เด็กน้อยเป็นใครกัน ขอเป็นฉันด้วยคน



หมายเลขบันทึก: 542841เขียนเมื่อ 19 กรกฎาคม 2013 13:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 กรกฎาคม 2013 13:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สิบนิ้วประนม ถวายบังคม พระทรงศรี

ข้าน้อย ขอถวาย ซึ่งชีวี

จงรักภักดี เกินถ้อยวจี จักรำพัน

 

Very expressive picture.

A lone little boy among so many strangers who he perhaps at the time had little ideas what or what they were. However, the boy had made it into history and good on him!

คงไม่ใช่สิ่งเหนือธรรมชาติที่ผลักเด็กน้อยให้ผลุบเข้าไปนั่งน้อมหัวไหว้ในหลวง

แต่เป็นความรักและบูชาอย่างลึกซึ้งที่มีต่อในหลวง จึงทำให้กล้าทั้ง ๆ ที่เด็กไทยบ้านนอกมักจะขี้อาย

ไม่ค่อยกล้าแสดงออก วันที่ในหลวงเสด็จเป็นวันที่รอคอยของชาวบ้าน ถือว่าเป็นบุญที่ได้มีโอกาสเฝ้า

เด็กน่าจะซึมซับอยู่ทุกวันว่าในหลวงทรงอุทิศพระองค์เพื่อประชาชนเพียงใดจากการบอกเล่าสั่งสอนจากบ้านและโรงเรียน

ในบ้านอาจมีรูปในหลวงติดอยู่ไว้กราบไหว้  ครอบครัวอาจได้รับแจกผ้าห่มในหน้าหนาว

ได้รับการรักษาและยาจากหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ โรงเรียนเองก็ตอกย้ำเรื่องชาติ ศาสนา

พระมหากษัตริย์ทุกวัน 

    ยังจำความรู้สึกของตนเองได้สมัยเรียน ม.ต้น ปีนั้นในหลวงเสด็จหัวหิน โรงเรียนพานักเรียนมารับเสด็จที่สถานีรถไฟเพชรบุรี

พวกเราเด็ก ๆ คึกคักกันมากรอวันเสด็จ เมื่อได้เวลาครูก็นำแถวนักเรียนแต่งเครื่องแบบเรียบร้อย

สวยงามเดินตัดทุ่งนาท่ามกลางแดดร้อนเปรี้ยงมายืนรอรับเสด็จ พวกเราต่างคอยชะโงกมองเมื่อไรหัวรถไฟจะปรากฏแก่สายตา ร้อนจะเป็นลม และแล้วแดดก็ร่มลงอย่างน่าอัศจรรย์ อากาศเย็น ลมเย็นพริ้วมา ขนลุกกันทุกคน รถไฟค่อยๆแล่นเข้าสู่สถานี เห็นในหลวง พระราชินี และเจ้าฟ้าทุกพระองค์โบกพระหัตถ์น้อย ๆ แย้มพระสรวล ทอดเนตรมายังประชาชนของพระองค์ แล้วรถไฟก็เร่งความเร็วจากไป  แดดร้อนจัดกลับมาเหมือนเดิม   ในความรู้สึกไม่เคยเห็นใครสวยเท่าสมเด็จพระนางเจ้าเลย สวยเหลือเกิน หลังจากหายจากอาการตื่นตะลึง ความปิติท่วมท้น เสียงคุยจ้อกแจ้กจอแจดังขึ้นล้วนแสดงถึงความสุขที่มีวันนี้ เรารู้สึกรักพระองค์มากกว่าที่เคยรับรู้ รู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ของสถาบันนี้ ความรู้สึกนี้ยังมั่นคงจนถึงวันนี้ และจะตลอดไป 

ขอพระองค์ทรงพระเจริญนะครับ

http://tnews.teenee.com/etc/1087.html

ทุกท่านครับ เจอแล้วครับ ปัจจุบัน เด็กคนนั้น คือ  นายพยุงศักดิ์ กาฬมิค 

หลังจากคณะกรรมการ จัดงานนิทรรศการ เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี ได้ประกาศตามหาบุคคล ในภาพถ่ายแห่งความทรงจำ 5 ภาพ 5 คน เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวเสด็จ พระราชดำเนินปฏิบัติ พระราชกรณียกิจในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเชิญผู้ที่อยู่ในภาพ มาบอกเล่าเรื่องราวในอดีต และนาทีแห่งความประทับใจ ที่ได้เข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิด 

บุคคลในภาพถ่ายแห่งความทรงจำคนแรก ที่เปิดตัวออกมาแล้วคือนายพยุงศักดิ์ กาฬมิค อายุ 37 ปี ปัจจุบันรับราชการในตำแหน่งนิติกร 6 ว. สำนักงานจัดรูปที่ดินจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นเด็กชายที่ก้มกราบพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จฯ จ.ปัตตานี เมื่อปี 2516 ผู้สื่อข่าวจึงไปที่สำนักงานจัดรูปที่ดินจังหวัดนครศรีธรรมราช เลขที่ 8 หมู่ 10 ต.ท่าเรือ อ.เมืองนครศรีธรรมราช ที่ทำงานของนายพยุงศักดิ์ เมื่อตอนสายวันที่ 29 มี.ค. ได้พบกับนายทรงวุฒิ หนูทวี หัวหน้าสำนักงานจัดรูปที่ดินฯ ซึ่งเปิดเผยว่า นายพยุงศักดิ์เดินทางไปอบรมโครงการเสริมสร้างทักษะด้านภาษาอังกฤษที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 27 มี.ค.-5 เม.ย. กำหนดกลับนครศรีธรรมราชวันที่ 7 เม.ย. 

จากนั้นนายทรงวุฒิได้นำทะเบียนประวัติข้าราชการของนายพยุงศักดิ์มาให้ดู ระบุว่าเกิดวันที่ 28 ส.ค. 2512 เลขประจำตัวประชาชน เลขที่ 3900100135211 บิดาชื่อจิตต์ มารดาชื่อจุฑาลักษณ์ ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 179/126 หมู่ 5 ต.เขารูปช้าง อ.เมืองสงขลา นายทรงวุฒิกล่าวด้วยว่า นายพยุงศักดิ์เป็นคนสมถะ พูดจาดี สุภาพเรียบร้อย มีน้ำใจทั้งกับเพื่อนร่วมงานและบุคคลทั่วไป ปกติเช่าห้องพักอยู่ที่วิชิตแมนชั่น สี่แยกหัวถนนศาลามีชัย อ.เมืองนครศรีธรรมราช วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะกลับไปอยู่กับครอบครัวที่ จ.สงขลา ภาพขณะก้มกราบในหลวงสมัยเป็นเด็ก นายพยุงศักดิ์นำมาปิดไว้ที่ผนังเหนือศีรษะและตั้งไว้บนโต๊ะทำงาน บอกกับเพื่อนร่วมงานว่า เป็นภาพตนเองตอนเด็กก้มกราบในหลวง 

วันเดียวกัน นายพยุงศักดิ์ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่โรงเรียนธุรกิจสารสนเทศ ชั้น 4 อาคารเจ้าพระยาทาวเวอร์ ซอยวัดสวนพลู ถนนเจริญกรุง กรุงเทพฯ ว่า รู้สึกดีใจอย่างมากที่ภาพตนเข้าเฝ้าในหลวงได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 5 ภาพ ร่วมจัดนิทรรศการในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ทั้งพ่อ แม่ ภรรยา และลูกต่างดีใจ ตื้นตันใจที่พระองค์ทรงเห็นความสำคัญและรักพสกนิกรชาวไทยทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน แม้ว่าจะเป็นเด็กตัวเล็กๆแต่ พระองค์ก็ทรงหยุดให้ตนได้ทำความเคารพ 

เมื่อสองปีก่อน ผู้ตรวจการสำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย เคยให้เจ้าหน้าที่ของจังหวัดปัตตานีตามหาเด็กในภาพนี้ ซึ่งก็รู้ตัวตั้งแต่ตอนนั้น แต่ข่าวไม่ดังเลยเงียบหายไป จนกระทั่งเมื่อสองวันก่อนนักข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งโทรศัพท์ไปหา และต่อมาก็เห็นภาพในวัยเยาว์ของตัวเองปรากฏอยู่บนหน้าหนึ่ง นายพยุงศักดิ์กล่าวและว่า วันนั้นแม่ตนคือนางจุฑาลักษณ์บอกให้ไปกราบในหลวง ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเพราะยังเป็นเด็ก และได้ทำตามที่แม่บอก แต่มาวันนี้เป็นความภาคภูมิใจอย่างที่สุด ทั้งของตนเองและครอบครัว นอกจากนี้ยังได้ทำงานสนองเบื้องพระยุคลบาทด้วย คือทำงานเกี่ยวเนื่องกับโครงการพระราชดำริ เป็นนิติกรสำนักงานจัดรูปที่ดินในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง 

