ที่มาของบ้านใจสว่าง


 มาอยู่บ้าน”ใจสว่าง” ใจมันสว่างจริงๆ ช่วงเช้า คนอื่นเขาไปทำงานกันหมด บ้านเงียบ ได้ยินแต่เสียงตาหวานร้องอยู่ไกลๆเป็นพักๆ ไก่ที่ข้างบ้านบินข้ามรั้วมาขุดคุ้ยดินเสียงแกรกกราก ทำให้เกิดอยากจะเขียนในลานโรงเรียนต่อ ได้ความรู้สึกอีกอย่าง คือเขียนโดยไม่ต้องมีคนอ่าน เพราะตอนนี้ ลานปัญญาก้เงียบกริบพอๆกับบ้านใจสว่างเหมือนกัน

บ้านใจสว่างหลังนี้ เริ่มลงฐานรากมาตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2555 โดยเลือกเอาฤกษ์ใกล้ๆวันเกิดลูกจั๊กเจ้าของบ้าน



จริงๆแล้วบ้านใจสว่างนี้ เราจำเป็นต้องย้ายบ้านดินหลังเดิมของจั๊กมาสร้างในที่ใหม่ เพราะที่ดินเดิม พอมีโครงการสร้างตึกเรียน บ้านดินที่จั๊กรักนักหนาจึงถูกรื้อ เพื่อเอา โครงสร้าง พวกเหล็ก และประตูหน้าต่างมาใช้กับบ้านที่จะสร้างใหม่ แต่เราไม่สามารถสร้างบ้านดินเหมือนของเก่าได้ แต่เราไม่สามารถสร้างบ้านดินเหมือนของเก่าได้ เพราะช่างชุดบ้านดินที่เรารู้จัก แก่จนสายตาฝ้าฟาง มาสร้างให้เราไม่ไหวแล้ว


โครงสร้างบ้านหลังใหม่จึงเปลี่ยนไปโดยให้น้าตึ๋ง สถาปนิกประจำตระกูล เขียนแบบให้เป็นบ้านสองชั้น ชั้นล่างเป็นตึก ชั้นบนเป็นไม้ แต่ขนาดเท่าหลังเดิม

จากเดือนตุลาปี 2555 ก็ค่อยๆเริ่มสร้างต่อกันมาเรื่อยๆแบบไม่ได้รีบร้อนอะไร ใช้ช่างหลายชุด ชุดแรกเป็นพวกทำโครงสร้างและฐานราก ที่เคยทำฐานรากบ้านแจ๊กลูกชายคนโต ชุดนี้มาไกลจากบ้านฝาง มากันเป็นกลุ่ม 12 คน อาวุโสเรียกว่า เก๋ากันทั้งนั้น ทำงานแบบไม่ต้องรอคำสั่ง อายุรวมกันคงเกือบพัน ทำงานเร็วแต่ไม่ถนัดงานละเอียด เพราะตาเริ่มไม่ค่อยดีแล้ว ก็ให้ทำงานประเภทหยาบๆ เช่นขุดหลุมทำฐานราก วางคานคอดิน ซึ่งทำเสร็จเร็วมาก อาทิตย์เดียวก็เรียบร้อย


ต่อมาก็เป็นชุดช่างหนอ ที่มาจากบ้านโนนม่วง ช่างชุดนี้ เป็นช่างเหล็ก แต่ทำปูนได้ด้วย เป็นชุดที่รื้อเอาเสาและคานเหล็กต่างๆจากบ้านเก่ามาใส่ในบ้านหลังใหม่ ตามแปลนที่น้าตึ๋งเขียนไว้ ช่างหนอและคณะ เป็นช่างชุดที่มาซ่อมแซมปรับปรุงให้โรงเรียนเป็นประจำแทบทุกช่วงวันหยุดเทอม พอเปิดเทอมก็ว่างพอดี จึงมาทำการขึ้นเสาวางคานชั้นสอง ขึ้นโครงหลังคา ซึ่งเป็นงานเหล็กล้วนๆ แล้วก็ต่องานปูนชั้นล่าง โดยใส่หน้าต่างรอบๆบ้าน ตอนนี้ถึงตอนช่างเถอะ คือเราเองต้องมาคุมเอง เพราะสถาปนิกไม่ให้รายละเอียดว่าหน้าต่างบานไหนอยู่ตรงไหนบ้าง แปลนที่เขียนไว้แต่โครงสร้างก้ถูกต่อเติมโดยสถาปนึกวัยดึกคนนี้


หลังจากชั้นล่างและโครงสร้างแล้วเสร็จพอเห็นเป็นรูปเป็นร่างบ้าน ก็ได้ช่างฝีมือ คือ ช่างอำนาจ เข้าไปทำ ส่วนที่เป็นไม้ชั้นสอง และตกแต่งปูนเปลือย เทพื้นขัดมัน ตลอดจนติดตั้งสุขภัณฑ์ แล้วก็ให้ช่างเกิ่งและลูกชายเข้ามาละเลงสีบ้าน ตามสเปคของเจ้าของบ้าน โดยให้ตัวบ้านเป็นสีขาวทั้งหลัง หลังคาเป็นสีเทา เวลาเข้าไปอยู่ดูทางไหน มันสว่างไปหมด เจ้าของบ้านก้เลยให้ชื่อบ้านนี้ว่า “บ้านใจสว่าง”


ตอนนี้ ตัวบ้านเสร็จแล้ว กำลังทำรั้วและลงต้นไม้ และแม่ใหญ่ก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่เป็นการถาวรตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2556 ก็เริ่มตกแต่งภายในโดยหาม่านมา หาเฟอร์นิเจอร์มาใส่ไปพลางๆ รอเจ้าของบ้านที่ทำงานอยู่ กทม. ซึ่งจะกลับมาตกแต่งบ้านเพิ่มเติม ทุกสองอาทิตย์ เป็นงานที่ทำด้วยใจรัก และมีความสุขจริงๆ


วันที่ 30 พฤษภาคม 2556 บ้านใจสว่าง ช่างเกิ่งก็ส่งงานทาสี เป็นที่เรียบร้อย เป็นบ้านสีขาวสว่างอยู่กลางทุ่งนา มีหลังคาเป็นสีเทาเข้ม งานต่อไปก็คือจะทำซุ้มประตูด้วยไม้สนทั้งต้น และทำรั้วและประตูทางเข้าด้วยปีกไม้สน แล้วก็ปลูกต้นไม้ให้เต็มพื้นที่ จัดแค่สวนหย่อมเล็กๆใกล้บ้านไว้ปลูกดอกไม้หอมๆเพื่อส่งกลิ่นโชยมาตอนกลางคืน


วันที่ 9 มิ  ย.ซุ้มประตูที่ช่างเถอะ ออกแบบเอง  ได้ช่างหนอทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว (ดังภาพ)  หน้าตาซุ้มสวยกว่าที่เขียนแบบไว้โดยช่างชำนาญงาน  รอไม่เลื้อยประเภท พวงคราม รสสุคนธ์ สร้อยอินทะนิล เลื้อยพันให้เต็มซุ้ม  แล้วออกดอกสวยๆหอมๆ ให้ชื่นชมตั้งแต่หน้าประตู  ดอกไม้เต็มเมื่อไหร่ คงได้ถ่ายรูปมาโชว์กันอีกครั้ง


คำสำคัญ (Tags): #บ้านใจสว่าง
หมายเลขบันทึก: 538764เขียนเมื่อ 10 มิถุนายน 2013 07:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2013 07:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท