คนตัดไม้กับขวานที่ไร้คม


            วันนี้อยู่ดีๆผมก็นึกถึง นิทานเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ โดยเรื่องมีอยู่ว่า นาย ก. เป็นพนักงานใหม่ของบริษัทหนึ่ง ซึ่งมีความมุ่งมั่น ในการทำงานอย่างมาก เขาตั้งใจทำงานทั้งวัน แม้แต่ตอนเที่ยง เค้ายังซื้อข้าวมานั่งกินที่โต๊ะทำงานของเขา และมุ่งหวังว่าจะทำงานได้มากกว่า และดีกว่าใครๆในรุ่นเดียวกัน เขามุ่งมั่นที่จะสร้างผลงานมาก จนบางครั้งเขานำงานที่ค้างอยู่กลับไปทำที่บ้านในวันหยุด ทำอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จนผลประเมินครั้งแรก ออกมาดีกว่าคนอื่นๆ ระหว่างนั้นเอง ระหว่างที่นาย ก. กำลังดีใจอยู่กับความสำเร็จที่เกิดขึ้น และคิดว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเป็นหนทางที่ถูกต้องแล้ว แต่หัวหน้างานของเขากลับไม่คิดเช่นนั้นเลย แถมยังรู้สึกกังวลเล็กน้อยด้วยซ้ำ  แต่เนื่องจากนาย ก. ได้รับคะแนนประเมินสูงสุดตั้งแต่ครั้งแรก เขาจึงยิ่งมีความมุ่งมั่น ที่จะทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำมากขึ้น จนแม้แต่วันหยุดยังนำงานกลับไปทำงานที่บ้านทุกๆสัปดาห์  โดยหวังว่าผลงานจะออกมาโดดเด่นเหมือนเช่นเคย จนหลายเดือนผ่านไปคะแนนประเมินของนาย ก. ที่ดีมากๆ ค่อยๆตกลง เรื่อยๆ จนนาย ก. เองเริ่มสังเกตเห็นว่า ทั้งที่เราก็ยังนำงานกลับไปทำที่บ้าน ทุกครั้งที่มีโอกาสแท้ๆ แต่คะแนนประเมินของเรา กลับน้อยๆกว่าเพื่อนๆในกลุ่มที่ทำงานด้วยกันอีก ด้วยความอึดอัดใจอย่างหนักหน่วง  นาย ก. จึงแบกคถามที่ค้างคาใจไปถามหัวหน้าของตน ว่าเพราะเหตุใดคะแนนประเมินของตนจึงต่ำกว่าของเพื่อนๆ ทั้งที่ ตนเองนั้นทำงานหนักกว่าเพื่อนๆ แท้ๆ

            หลังจากที่หัวหน้างานได้ยินคำถามดังกล่าวแล้ว หัวหน้างานคนดังกล่าว ก็ถามกลับนาย ก. ทันที่ว่า “ คุณได้พักผ่อนครั้งสุดท้าย เมื่อไหร่? “ นาย ก. งงกับคำถามดังกล่าวมาก เพราะ ผลงานในแต่ละเดือน น่าจะไม่เกี่ยวข้องกับการพักผ่อนมากนัก หรือ ถ้ามีจริงๆ น่าจะมีผลในทางตรงกันข้ามมากกว่า กล่าว คือ “ ยิ่งพักผ่อนมาก ยิ่งน่าจะมีเวลาสร้างผลงานได้น้อยมากกว่า คนที่พักผ่อนไม่ใช่หรือ ? “ จากนั้น หัวน้างานจึงเล่านิทานเรื่องหนึ่งให้กับ นาย ก. ฟังว่า

             มีชายคนหนึ่ง สมัครงานเป็นช่างตัดไม้ และสาเหตุที่เค้ามาสมัครในตำแหน่งนี้ รายได้ค่อนข้างดี มากในสมัยก่อน และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น เป็นเพราะว่าเค้ามั่นใจในพละกำลังของตนเอง เป็นอย่างมาก เนื่องจากในสมัยก่อนมีแต่ขวานที่ใช้ตัดไม้ได้ ดังนั้นพละกำลังจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีสำหรับคนตัดไม้   และเนื่องจากเค้ามั่นใจในพละกำลังของตน ดังนั้เค้าจะไม่เคยหยุดพักเลย ในช่วงเวลาทำงาน แม้แต่ช่วงเวลาพักกินข้าว เค้าก็จะรีบกิน และรีบมาตัดไม้ต่อ โดยในวันแรกเค้าสามารถตัดไม้ได้ ถึง 50 ต้นเลยทีเดียว  หลังจากที่หัวหน้างานเล่ามาถึง ตรงนี้ ก็หยุดเล่า แล้วหันกลับมาถาม นาย ก. ว่า “ ถ้าคนตัดไม้คนดังกล่าวยัง คงทำแบบนี้ทุกวัน คิดว่า สิ้นเดือน คนตัดไม้จะตัดไม้ได้เพิ่มขึ้นหรือไม่ ? “ นาย ก. หยุดครุ่นคิดสักพัก และตอบกลับไปว่า “ คนตัดไม้น่าจะตัดไม้ได้มากขึ้น เนื่องจากมีความชำนาญในการตัดไม้มากขึ้น “  แทนที่หัวหน้างานจะตอบกลับนาย ก. ทันทีทันใด แต่หัวหน้างานกลับปล่อยให้เกิดห้วงเวลาพักใหญ่ เพื่อให้ นาย ก. ได้ครุ่นคิดกับคำตอบที่ตัวเองตอบออกไปอีกครั้ง แต่แทนที่นาย ก. จะครุ่นคิดเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง กลับกลายเป็นว่า นาย ก. รู้สึกอึดอัดอย่างมากที่หัวหน้างานไม่ยอมเฉลยทันทีที่ตนเองตอบคำถามดังกล่าว และในไม่กี่อึดใจต่อมา หัวหน้างานก็เฉลยคำตอบดังกล่าว แต่ดูเหมือนว่า คำตอบจะไม่เป็นไปตามที่ นาย ก. ต้องการนัก คำเฉลย คงคำถามดังกล่าว คือ “ คนตัดไม่สามารถตัดไม้ได้ลดลงกว่าวันแรก “ คำถามแรกที่ดังออกมาจากปาก ของนาย ก. คือ “ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้นล่ะ ? “ ซึ่งเป็นคำถามเดียวกับที่ คนตัดไม้ในนิทานเรื่องนี้ ถามต่อ เจ้านายของเขา  ซึ่งคำตอบที่คนตัดไม้ต้องการฟัง กลับไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ เพราะ เจ้านายของคนตัดไม้ ถามกลับว่า “ เจ้าลับขวานครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ? “ หลังจากที่หัวหน้างานได้เล่านิทานถึงตรงนี้ ก็พูดกับนาย ก. ต่อว่า  “ การลับขวาน ก็เปรียบเสมือนกับการพักผ่อนเราทุกคนต้องการเวลาที่จะผ่อนคลาย มีเวลาคิดกับเรื่องต่างๆ , มีเวลาเพียงพอที่จะเรียนรู้ และเติบโต ถ้าเราไม่ยอมใช้เวลาที่จะลับคมให้แก่ชีวิตของเราเอง เราจะกลายเป็นผู้ที่โง่เขลาและสูญเสียศักยภาพของตัวเราไป “ หลังจากพูดจบ นาย ก. ก็พยักหน้าและขอตัวออกไปทำงานต่อ หัวหน้างานไม่ได้ห้ามอะไร และหลังจากนั้น นาย ก. ก็เปลี่ยนเป็นคนใหม่ รู้จักจัดการกับเวลา และ จัดการกับชีวิตมากยิ่งขึ้น รวมถึงผลงานที่ทำได้ก็มากกว่าแต่ก็อีกด้วย

         

              ดังนั้นขอให้ทุกท่านเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ ใช้เวลาลับขวานให้กับตนเองบ่อยครั้งเท่าที่จะเป็นไปได้  โดยหาแนวทางในเรียนรู้ในรูปแบบของตนเอง เพื่อที่จะพัฒนาศักยภาพของตนเอง ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิผลรวมถึง สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่งานของเรามากยิ่งๆขึ้นๆไป


เขียนใน GotoKnow โดย 
 ใน NANA
หมายเลขบันทึก: 542797เขียนเมื่อ 18 กรกฎาคม 2013 22:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 กรกฎาคม 2013 22:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

คนตัดไม้ต้องลับขวาน  คนทำงานต้องลับสมอง คนเป็นนักร้องต้องลับเสียง จึงจะรังสรรค์ผลงานให้ดียิ่งๆขึ้น

ขอบคูณที่นำมาลับปัญญา

...เป็นการพัฒนาคนให้พัฒนางานนะคะ...ขอบคุณค่ะ

สองวันนี้ คณาจารย์ มาร่วมกันลับขวานครับ ติดตามที่นี่ ครับ

http://www.gotoknow.org/posts/542721

ขอบคุณ แง่คิด การทำงาน "...ถ้าเราไม่ใช้เวลาลับคมให้แก่ชีวิตของเราเอง เราจะกลายเป็นคนที่โง่เขลา และสูญเสียศักยภาพ ของตัวเราไป..."

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท