คุณหมอที่ดี พยาบาลที่มีคุณธรรม…


อาชีพหมออาชีพพยาบาลนี้ถือว่าเป็นอาชีพที่ดีที่ประเสริฐ เป็นอาชีพที่ได้สร้างบุญสร้างกุศล สร้างความดีสร้างบารมีสร้างคุณธรรม ที่เค้าให้คุณหมอให้พยาบาลมาประพฤติมาปฏิบัติธรรม เพื่อจะได้เป็นคุณหมอที่ดีเป็นพยาบาลที่ดีมีคุณธรรม


ทุกคนที่เกิดมามีความทุกข์ทั้งทายกายมีความทุกข์ทั้งทางใจ มีความจำเป็นที่จะต้องพึ่งหมอพึ่งพยาบาลกันทุก ๆ คน จะหลีกหลีไปไม่พ้นไปไม่ได้


ทุกวันนี้ประชาชนเค้าพูดคุยกันว่าคุณหมอและพยาบาล ตรวจโรครักษาพยาบาลไม่ค่อยจะดี ไม่เหมือนโรงพยาบาลเอกชนเค้า

คุณหมอและพยาบาลทุก ๆ คนที่เป็นโรงพยาบาลรัฐน่ะ เมื่อมีประชาชนเค้าพูดขานวิพากษ์วิจารณ์หรือทักท้วงกัน ก็ต้องพิจารณาตัวเองว่าใครมีความขาดตกบกพร่องอะไรบ้าง ถ้าขาดตกบกพร่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวน่ะ ท่านก็ให้คุณหมอและพยาบาลคนนั้น ๆ แก้ไขปรับปรุงตัวเอง

พระพุทธเจ้าท่านให้คุณหมอและพยาบาลทุกคนเจริญเมตตามาก ๆ ให้ถือว่าทุกคนน่ะถือญาติพี่น้องของเราทุก ๆ คน พระพุทธเจ้าท่านไม่ให้เราเอาเงินเดือนอย่างเดียว ต้องทำงานเอาคุณธรรมคุณงามความดีด้วย

คนไข้ทุก ๆ คนน่ะไม่ว่าเค้าจะเป็นใครนะถึงไม่ใช่ญาติพี่น้องสายโลหิต หรือว่าไม่ใช่คนไทยเค้าเป็นคนต่างประเทศ เค้าเป็นคนยากคนจน เค้าไม่มีเส้นมีสาย พระพุทธเจ้าของเรา ในหลวงของเราท่านก็ให้มีเมตตากับคนป่วยคนไข้ทุก ๆ คน ตั้งใจให้เต็มที่เต็มร้อย เอาใจใส่  ต้องขวนขวายกระตือรือร้น ว่องไว รีบด่วน เรื่องเงินเรื่องสตางค์นั้นน่ะเอาไว้ทีหลัง

เราเป็นมนุษย์เป็นผู้ที่มีจิตใจสูง มีโอกาสทำความดีเราต้องรีบทำ ตั้งใจตรวจ ตั้งใจถาม ถามตัวเค้าไม่เข้าใจก็ต้องถามญาติพี่น้องของเขา เราอย่าไปมองหน้าเค้าแล้วถามนิด ๆ  หน่อย ๆ ก็เขียนชื่อยาแล้วก็จ่ายยานะ อย่างน้อยก็เอาเครื่องหูฟังตรวจคนไข้ ใช้ปรอทวัดไข้ วัดความดัน “ถึงเค้าไม่ใช่ญาติเราเค้าก็มีหัวใจ เค้าเป็นคนยากคนจนเค้าก็มีหัวใจ...”


ส่วนใหญ่น่ะคนเรามันเห็นแก่ตัว ถ้าญาติเรา พ่อแม่พี่น้องเพื่อนฝูงเราน่ะเราก็เอาใจใส่ ดูแลเทคแคร์ แต่ถ้าเค้าไม่ใช่ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงเค้าเป็นคนยากคนจนน่ะ บางทีเป็นคนต่างชาติ เป็นคนยากคนจนต่างชาติที่เค้ามาทำงานในประเทศเราเราก็มองเค้าไปอีกระดับหนึ่ง "ถ้าเราคิดอย่างนี้แหละถือว่าเราทำไม่ถูกต้อง เราไม่ได้ทำหน้าที่ของคุณหมอ  คุณพยาบาล..."

ประชาชนคนส่วนใหญ่เขาไม่มีญาติเป็นคุณหมอเป็นพยาบาล แถมก็ยังเป็นคนยาก  คนจนอีกต่างหาก จะไปโรงพยาบาลเอกชนก็ไม่มีเงินไม่มีสตางค์ ถ้าคุณหมอไม่มีความเมตตา พยาบาลไม่มีความเมตตา ประชาชนคนเหล่านั้นเค้าจะไปพึ่งพาอาศัยใครล่ะ

คุณหมอคุณพยาบาลต้องเป็นที่พึ่งทั้งทางกายและทางใจให้กับเค้าได้ว่าทุก ๆ คนมีคุณธรรมมีความเป็นมาตรฐานอันเดียวกันหมด ชื่อว่าหมอชื่อว่าพยาบาลต้องไม่เลือกที่รักมักที่ชังนะ

คนเราน่ะมันต้องสร้างความดีสร้างบารมีละความเห็นแก่ตัว เวลาอยู่ที่โรงพยาบาลเราก็ดูแลเค้าอย่างเต็มที่เทคแคร์อย่างเต็มที่ ถ้าเราเปิดคลินิกแล้วเขาไปคลินิก เราก็ดูแลเค้าอย่างเต็มที่เทคแคร์เค้าอย่างเต็มที่เหมือนกัน อย่าให้เหมือนคุณหมอหลาย ๆ คนน่ะ  อยู่ที่โรงพยาบาลรัฐบาลก็ดูแลรักษาธรรมดา ถ้าไปคลินิกของตัวเองน่ะไม่ใช่รักษาธรรมดาแต่รักษาดูแลเป็นพิเศษ อย่างนี้แหละพระพุทธเจ้าถือว่าเรามีความเห็นแก่ตัว เราปฏิบัติไม่ดีไม่ถูกต้อง เห็นแก่เงินแก่สตางค์ ขาดคุณธรรมไม่มีคุณธรรม

ประเทศเราโรงพยาบาลใหญ่ ๆ ก็มีอยู่หลายโรงนะ เช่น โรงพยาบาลศิริราช รามาฯ จุฬาฯ แล้วก็ยังมีโรงพยาบาลทหารตำรวจ และโรงพยาบาลจิตเวช ถ้าทุก ๆ คนเน้นคุณธรรม เน้นเรื่องความเมตตาความกรุณาเอาใจใส่กับคนป่วยทุก ๆ คนน่ะมันก็เป็นสิ่งที่ดีมาก

สถานีอนามัยในหมู่บ้านในตำบลส่วนใหญ่ก็ปฏิบัติงานยังไม่ค่อยได้มาตรฐาน ยังเป็นที่พึ่งของประชาชนไม่ค่อยจะได้ เวลาเจ็บเวลาป่วยมาน่ะ ประชาชนชาวบ้านเค้าไปหาก็ไม่ค่อยจะพบพยาบาล เค้าก็เลยพากันไปตั้งแต่โรงพยาบาลอำเภอ ก็ถือว่าประเทศเราเมืองเรานี่อนามัยนี้ก็ยังไม่ค่อยเกิดประโยชน์ต่อชาวบ้านต่อประชาชน

โรงพยาบาลอำเภอ โรงพยาบาลประจำจังหวัดแต่ละจังหวัด การบริการรักษาดูแลประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังไม่ค่อยดีพอยังไม่ได้มาตรฐาน ชาวบ้านแต่ละอำเภอนั้นเค้าพากันบ่นกันมากนะว่าคุณหมอใช้ไม่ได้ ว่าพยาบาลใช้ไม่ได้ ไม่ค่อยได้ตั้งใจตรวจโรค ไม่ค่อยได้ตั้งใจรักษาพยาบาล ไม่มีความกระตือรือร้นเอาใจใส่ในคนไข้ ประชาชนคนส่วนใหญ่น่ะไม่ต่ำกว่า ๖๐ เปอร์เซ็นต์เค้าพูดว่าโรงพยาบาลประจำอำเภอ โรงพยาบาลประจำจังหวัดไม่ค่อยได้มาตรฐาน”