ขณะที่นางจุฑาลักษณ์ กาฬมิค มารดานายพยุงศักดิ์ กล่าวว่า ได้ตัดภาพที่ลูกชายตัวน้อยก้มกราบในหลวงจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเก็บไว้ และครั้งใดที่ในหลวงเสด็จฯมาที่สงขลาหรือใกล้เคียง ตนกับครอบครัวจะไปรับเสด็จฯทุกครั้ง สอนให้ลูกกราบไหว้พระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวง ไม่ว่าจะในธนบัตร ปฏิทิน และยังช่วยอบรมสั่งสอนหลานชาย ชื่อ ด.ช.นนทพันธ์ กาฬมิค อายุ 1 ขวบ 3 เดือนให้รักในหลวงด้วย สำหรับเหตุการณ์ที่เป็นภาพประทับใจไปชั่วชีวิต วันนั้นตนและครอบครัวไปรับเสด็จฯ ที่สนามบินบ่อทอง จำได้ว่าเป็นวันที่ 18 ส.ค. 2516 ระหว่างรอรับเสด็จฯ ลูกชายนำหน้ากากไอ้มดแดงมาสวมเล่น คอยถามว่าเมื่อไหร่ในหลวงจะเสด็จฯมา เมื่อพระองค์ท่านเสด็จฯมาถึงก็ถอดหน้ากากออกวิ่งแทรกไปแถวหน้าเข้าไปกราบพระองค์ท่าน และกราบทุกพระองค์ 

สำหรับภาพเด็กชายกราบในหลวง เคยได้รางวัลภาพข่าวยอดเยี่ยมของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เมื่อปี 2517 ผู้ที่ถ่ายภาพนี้คือนายดิน ณ วังเก่า ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำจังหวัดปัตตานี เป็นเหตุการณ์ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ เสด็จขึ้นเครื่องบินพระที่นั่ง ณ ท่าอากาศยานปัตตานี หน้าค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก เพื่อกลับกรุงเทพฯหลังจากเสด็จฯเยี่ยมพสกนิกร เด็กน้อยได้วิ่งออกจากฝูงชนก้มลงกราบพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทราบภายหลังว่าชื่อ ด.ช.พยุงศักดิ์ กาฬมิค ตอนนั้นอายุแค่ 4 ขวบ

 

ทะเลงามเล่าซะจนผมประทับใจ เห็นภาพ เลยลองกด google ตามหา เด็กก้มไหว้ในหลวง  พบในทันที นับว่าโชคดีที่พบในทันใดเพราะแรงใจจากทะเลงามแท้ ๆ   กดได้มาแล้ว พอจะนึกออกว่าเคยแว่วๆ มาแล้วว่ามีการค้นพบตัวมาหลายปีแล้วตามที่เมื่อหลายปีก่อน แต่ก็ลืมไปแล้ว

เล่าบ้าง ๆ   ผมเคยเล่าแล้วในโกทูโนนี้... ตอนเรียนที่วิทยาลัยวิชาการศึกษาศึกษา ปทุมวัน ปัจจุบันยุบไปรวมกับ มศว. ประสานมิตร

ในหลวงเสด็จทรงดนตรีที่ประสานมิตรเมื่อปี 2511  เด็กปี 1 จากบ้่านนอก ที่เคยอยู่้ใน  ค่ายอิงคยุทธบริหารตอนเด็ก ๆ เหมือนกัน (ความหลัง ๆ)  วิ่งจับพระบาท ได้ลูบหัวรองเท้าของในหลวงได้ ประทับใจมาจนปัจจุบัน  หากตากล้องคนจับภาพได้  สงสัย ดัง พอ ๆ กับ พยุงศักดิ์ (555)

ทะเลงามเล่าซะจนผมประทับใจ เห็นภาพ เลยลองกด google ตามหา เด็กก้มไหว้ในหลวง  พบในทันที นับว่าโชคดีที่พบในทันใดเพราะแรงใจจากทะเลงามแท้ ๆ   กดได้มาแล้ว พอจะนึกออกว่าเคยแว่วๆ มาแล้วว่ามีการค้นพบตัวมาหลายปีเมื่อหลายปีก่อน แต่ก็ลืมไปแล้ว

เล่าบ้าง ๆ   ผมเคยเล่าแล้วในโกทูโนนี้... ตอนเรียนที่วิทยาลัยวิชาการศึกษาศึกษา ปทุมวัน ปัจจุบันยุบไปรวมกับ มศว. ประสานมิตร

ในหลวงเสด็จทรงดนตรีที่ประสานมิตรเมื่อปี 2511  เด็กปี 1 จากบ้่านนอก ที่เคยอยู่้ใน  ค่ายอิงคยุทธบริหารตอนเด็ก ๆ เหมือนกัน (ความหลัง ๆ)  วิ่งจับพระบาท ได้ลูบหัวรองเท้าของในหลวงได้ ประทับใจมาจนปัจจุบัน  หากตากล้องคนจับภาพได้  สงสัย ดัง พอ ๆ กับ พยุงศักดิ์ (555)

ทุกท่านครับ.... เจ้าเด็กน้อยคนนั้น  เพราะ ทะเลงาม  แท้ ๆ ที่เล่ามา อ่านแล้วประทับใจ จึงลองถามกูเกิ้ล และก็เจอในทันที พอเห็นเข้าก็พอนึกออกว่าเคยบอกกล่าวกันไว้แล้วเมื่อหลายปีก่อน แต่ผมก็ลืมไปแล้ว


http://tnews.teenee.com/etc/1087.html


หลังจากคณะกรรมการ จัดงานนิทรรศการ เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี ได้ประกาศตามหาบุคคล ในภาพถ่ายแห่งความทรงจำ 5 ภาพ 5 คน เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวเสด็จ พระราชดำเนินปฏิบัติ พระราชกรณียกิจในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเชิญผู้ที่อยู่ในภาพ มาบอกเล่าเรื่องราวในอดีต และนาทีแห่งความประทับใจ ที่ได้เข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิด 

บุคคลในภาพถ่ายแห่งความทรงจำคนแรก ที่เปิดตัวออกมาแล้วคือนายพยุงศักดิ์ กาฬมิค อายุ 37 ปี ปัจจุบันรับราชการในตำแหน่งนิติกร 6 ว. สำนักงานจัดรูปที่ดินจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นเด็กชายที่ก้มกราบพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จฯ จ.ปัตตานี เมื่อปี 2516 ผู้สื่อข่าวจึงไปที่สำนักงานจัดรูปที่ดินจังหวัดนครศรีธรรมราช เลขที่ 8 หมู่ 10 ต.ท่าเรือ อ.เมืองนครศรีธรรมราช ที่ทำงานของนายพยุงศักดิ์ เมื่อตอนสายวันที่ 29 มี.ค. ได้พบกับนายทรงวุฒิ หนูทวี หัวหน้าสำนักงานจัดรูปที่ดินฯ ซึ่งเปิดเผยว่า นายพยุงศักดิ์เดินทางไปอบรมโครงการเสริมสร้างทักษะด้านภาษาอังกฤษที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 27 มี.ค.-5 เม.ย. กำหนดกลับนครศรีธรรมราชวันที่ 7 เม.ย. 

จากนั้นนายทรงวุฒิได้นำทะเบียนประวัติข้าราชการของนายพยุงศักดิ์มาให้ดู ระบุว่าเกิดวันที่ 28 ส.ค. 2512 เลขประจำตัวประชาชน เลขที่ 3900100135211 บิดาชื่อจิตต์ มารดาชื่อจุฑาลักษณ์ ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 179/126 หมู่ 5 ต.เขารูปช้าง อ.เมืองสงขลา นายทรงวุฒิกล่าวด้วยว่า นายพยุงศักดิ์เป็นคนสมถะ พูดจาดี สุภาพเรียบร้อย มีน้ำใจทั้งกับเพื่อนร่วมงานและบุคคลทั่วไป ปกติเช่าห้องพักอยู่ที่วิชิตแมนชั่น สี่แยกหัวถนนศาลามีชัย อ.เมืองนครศรีธรรมราช วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะกลับไปอยู่กับครอบครัวที่ จ.สงขลา ภาพขณะก้มกราบในหลวงสมัยเป็นเด็ก นายพยุงศักดิ์นำมาปิดไว้ที่ผนังเหนือศีรษะและตั้งไว้บนโต๊ะทำงาน บอกกับเพื่อนร่วมงานว่า เป็นภาพตนเองตอนเด็กก้มกราบในหลวง 

วันเดียวกัน นายพยุงศักดิ์ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่โรงเรียนธุรกิจสารสนเทศ ชั้น 4 อาคารเจ้าพระยาทาวเวอร์ ซอยวัดสวนพลู ถนนเจริญกรุง กรุงเทพฯ ว่า รู้สึกดีใจอย่างมากที่ภาพตนเข้าเฝ้าในหลวงได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 5 ภาพ ร่วมจัดนิทรรศการในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ทั้งพ่อ แม่ ภรรยา และลูกต่างดีใจ ตื้นตันใจที่พระองค์ทรงเห็นความสำคัญและรักพสกนิกรชาวไทยทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน แม้ว่าจะเป็นเด็กตัวเล็กๆแต่ พระองค์ก็ทรงหยุดให้ตนได้ทำความเคารพ 

เมื่อสองปีก่อน ผู้ตรวจการสำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย เคยให้เจ้าหน้าที่ของจังหวัดปัตตานีตามหาเด็กในภาพนี้ ซึ่งก็รู้ตัวตั้งแต่ตอนนั้น แต่ข่าวไม่ดังเลยเงียบหายไป จนกระทั่งเมื่อสองวันก่อนนักข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งโทรศัพท์ไปหา และต่อมาก็เห็นภาพในวัยเยาว์ของตัวเองปรากฏอยู่บนหน้าหนึ่ง นายพยุงศักดิ์กล่าวและว่า วันนั้นแม่ตนคือนางจุฑาลักษณ์บอกให้ไปกราบในหลวง ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเพราะยังเป็นเด็ก และได้ทำตามที่แม่บอก แต่มาวันนี้เป็นความภาคภูมิใจอย่างที่สุด ทั้งของตนเองและครอบครัว นอกจากนี้ยังได้ทำงานสนองเบื้องพระยุคลบาทด้วย คือทำงานเกี่ยวเนื่องกับโครงการพระราชดำริ เป็นนิติกรสำนักงานจัดรูปที่ดินในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง 

ขณะที่นางจุฑาลักษณ์ กาฬมิค มารดานายพยุงศักดิ์ กล่าวว่า ได้ตัดภาพที่ลูกชายตัวน้อยก้มกราบในหลวงจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเก็บไว้ และครั้งใดที่ในหลวงเสด็จฯมาที่สงขลาหรือใกล้เคียง ตนกับครอบครัวจะไปรับเสด็จฯทุกครั้ง สอนให้ลูกกราบไหว้พระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวง ไม่ว่าจะในธนบัตร ปฏิทิน และยังช่วยอบรมสั่งสอนหลานชาย ชื่อ ด.ช.นนทพันธ์ กาฬมิค อายุ 1 ขวบ 3 เดือนให้รักในหลวงด้วย สำหรับเหตุการณ์ที่เป็นภาพประทับใจไปชั่วชีวิต วันนั้นตนและครอบครัวไปรับเสด็จฯ ที่สนามบินบ่อทอง จำได้ว่าเป็นวันที่ 18 ส.ค. 2516 ระหว่างรอรับเสด็จฯ ลูกชายนำหน้ากากไอ้มดแดงมาสวมเล่น คอยถามว่าเมื่อไหร่ในหลวงจะเสด็จฯมา เมื่อพระองค์ท่านเสด็จฯ มาถึงก็ถอดหน้ากากออกวิ่งแทรกไปแถวหน้าเข้าไปกราบพระองค์ท่าน และกราบทุกพระองค์ 

สำหรับภาพเด็กชายกราบในหลวง เคยได้รางวัลภาพข่าวยอดเยี่ยมของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เมื่อปี 2517 ผู้ที่ถ่ายภาพนี้คือนายดิน ณ วังเก่า ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำจังหวัดปัตตานี เป็นเหตุการณ์ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ เสด็จขึ้นเครื่องบินพระที่นั่ง ณ ท่าอากาศยานปัตตานี หน้าค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก เพื่อกลับกรุงเทพฯหลังจากเสด็จฯเยี่ยมพสกนิกร เด็กน้อยได้วิ่งออกจากฝูงชนก้มลงกราบพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทราบภายหลังว่าชื่อ ด.ช.พยุงศักดิ์ กาฬมิค ตอนนั้นอายุแค่ 4 ขวบ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท