เงาตามตัว
ความเชื่อที่สำคัญที่สุดก็คือ "เชื่อในเรื่องกรรม" เพราะทุกคนมีกรรมเป็นของตน ใครทำอะไรไว้ย่อมได้รับผลเช่นนั้น ไม่ช้าก็เร็ว
แต่หลายคนมักลืมความเชื่อเรื่องนี้ไป ทำให้ต้องมาคอยตั้งคำถามเหมือน "พระยามิลินท์" ที่ถาม "พระนาคเสน" ว่า
"ที่พระคุณเจ้าบอกว่า บุญช่วยทำให้เรามีความสุขได้ แล้วพระคุณเจ้าจะชี้ให้เห็นได้หรือไ่ม่ว่า บุญที่ว่านั้นอยู่ตรงไหน?"
"บุญบาปก็เหมือนเงาที่จะติดตามผู้นั้นไป ไม่มีปรากฎหรอกว่าอยู่ที่ไหน" พระนาคเสนตอบกลับ
"ขอพระคุณเจ้าช่วยชี้ตัวผลบุญให้เห็นหน่อยได้หรือไม่?" พระยามิลินท์ยังไม่ยอมลดละ
"ชี้ไม่ได้หรอก ก็เหมือนพระองค์ปลูกผลไม้ไว้ พระองค์สามารถชี้ได้หรือไม่ว่าผลจะเกิดที่ไหนบ้าง" พระนาคเสนถามกลับ
พระยามิลินท์ถึงกับอึ้งแล้วตอบว่า
"ชี้ไม่ได้หรอกว่าผลจะอยู่ไหน"
"ใช่แล้วมหาบพิตร ไม่มีใครชี้ได้หรอกว่าผลบุญนั้นจะอยู่ที่ไหน แต่ตราบใดที่ยังมีตัวเราอยู่ ผลนั้นก็ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว"
พระนาคเสนสรุปปัญหานี้ไว้ว่า สิ่งที่ทำนั้นมีผลเสมอ เพียงแต่เราเลือกจะเชื่อสิ่งที่เห็นมากกว่า จึงทำให้เวลามีทุกข์มาถึงตัว จะเที่ยวไปโทษสิ่งนั้นสิ่งนี้ว่า ทำให้เราต้องเป็นอย่างนี้ ลืมโทษตัวเราที่ทำไม่ดีไว้ก่อน
เพราะในพระุพุทธศาสนาให้ความสำคัญกับ ๓ สิ่ง คือ
การกลัวกรรมชั่ว
ด้วยการเริ่มต้นกลัวผลที่ตามมาเพราะ "กรรมชั่ว" หรือ "บาปอกุศล" ตราบเท่าที่ยังไม่ให้ผล เราก็ยังอยู่ดีมีความสุข แต่พอให้ผลเมื่อไร เรามักเรียกร้องถึงความยุติธรรมเสมอ
สร้างกรรมดี
"กรรมดี" หรือ "บุญกุศล" ขณะยังไม่ให้ผล เราก็อาจมีความทุกข์บ้าง แต่เป็นความทุกข์ที่ผู้เชื่อมั่นในความดีว่า สักวันจะพบกับความสุขที่ยิ่งใหญ่กว่า ไม่ต่างจากเราเดินอยู่กลางทะเลทรายแล้วไม่ยอมแ้พ้ ยังคงมุ่งมั่นเดินต่อไปอย่างไม่ลดละ เราก็อาจถึงจุดหมายที่ตั้งใจไว้ได้
ปล่อยวางจิตใจให้บริสุทธิ์
ยามประสบพบผลแห่งกรรมไม่ดีที่ได้ทำไว้ ก็ทำให้เกิดการเรียนรู้ ทำความเข้าใจ หรือขณะที่ได้รับผลแห่งกรรมดีก็ไ่ม่หลงระเริง ด้วยรู้ว่าทุกอย่างไม่มีอะไรแน่นอน ล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่และก็ดับสิ้น ไม่ยั่งยืน ไม่คงทน มีแต่เพียงใจที่บริสุทธิ์ สะอาด และสงบเท่านั้น จึงจะเข้าถึงความสุขที่แท้จริงได้
เพราะใจจะเป็นเงาให้เรารับรู้ได้เสมอว่า ผลที่ได้รับ คือ สุข หรือ ทุกข์ มีที่มาจากกระทำของเราทั้งสิ้น
.....................................................................................................................................................................
หากคิดจะทำชั่ว ควรคิดถึงผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ไม่ใช่ดูว่า ทำชั่วมันง่ายและได้ผลประโยชน์เพียงเท่านั้น
เพราะ "กรรม" มีจริง
ไม่มีผู้ใดหนีพ้นแม้แต่คนเดียว
หากทำแล้ว พึงรับผลที่จะเกิดขึ้นเถิด
ไ่ม่ต้องตีโพยตีพาย
เพราะมันเป็นเหตุปัจจัยจากตนเองเท่านั้น
ทำสิ่งใดย่อมได้สิ่งนั้น
บุญรักษา คนดีทุกท่าน ;)...
...................................................................................................................................................................
ขอบคุณหนังสือธรรม...
กิตติเมธี. ใครว่าชีวิตเลือกเกิดไ่ม่ได้. กรุงเทพฯ : วาย เอ็ม ครีเอทีฟ, ๒๕๕๖.
สาธุ ...เจ้าค่ะ
ขอบคุณครับพี่แจ๋ว หนูรี ;)...
ทำสิ่งใดได้สิ่งนั้นค่ะ
ปลูกแตงกินแตง
ปลูกถั่วกินถั่วงอก...(เด็กๆชอบเปลี่ยนเป็นถั่วงอกทุกที)
เช่นนั้นครับ คุณครูนก noktalay ;)...
เข้ามาอ่านธรรมะ ยามเช้าครับ อาจารย์...
ยินดีครับ ท่าน พ.แจ่มจำรัส ;)...
ขอบคุณมากค่ะอาจารย์
ยินดีครับ คุณ tuknarak ;)...
อนุโมทนาสาธุค่ะ
ยินดีครับ คุณ แมววิเชียรมาศ ;)...
ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาทค่ะ ไม่ประมาท... สุขทุกข์อยู่ที่ใจและการกระทำของเราเอง ณ วันนี้ วิบากจะตามมาในวันหน้า สาธุค่ะ
ขอบคุณด้วยความซาบซึ้งใจนะครับ อาจารย์นพลักษณ์ ๙ Sila Phu-Chaya ;)...
กรรมอยู่ที่การกระทำ
ขอบคุณมากครับ kunrapee ;)...