บางคนเค้าป่วยหนักก็ไม่ได้รับความเอาใจใส่ มันมีระบบระเบียบ ๓๐ บาทรักษาทุกโรค โรงพยาบาลก็มีต้นทุนจำกัด คนป่วยหนักจะส่งโรงพยาบาลจังหวัดก็ไม่ได้ เพราะว่าถ้าส่งไปแล้วทางโรงพยาบาลจังหวัดก็ต้องมาหักค่าพยาบาลจากโรงพยาบาลอำเภอ  ทำให้โรงพยาบาลอำเภอเป็นหนี้เป็นสิน นี้เป็นสาเหตุให้คนที่ยากจนคนที่ไม่เส้นมีสายนั้นน่ะตายกันมาก ต้องรอจนมันใกล้จะหมดลมหายใจค่อยส่งไป ส่งไปมันก็ไม่ทันเหตุการณ์น่ะ เพราะคนเรามันจะตายแล้ว นี่ก็เพราะว่าระบบ ๓๐ บาทรักษาทุกโรคนี้แหละ

คุณหมอผู้อำนวยการและก็คุณหมอทุกท่านตลอดจนพยาบาลนี้ก็น่าจะคิดให้ดีนะ...  ถึงเค้าจะไม่เป็นญาติของเรา ไม่เป็นเพื่อนของเรา หรือว่าเค้าเป็นคนยากจนต่างประเทศ  อย่างนี้แหละ เราก็น่าจะเมตตาเค้าสงสารเค้านะ เพราะเค้าไม่มีทางไปแล้ว เค้าไม่รู้จะไปพึ่งพาอาศัยใครนะ


ทางที่ดีที่ถูกต้องคุณหมอต้องรักษาให้ดีที่สุด มันจะเป็นหนี้เป็นสินเราก็ต้องยอมเพราะเรื่องความเจ็บความตายมันเป็นสิ่งที่จำเป็น เราอย่าเห็นแก่ตัวที่ไปหน่วงเหนี่ยวคนไข้เพียงแค่ ๓๐ บาทรักษาทุกโรค “ให้โรงพยาบาลเป็นโรงพยาบาลที่แท้จริงเป็นที่พึ่งของมวลมนุษย์ทั้งหลายได้ อย่าให้โรงพยาบาลของเราเป็นโรงฆ่าสัตว์...”

พระพุทธเจ้าท่านของเรา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวใจของเราน่ะ ท่านมีความเมตตาต้องการให้คุณหมอทุก ๆ คนน่ะตลอดจนถึงพยาบาลต้องฝึกพูดกับคนไข้เพราะ ๆ แล้วก็พูดกับญาติคนไข้เพราะ ๆ น่ะ ทุกคนก็รู้อยู่แล้วเป็นคุณหมอเป็นพยาบาลนี้มันเครียดเน๊อะ  แต่คนป่วยมันเครียดมากกว่าอีก ญาติคนป่วยมันเครียดมากกว่าอีก เป็นคุณหมอคุณพยาบาลต้องใจดี เป็นคุณหมอคุณพยาบาลต้องใจเย็น เป็นคุณหมอคุณพยาบาลต้องเป็นไม่มีทิฏฐิมานะ เจ้าอารมณ์

ส่วนใหญ่ล่ะคุณหมอตลอดจนถึงผู้อำนวยมันมีทิฏฐิมานะมาก มันมีตัวมีตนมาก มันมี EGO สูง มันวางมาดวางกล้ามมากเกิน มันทำให้พยาบาลได้รับความยากลำบาก เอาใจลำบาก

ผู้จะเป็นคุณหมอทุกคนน่ะให้พิจารณาตัวเองนะ คนมีความรู้มากมีความสามารถมากมันชอบหลงตัวเอง คนเก่งมันชอบหลงตัวเอง คนรวยมันชอบหลงตัวเอง อันตรายที่ร้ายแรงที่สุดก็คือการหลงตัวเองนี้แหละ พยาบาลทุกคนต้องการคำพูดดี ๆ เพราะ ๆ จากคุณหมอ

การอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้อื่นมันดีมันเกิดบุญเกิดกุศล การพูดดี ๆ เพราะ ๆ กับคนอื่นมันเกิดบุญเกิดกุศลนะ เค้าก็มีกำลังใจที่จะร่วมงานกับเราทำงานกับเรา เราจะถือคติว่าเราพูดตรงไปตรงมาออกจากใจเรา ไม่ได้เสแสร้งอย่างนั้นไม่ได้ เพราะใจเรานั้นน่ะยังใช้ไม่ได้ ใจของเรามันยังมีความโลภความโกรธความหลง ใจของเรายังไม่ใช่ใจพระพุทธเจ้า ใจพระอรหันต์น่ะ

ดูตัวอย่างในหลวงของเราน่ะ ท่านพูดเพราะ ท่านติดดิน ท่านไม่ได้กร่าง ท่านไม่ได้ถือเนื้อถือตัว ท่านถึงเป็นที่พึ่งทั้งทางกายและจิตใจของปวงชนทั้งชาวไทยและชาวโลกทั้งหลาย

การทำงานน่ะพระพุทธเจ้าท่านก็ให้เรามีความสุขในการทำงาน ถ้าเราไม่มีความสุขในการทำงานน่ะก็เท่ากับเราตกนรกทั้งเป็น ทำไปทุกข์ไป 


เราอย่าทำงานด้วยความจำเป็น ต้องทำงานเพื่อให้เกิดบุญเกิดกุศลเพื่อการเสียสละ ต้องมีความสุขในการทำงาน มีความสุขในการตรวจโรค มีความสุขในการรักษาพยาบาล มีความสุขในการพูดการจา การเดินการเหิน  “เราปฏิบัติอย่างนี้แหละเรียกว่าเราประพฤติเราปฏิบัติธรรม...”


เราทำงานนี้เราเกี่ยวข้องกับคนอื่น เมื่อเกี่ยวข้องกับคนอื่นเราก็ต้องเอาใจคนอื่น  ทุกคนต้องเอาใจคนอื่นหมดน่ะ “เค้าก็เอาใจเรา เราก็เอาใจเค้า” อย่างนี้เค้าเรียกว่ามันเป็นธรรม ยุติธรรมดีน่ะ ไม่ใช่เป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง เป็นคนเจ้าอารมณ์ คนที่เค้าทำงานด้วยเค้าก็มีความสุข ทุกท่านทุกคนต้องดูแลกันต้องแชร์ความสุขให้ซึ่งกันและกัน

เราอาจจะไม่พอใจคนนี้บ้างคนนั้นบ้างเราก็ต้องมาแก้ที่ใจของเรา ถ้าเราไปมองดูแต่คนโน้นผิดคนโน้นถูกเราก็เป็นคนพาลเป็นอันธพาล อันธพาลมันก็มี ๓ ระดับ ระดับหนึ่ง  ก็ทางกาย ระดับหนึ่งทางวาจา ระดับหนึ่งก็ทางใจ

เราอย่าให้เราเป็นคนพาลนะ มันเป็นทุกข์... ใครเค้าจะดีจะชั่วมันก็เรื่องของเค้า  เราก็ทำของเราให้มันดี เราก็คิดอย่างนี้คนอื่นก็คิดอย่างนี้ทุกอย่างมันก็ดี

ดีมากที่คุณหมอคุณพยาบาลได้มาเข้าค่ายปฏิบัติธรรมมันจะทำให้ในโรงพยาบาลของเราเกิดความร่มเย็นระหว่างคุณหมอและพยาบาล รวมถึงระหว่างคุณหมอพยาบาลและคนไข้ เป็นการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง จะเป็นความคิดของรัฐบาลก็ถูกต้อง เป็นความคิดของผู้อำนวยการก็ถือว่าถูกต้อง

ก็มีประชาชนมาพูดบ่อย ๆ มาถามบ่อย ๆ น่ะว่าโรงพยาบาลที่นั่นมาเข้าค่ายธรรมะมั๊ย โรงพยาบาลนั้นมาเข้าค่ายธรรมะมั๊ย เค้าอยากให้มาบ้างเพราะโรงพยาบาลที่นั่นแย่มากเลย

เรามาฝึกใจดีใจสบายอย่างนี้แหละ เรากลับไปบ้านก็ใจดีใจสบายอยู่ที่บ้าน อยู่ที่ครอบครัวของเรา อยู่กับบุตรธิดาภรรยาสามีของเรา ครอบครัวของเราก็มีไม่กี่คน เราก็ดูแลทั้งกายทั้งใจทั้งหน้าที่การงานกัน ให้ความรักความเมตตาความอบอุ่นความสงสาร ซึ่งกันและกัน อย่าเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง เอาแต่ทิฏฐิมานะเจ้าอารมณ์ มีอัตตาตัวตนมาก  มีโลกส่วนตัวมาก อย่างนั้นไม่ได้ไม่ถูก กลับไปบ้านเราก็ดูแลคุณพ่อคุณแม่เราให้ดีน่ะ ดูแลทางบ้านให้มันดี

เรามาวัดมาฝึกปฏิบัติธรรมนั้นก็ให้ทำใจให้สบายให้สงบ ฝึกปล่อยวางทุกอย่างให้ใจมันสงบ ที่เราโกรธเราเกลียดมาหลายเดือนหลายปีก็ทิ้งมันไป เรารักเราชอบมาหลายเดือนหลายปีก็ทิ้งมันไป สิ่งที่ผ่านมาแล้วในอดีตหนึ่งวินาทีสองวินาทีเราก็ทิ้งไปให้หมด ฝึกจิตฝึกใจให้สงบ เพราะคนเราความสบายอยู่ที่ใจสงบ ถ้ามันไม่สงบก็ฝึกหายใจเข้าให้ชัดเจน ฝึกหายใจออกให้ชัดเจน คนเราถ้ามีสตางค์เยอะแต่ถ้าใจไม่สงบอย่างนี้มันก็ไม่มีความสุขหรอก ถ้าเรามีเงินมีสตางค์เยอะแล้วเรามีปัญหาระหว่างภรรยาสามีเราก็ไม่มีความสุขหรอก เราพยายามมาแก้ที่ใจ มาฝึกปล่อยฝึกวาง

เรามาอยู่วัดเรามาฝึกปล่อยวางนะ... เราเคยพูดมากเราก็ไม่พูด เราเคยโทรศัพท์เราก็  ไม่โทร เราจะฝึกทำใจสงบแล้ว ฝึกปล่อยฝึกวางแล้ว เรื่องคนอื่นช่างเค้าเราไม่เกี่ยว ลองอยู่กับตัวเองบ้าง ให้สงบบ้าง ปล่อยวางบ้าง


ทุกคนน่ะมีคุณพ่อคุณแม่ คุณพ่อคุณแม่ท่านก็เลี้ยงเรามาตั้งแต่อยู่ในท้องจนเราถึงทุกวันนี้ ถือว่าเป็นผู้มีพระคุณ เรามาดูตัวเองว่าเราให้อะไรคุณพ่อคุณแม่บ้าง เพราะเราเป็น  “คนเอา” อย่างเดียวน่ะ อายุ ๓ ขวบ ๔ ขวบก็เรียนหนังสือจนไปมีครอบครัวแล้วก็ยังไม่เคยได้ทดแทนดูแลพ่อแม่เลย

เมื่อพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่มีพระภิกษุรูปหนึ่งไม่สบายเป็นโรคพุพอง พระพุทธเจ้าไปเห็นแล้วท่านก็ไปดูแลไปอุปัฏฐาก ให้ต้มน้ำร้อน เช็ดตัวให้ ท่านก็เรียกภิกษุ  มาบอกสอนว่า “การอุปัฏฐากคนไข้นี้ถือว่ามีบุญใหญ่มีอานิสงส์ใหญ่ ถ้าเราได้อุปัฏฐากคนไข้ก็ถือว่าได้ดูแลพระพุทธเจ้า”

การที่เราเป็นพยาบาลเป็นคุณหมอนี่แหละ เราทำความดี ดูแลคนป่วยคนไข้แล้วก็เสียสละ อย่างนี้เค้าเรียกว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดบุญเกิดกุศลที่เราจะสามารถมอบให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้ คุณพ่อคุณแม่เราบางคนยากลำบากมาก เป็นหนี้เป็นสินส่งเราเรียน  ถ้าเราอยู่สะดวกกินสบายแล้วลืมพ่อลืมแม่ อย่างนี้เค้าเรียกว่าเป็นคนลืมตัวลืมตน พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าอย่างนี้ไม่ถูกต้อง

ดูตัวอย่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราท่านเป็นผู้ที่กตัญญูกตเวที ท่านถึงเหมาะสมที่จะเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ยกตัวอย่างเช่น ช่วงสมเด็จย่าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช ในหลวงไปเสด็จไปเยี่ยมทุกวัน มาป้อนข้าวป้อนน้ำป้อนยาให้แม่  ให้ความอบอุ่นแก่แม่ หลังงานพระบรมศพสมเด็จย่าเสร็จสิ้นลงแล้ว ราชเลขาของสมเด็จย่า มาแถลงในที่ประชุมต่อหน้าสื่อมวลชนว่า ก่อนสมเด็จย่าจะสิ้นพระชนม์ปีเศษ ตอนนั้นทรงพระชนมายุ 93 พรรษา ในหลวงเสด็จจากวังสวนจิตรลดาไปวังสระปทุมตอนเย็นทุกวัน ไปกินข้าวกับแม่ ไปคุยกับแม่ ไปทำให้แม่ชุ่มชื่นหัวใจ เนื่องจากพระองค์ต้องทรงงานอื่นด้วย ในหลวงจะเสด็จกลับมาอีกครั้งช่วงตี 1-2 และจะเสด็จกลับช่วงใกล้เช้า 

ดูตัวอย่างองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เกิดมาทุกภพทุกชาติสมัยที่ท่านยังบำเพ็ญบารมีเป็นโพธิสัตว์อยู่ท่านก็ดูแลพ่อแม่อย่างดีมาก ถึงแม้จะเสวยพระชาติเป็นสัตว์เป็นมนุษย์ท่านก็ดูแลพ่อแม่เป็นอย่างดี สมัยทุกวันนี้ก็สะดวกสบายมีโทรศัพท์เราก็เอาไว้แต่ฟังเพลงโหลดเพลงเล่นอินเตอร์เนท เวลาพ่อแม่ก็ไม่โทรหาไม่ติดต่อ พ่อแม่ก็เป็นห่วงเรา ต้องการกำลังใจ

เราจะเป็นคนดีเราต้องแก้ไข เราจะเป็นคนประเสริฐเราต้องประพฤติปฏิบัติตัวเอง 

ไม่มีใครมาประพฤติปฏิบัติให้เรา ความสวยความงามมันไม่ได้อยู่ที่ใบหน้าหรือว่าผิวพรรณ ความสวยความงามมันอยู่ที่ความดีของเราต่างหาก ถ้าเราคบกับคนที่เค้าดี ๆ  อยู่ใกล้ชิดเท่าไหร่ก็ยิ่งสงบยิ่งเย็นยิ่งสวยยิ่งงาม ถ้าเราอยู่กับคนที่เค้าไม่ดี มีทิฏฐิมานะมากปากจัดเห็นแก่ตัว ก็ยิ่งเห็นเค้าเป็นนางยักษ์นางมารร้าย ความดีเราต้องทำทุกวัน ๆ ทำติดต่อไปเรื่อยเดี๋ยวก็เจริญเองดีเองน่ะ ต้องอาศัยความตั้งมั่นนะ


การบรรยายพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าวันนี้ก็เห็นสมควรแก่เวลา ขออำนวยอวยพรให้คุณหมอและพยาบาลรวมถึงญาติโยมทุกท่านคน จงเป็นคนดี  มีคุณธรรม เป็นคุณหมอที่ดี เป็นคุณพยาบาลที่ดี

ด้วยบุญบารมีของพระพุทธเจ้าพระธรรมพระอริยสงฆ์ จงได้รับความสำเร็จในการเรียน  ประสบความสำเร็จในธุรกิจหน้าที่การงาน และได้บรรลุถึงมรรคนิพพานด้วยกันทุกท่านทุกคนเทอญ…


พระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ที่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์เมตตาให้นำมาบรรยาย

ค่ำวันที่ ๒๕ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๖


หมายเลขบันทึก: 540595เขียนเมื่อ 26 มิถุนายน 2013 16:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 มิถุนายน 2013 16:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เมื่อก่อนใครๆก็ชอบพูดว่า โรงพยาบาล เหมือนโรงฆ่าสัตว์ เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้วนะคะ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท