สวัสดีค่ะ มีเรื่องเล่าเล็กๆๆแต่เป็นประสบการณ์ใหม่ของดิฉันมาฝาก
"มาม๊าครับ..ดูอะไรนี่".ลูกชายใหญ่วัย 15 ปี เรียกดิฉันขณะเรานั่งดูทีวีและวิพากษ์วิจารย์ รายการเกี่ยวกับความแตกต่างของผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งลูกชายใหญ่ดูจะสนใจเป็นพิเศษ
ดิฉันหันไปดูโทรศัพท์ที่ลูกยื่นให้ดู ในนั้นมีรูปเด็กผู้หญิงวัยรุ่น หน้าตา ธรรมดาๆคนหนึ่ง ยิ้มแป้นแร้น... ".แฟนหนู"..??????
ในตอนแรก ดิฉัน ตั้งสติสักพักแล้ว ชวนคุย..
แม่: แฟนหนู..หมายถึงอะไรหรือลูก...
ลูกชายหน้าแดง :..ก็แฟนน่ะ..ไม่รู้อธิบาย
แม่: หมายถึงว่า..คนที่ลูกประทับใจอย่างนั้นรึปล่าว...
ลูกชายใหญ่: อาจจะใช่นะ..
แม่: ลูกประทับใจเพื่อนคนนี้ตรงไหนเหรอ...จะให้แม่เรียกเธอว่าอย่างไร
ลูกชายใหญ่: ชื่อ...ไม่รู้ว่าประทับใจตรงไหน เขาก็ไม่รู้ว่าเค้าชอบหนูตรงไหน ก็แค่เขาถามกำกวมว่า" คำถามที่ลำบากใจที่สุดคืออะไรรู้ไหม..
หนูก็บอกว่าก็ลองถามมาสิ เป็นแฟนกันดีไหม..หนูก็ว่าเป็นก็เป็น...
จากนั้น เราได้แลกเปลี่ยนมุมมองของการคบเพื่อน และการมีแฟน ในวัยรุ่น ลูกขอให้เล่าเรื่องสมัยเรายังอายุเท่าเค้า ดูลูกสนใจ และผ่อนคลายมากขึ้น ท่าทางสบายใจที่ได้เล่าให้เราฟัง และเราไม่ได้คัดค้าน เพียงแต่ชวนคุยเรื่องการวางตัว ให้เกียรติผู้หญิง และการคบกัน ชวนกันเรียน
ลูกชายบอก..อือ ก็ชวนกันเรียนน่ะ เจอกันบ้างตอนเลิกเรียน ถามเรื่องการบ้าน..
ดิฉันได้แต่ทิ้งท้าย ว่า ดีจังที่ลูกเล่าให้แม่ฟัง ... หากมีมีอะไรสงสัยจะถาม ก็ได้ทุกเมื่อนะครับ..
ลูกชายเป็นหนุ่มน้อยแล้ว..เป็นพัฒนาการตามวัยที่เริ่มสนใจเพื่อนต่างเพศ ..ลูกไว้ใจเล่าให้ฟังเพราะอะไรหนอ..รึว่าเราเล่นกับลูกมากไป..
เข้ามาดูแม่ลูกผูกพันธ์...
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ว่าเเลี้ยงลูกแบบเพื่อน
ลูกจะบอกเราในทุกเรื่อง
เราก็จะได้รับรู้ความเป็นไปของลูกด้วยค่ะ
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ต้องเล่นกับลูกทุกวัน พูดคุยกับลูกทุกวัน
แวะมาให้กำลังใจ
ขอบคุณทุกท่านคะที่เข้ามาเยี่ยมเข้มแข็ง
ทฤษฎีเป็นเพียงหลักการ
ชีวิตจริง มีเสน่ห์มากๆๆค่ะ