จากเวทีขับเคลื่อน PLC หลายๆ ครั้งที่ผมมีประสบการณ์ในพื้นที่ ผมสรุปว่าตอนนี้ ความทุกข์ที่สุดของทั้งเขตพื้นที่การศึกษา (สพป.) และของโรงเรียน คือ "จำนวนโครงการที่มากล้น" หรือ อาจเรียกว่า "งานที่ต้องทำมากเกินไป" จนไม่มีเวลาทำ "งานที่อยากทำ" หรือ "งานที่ควรทำ" ....
ผมไม่รู้ว่าสาเหตุของปัญหาที่ผมจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ ผิดหรือถูกมากน้อยแค่ไหน แต่เป็นความทุกข์ที่ได้รับฟังมาจากผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ จึงอยากสะท้อนให้ ผู้หลักผู้ใหญ่ในระบบ ในวงการศึกษาเห็น เผื่อท่านอาจจะพิจารณาแก้ไขคลายทุกข์ให้ครู ผอ. และ ศน. ได้บ้าง
....โครงการที่ สพป. ต้องทำรวมแล้วน่าจะประมาณเกือบ 400 โครงการ..... เป็นประโยคหนึ่งที่ทำให้ผมต้อง ค้นหาสาเหตุว่า เป็นไปได้หรือ เป็นจริงหรือ....เป็นไปได้อย่างไร....จากการศึกษา ผมพบระบบที่เป็นต้นของจำนวนโครงการดังรูปครับ
งานที่วิ่งมาที่ สพป. อาจแบ่งเป็น 2 แหล่งหลักๆ คือ งานจากกระทรวงฯ ก็คือ งานที่มอบหมายมาจาก สพฐ. และงานที่มอบหมายมาจาก กระทรวง กรม หรือหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งจะไม่ขอกล่าวถึงมากนัก (เพราะยังไม่ทราบรายละเอียด) งานจาก สพฐ. อาจแบ่งออกได้เป็น 3 แบบหลัก ดังต่อไปนี้
ลองจินตนาการดูนะครับ ว่า หากโครงการจาก 3 ส่วนนี้ รวมกับงานจากกรมอื่นๆ ลงสู่โรงเรียนขนาดเล็กที่มี ผอ. 1 คน ครูน้อย 5 คน จะเกิดอะไรขึ้น...... ดังนั้นผมจึงเริ่มเชื่อนิดๆ แล้วครับ ที่ว่ามีถึง 400 โครงการต่อปีนั้น อาจจะเป็นจริงก็ได้ เพราะต้องแบกรับทั้ง KPI สพฐ. KPI สพป. KPI กรมฯ และ KPI ของโรงเรียนเอง .....หากไม่บูรณาการล่ะก็แย่แน่...
ผมสรุปตรงนี้ว่า ปัญหาคือ การทำงานแบบ "แยกส่วน" การ "บูรณาการ" ก็ยังอาจไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหานี้ หากทุกท่านในที่นี้ ยังไม่ได้มีทักษะการมองอย่าง "องค์รวม"
จากประสบการณ์ของผม การฝึกตนตามแนวทางพระพุทธศาสนาที่ถูกต้องจะทำให้เราเห็นองค์รวมได้ง่ายครับ
เมื่อไหร่การศึกษาไทยจะไปถึงฝัน
ชาตินี้ดูแล้วคงตายเปล่า...ไม่มีโอกาสได้เห็น