เรื่องสั้น: ไออุ่นคืนนั้น


... เราจะต้องเอาชนะความเหงาสิ... เราต้องเข้มแข็ง..ตัวเราเองไม่ใช่หรือที่จะต้องเป็นกำลังใจให้ตัวเอง...

   

                                                                                          ภาพตะวันชิงพลบที่สวนหลวงเมื่อหลายปีก่อน...

   วันศุกร์ที่ผ่านมา... 

    เขาเลิกงานเร็วกว่าทุกวัน เพราะเป็นวันที่จะต้องฉีดยาเป็นประจำ ตั้งใจว่าจะกลับไปอาบน้ำ รอกินข้าวที่หนุ่ยซื้อมารอเหมือนทุกๆวัน หลังจากลูกสาวไปเรียน ทำให้เรากินข้าวด้วยกันบ่อยขึ้น

    ระหว่างขับรถจะถึงบ้าน อากาศโพล้เพล้ใกล้จะมืดค่ำ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น หนุ่ยโทรมาบอกว่า 

"เอ้อ..วันนี้เลิกดึกเปล่า จะให้ซื้ออะไรไปให้ไหม พอดีมากินอะไรกันข้างนอกกับพี่ที่ทำงาน" หนุ่ยพูดขณะที่เสียงพูดคุยกันสนุกสนานหลุดรอดเข้ามาด้วย

"เปล่า วันนี้ต้องฉีดยา จะถึงบ้านแล้ว"เขาตอบกลับไป

 "อ้าว เอ้อลืมไปว่าวันนี้ฉีดยา แล้วจะกินอะไรล่ะ" 

"อะไรก็ได้ ของกินเล่นก็ได้" 

    ถึงบ้านเจ้าทอฟฟี่ออกมาต้อนรับ ยกสองขาเกาะอยู่ตรงเข่าอย่างประจบ ออดอ้อนกระดิกหางแทบขาดอย่างทุกๆวัน หยิบเอายาออกจากตู้เย็นก่อนฉีดครึ่งชั่วโมง นั่งให้เจ้าทอฟฟี่คลุกคลี เอาหัวฟูๆสีตามขาตามตักไปมาสักครู่ จึงเดินขึ้นบ้านเพื่อจะอาบน้ำ

 "พอแล้ว ทอฟฟี่ ขอตัวอาบน้ำก่อน"เขาบอกเจ้าหมาน้อย ที่ยืนเอียงหน้าทำท่าสงสัย

   หลังอาบน้ำเสร็จได้เวลาพอดีที่จะฉีดยาแล้ว ปกติต้องกินข้าวก่อน แต่ไม่เป็นไรหรอก ฉีดเสร็จสักพักหนุ่ยคงกลับมาถึง เขาคิด ขณะเตรียมอุปกรณ์ฉีดยา 

    นึกถึงวันที่ลูกสาวอยู่ อย่างน้อยก็มีลูกที่คอยยืนบีบไหล่ให้กำลังใจขณะที่ฉีด.. 

    อาการคลื่นไส้ก็ยังคงวิ่งจากท้องพุ่งขึ้นมาจุกคอ อย่างที่เคยเป็น อยากจะให้มันพุ่งออกมาให้หมดคงจะหายพะอืดพะอม แต่นี่ได้แต่อ้วกออกมาเพียงลม และน้ำลายที่เหนียวหนึบหนับ 

    สองทุ่มกว่าแล้ว หนุ่ยยังไม่กลับมา เปิดตู้เย็นดูของกินรองท้อง มีช้อกโกแลตของลูกสาวอยู่ในช่องฟิต ความหวานทำให้คอแห้งจนรู้สึกระคายคอ ชวนคลื่นเหียน จึงดื่มน้ำเย็นเพื่อจะได้หาย 

    ชั้นบนของตู้กับข้าว มีมาม่าเหลืออยู่ซองหนึ่ง จัดการต้มน้ำจนเดือด หยิบไข่ในตู้เย็นตีลงไปกับมาม่าที่กำลัังเดือดอยู่ในหม้อ สักพักก็ปิดแก็ส เทลงในชามรอให้เย็น

    ระหว่างที่นั่งกินมาม่าอยู่นั้น ใจก็พลันนึกถึงหนุ่ยที่ไปกินข้าวกับเพื่อนๆ และยังไม่กลับ...

   ไม่โทษเธอหรอก...เราเองต่างหากที่ไม่เตรียมข้าวเอง ไม่ควรจะพึ่งเธอทุกวัน

    ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวเธอก็กลับ...

 .................... 

    เผลอหลับไปตอนไหนจำไม่ได้ เสียงเจ้าทอฟฟี่เห่ารถมอเตอร์ไซค์ที่มาส่งคนในหมู่บ้าน  ปลุกให้ตื่นขึ้นมา.. หนุ่ยคงกลับมาแล้ว.. เสียงรั้วเหล็กเลื่อนดังเอี๊ยดอ๊าดข้างบ้าน... ไม่ใช่... เจ้าทอฟฟี่เดินกลับมานอนชะเง้อเงียบอยู่ปลายเท้า 

     เดินลุกขึ้น วินเวียนศรีษะจนเซนิดๆ อาการคลื่นไส้ยังพะอืดพะอมอยู่ ปิดทีวี ปิดไฟ แล้วเดินขึ้นห้องนอน เจ้าทอฟฟี่วิ่งแซงขึ้นหน้า

 "นอนเฝ้าบ้านข้างล่างนะ" 

    ไหว้พระสวดมนต์ เหมือนทุกๆคืนก่อนนอน ความเคยชิน ...

   แต่สมาธิกับล่องลอยออกไป...ออกไป... 

    การที่ได้อยู่เงียบๆคนเดียว อยู่กับการรอคอย ขณะที่เวลาล่วงเลยไปเหมือนเร็วกว่าทุกค่ำคืน คำพูดที่หนุ่ยบอก มาย้ำเตือนให้คิดให้คำนึงด้วยความน้อยใจ ระคนความเงียบให้ดูหงอยเหงา
   "อ้าว.. เอ้อ ลืมไปว่าวันนี้ฉีดยา..." 

   ... เราจะมาน้อยใจไม่ได้ หากในอนาคต อาจจะต้องอยู่คนเดียว ... 

    หนุ่ยเองก็มีสังคมของเธอเช่นกัน เลิกงานวันศุกร์ก็มีพบปะสังสรรค์กันเป็นธรรมดา และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก...เขาพยายามกล่อมใจตัวเองที่คอยแต่จะเข้าข้างตัวเอง เพื่อให้ความเหงา ความต้องการเอาใจใส่ และตามมาด้วยความน้อยใจ...

   ... เราจะต้องเอาชนะความเหงาสิ... เราต้องเข้มแข็ง..ตัวเราเองไม่ใช่หรือที่จะต้องเป็นกำลังใจให้ตัวเอง...

    ถ้าเราไม่เข้มแข็งแล้วลูกเมียจะอยู่อย่างไร เราต้องทำให้พวกเขาเห็นว่าเราช่วยตัวเองได้ นั่นเท่ากับว่า จะช่วยประคับประคองครอบครัวไปได้ด้วยความมั่นคง...

 .............. 

    ล้มตัวลงนอนหลับไปด้วยฤทธิ์ยา รู้สึกตัวอีกทีหนึ่งเมื่อเจ้าทอฟฟี่เห่าอยู่ข้างล่าง...

    หนุ่ยคงมาแล้ว... 

    เธอเดินขึ้นมาถามว่า...ซื้้อลูกชิ้นมาให้ อยู่ข้างล่าง...เขาโบกมือบอกปฏิเสธ...ไม่พูดใดๆ 

 ............... 

    เสียงละครทีวีวันศุกร์ดังอยู่ข้างล่าง เธอคงขาดไม่ได้ที่จะต้องติดตาม เป็นธรรมดาของผู้หญิงที่จะต้องเข้าใจ 

   เขาพยายามนอนให้หลับ พลิกตัวไปมาอยู่ เนิ่นนาน อาจจะเป็นเพราะเผลองีบหลับไปหลังฉีดยาก่อนหน้านี้...

 ............... 

   หนุ่ยเดินขึ้นมา เขาขยับออกห่างจากหมอนที่คู่เคียงหันหลังให้ด้านที่เธอนอน และหลับตาลงให้ดูเหมือนหลับแล้ว

    หนุ่ยค่อยๆเดินเข้ามาเงียบๆ พยายามที่จะไม่เปิดไฟ คงกลัวจะรบกวนเขาที่นอนขดตัวอยู๋บนเตียง เธอจึงแง้มประตูเพื่อจะได้แสงสว่าง ขณะที่เธอกำลังเตรียมตัวอาบน้ำ

   เขายังคงนอนไม่หลับ แม้จะรู้สึกปวดหัวอยู่ก็ตาม หนุ่ยเดินขึ้นเตียงเบาๆ แล้วนอนลงข้างๆ 

   ความรู้สึกเหมือนเธอจะรู้ตัวดีที่กลับช้า และไม่เอาใจใส่เหมือนคราวก่อนๆ เธอยังเห็นใจเขา เข้าใจ และรู้สึกผิดที่ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวในวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่เธอเองจะคอยเป็นกำลังใจให้อยู่เสมอที่ผ่านๆมา

  เขานอนเงียบ หายใจแรงให้ดูคล้ายคนนอนหลับลึก...

  สักพักใหญ่ขณะที่เขาเคลิ้มๆจะหลับ วงแขนของเธอก็เอื้อมมากอดเขา ไออุ่นของอ้อมกอดเนื้อนุ่มนิ่มที่เบียดกายด้านหลังนั้น ความอุ่นแอบของกายเหมือนจะทำให้ร้อนผ่าววิ่งซ่านขึ้นมาตรงดวงตาของเขา 

   รู้สึกจะมีน้ำใสๆ ใหลลงจนชุ่มหมอนทั้งสองใบในคืนนั้น....

...............

 ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาถึงตรงนี้และขอให้ทุกท่านมีความสุขสงบ 

ในค่ำคืนแห่งความทรงจำ

 17 กรกฎาคม 2556

  พ.แจ่มจำรัส

หมายเลขบันทึก: 542804เขียนเมื่อ 18 กรกฎาคม 2013 22:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 กันยายน 2013 17:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

อ่านแล้ว  เศร้าเลยครับ  555

...ธรรมดาของชีวิตนะคะ...สุข เศร้า เคล้าน้ำตา ปนเสียงหัวเราะ เปื้อนรอยยิ้ม...แต่สุดท้ายตอนจบของนิยายเรื่องนี้ก็ Happy ending นะคะ...ขอบคุณค่ะ

เป็นเรื่องจริงที่เขียนด้วยความเข้าใจทั้งตัวเองและผู้อื่นได้อย่างน่าชื่นชมมากค่ะ สมแล้วกับรางวัลสุดคะนึง ยกนิ้วให้อีกรอบเลยค่ะ

สุดท้ายคงมีกำลังใจที่ดี

เอาชนะความเหงาจนได้นะครับ

ขอบคุณครับ อักขณิช

อ่านแล้ว เศร้าเลยครับ 555...เศร้าแต่ยัง 555 อยู่นะครับคุณเพลิน

ขอบคุณ การถ่ายทอด ความรู้สึก อารมณ์ ได้อย่างยอดเยี่ยม 

ได้อรรถรส จากการอ่าน ครบครัน   ขอบพระคุณอย่างยิ่งค่ะ

 

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่อ่านกี่รอบ ๆ ก็กินใจ ข้อความที่สวยงามร้อยเรียงถักทอด้วยอารมณ์และความรู้สึก ทำให้สัมผัสถึงความอบอุ่นและซาบซึ้งใจเมื่ออ่านจบ ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ

 ขอบคุณครับ ดร. พจนา แย้มนัยนา

...ธรรมดาของชีวิตนะคะ...สุข เศร้า เคล้าน้ำตา ปนเสียงหัวเราะ เปื้อนรอยยิ้ม.. และเป็นเพียงเรื่องสั้นเรื่องหนึ่ง เท่านั้นเองครับ

ขอบคุครับพี่โอ๋ โอ๋-อโณ  เป็นเรื่องจริงที่เขียนด้วยความเข้าใจทั้งตัวเองและผู้อื่น

เป็นเรื่องสั้น...ที่แต่งเติมความเป็นไปของชีวิตคนคนหนึ่ง เท่านั้นเองครับ

 ขอบคุณครับลุงชาติ 

สุดท้ายคงมีกำลังใจที่ดี

เอาชนะความเหงาจนได้นะครับ

...แต่มันเป็นเพียงเรื่องสั้น คล้ายชีวิตจริงของคนเรา ที่ธรรมชาติชีวิตอาจผกแปรผัน..ที่เรียนรู้และเห็นความเป็นไป ครับ

แวะมาช่วงเด็กทำงานค่ะพี่ชายสวัสดีวันศุกร์หรรษานะคะ

 

มาส่งกำลังใจจ้ะคุณพิชัย

ให้กำลังใจค่ะ  น่าจะหายเหงาแล้วนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท