ฉันไม่ใช่กวีที่ยิ่งใหญ่
ที่ใครใครต่างรู้จักทักทายถาม
แต่ฉันมีจิตใจใฝ่เดินตาม
ท่านผู้ที่มีนามว่ากวี
ฉันไม่อาจสรรคำอันล้ำเลิศ
ด้วยถ้อยคำบรรเจิดประเสริฐศรี
ฉันเขียนไปตามรู้สึกสำนึกมี
ทุกวลีที่เขียนบอกออกจากใจ
จึงถ้อยฉัน อาจไม่เพราะเสนาะโสต
ขอได้โปรดเมตตาอย่าผลักไส
หากขาดตกบกพร่องต้องอภัย
จะแก้ไขให้ดีทุกวี่วัน
บทร้อยกรองแต่ละบทจดจารึก
มาจากความรู้สึก สุข โศกศัลย์
บางคนว่าบ้าละเมอเพ้อรำพัน
แต่ว่าฉันหาสนใจในคำคน
จะดูถูกเดียดฉันท์นั้นก็ช่าง
ฉันจะสร้าง สื่อแสดงทุกแห่งหน
เพื่อสืบสานงานร้อยกรองผ่องอำพน
ให้ยืนหยัดอยู่ทนคู่คนไทย
ท่านว่า "นานาประเทศล้วนนับถือ"
ผู้ที่รู้หนังสือ คือแต่งได้
คนที่เกลียดอักษร คือคนไพร
คนที่เยาะกวีไซร้ คือคนดง
ฉันไม่ใช่กวีที่กล่าวถึง
และไร้ซึ่งนิยามตามประสงค์
เพียงมีใจสร้างสรรค์อันมั่นคง
เจตน์จำนงของฉัน นั้นเช่นนี้
๑๙.๐๔ น. : ๒๗ มิ.ย. ๕๖
ไพเราะมากเลยครับท่าน
ขอบคุณอาจารย์ขจิต และคุณโยมทุกท่านที่มาเยี่ยมชมให้กำลังใจ ขอให้มีความสุข
สาธุ อนุโมทนาค่ะ
ไพเราะและกินใจ ค่ะ สาธุ
..ฉัน..
วัตรตอนเช้า เขาให้ฉัน เพราะวินัย
ทุกเวลา ก่อนเพลได้ ยังมีฉัน
หลังเพลแล้ว ถือเป็นว่า ได้ข้ามวัน
ต่อแต่นั้น ฉันแต่น้ำ ค่ำถึงเช้า
......................เรื่องฉันนะเจ้าคะ..กราบขมาพระมหาวินัย
เรื่องของไก่
ไก่เอย เมื่อเจ้า ยังเจียบ
วัฏฏะ จัดระเบียบ เจ้าไว้
จาบจน จวบเจ้า เจริญวัย
ยังเลี้ยงไก่ สืบไว้ คงพันธู์
ความรัก..ทำให้คนเป็นกวี
ความรู้ดี ทำให้คนมีคุณค่า
ความทุกข์ ทำให้คนเป็นปรัชญา
ความชั่วช้า ทำให้คนเป็น..สัตว์