆ..ประเทศไทย..มั้ง..อ้ะะะๆๆ)...ยายธี