เรียนเลขคณิต ด้วยข้าว (in English)


เรียนเลขคณิต ด้วยข้าว (in English from news)

ข้าวล้นโกดัง18ล้านตัน อคส.ประจานของบเพิ่มเพื่อดูแล/ละเลงแล้ว6.1แสนล.
http://www.thaipost.net/news/070613/74677  7 June 2556
“บุญทรง” ปั้นตัวเลขจำนำข้าวมอบให้ “สุรนันทน์” ตรวจแล้วก่อนแถลง 7 มิ.ย. ที่ปรึกษา พณ. แถไม่ได้ล้มเหลวเพราะได้แวตเพิ่มจากชาวนา! คลังรับใช้เงินละเลงแล้ว 6.1 แสนล้านบาท น้ำท่วมปากไม่กล้าแจงมูดีส์เพราะไร้ข้อมูล “ธีระชัย” จัดหนักชี้ต้องใช้อภินิหารถึงเจ๊งต่ำกว่า 2 แสนล้าน ซัดหากมั่วหรือหมกเม็ดข้อเท็จจริงเละแน่ “อคส.” เปิดตัวเลขสต็อกข้าวประจาน ทำสถิติค้างโกดังมากสุด 18 ล้านตัน เตรียมของบเพิ่มอีก 2 พันล้านเพื่อดูแล...

[Now let us see, 600,000 Million baht spent on buying rice at 15,000 baht/ton;
Simple grade 3 arithmatics says we should have 40 million tons of rice;
But there is only 18 million tons of rice in warehouses and silos;
Some 2 million tons of rice is being packaged for domestic sale at discount;
Therefore by grade 2 arithmatics, 20 million tons of rice is missing;
But we know better: Not all money has been spent buying rice!]


บุญทรงชี้แจงจำนำข้าว
http://www.dailynews.co.th/businesss/210524 10 June 2556
...ทั้งนี้ขอยืนยันว่าการรับจำนำทำให้ชาวนามีรายได้สูงขึ้นจริง และยังทำให้ราคาข้าวในตลาดปรับเพิ่มขึ้น โดยข้อมูลจาก ธ.ก.ส. ระบุว่า การรับจำนำ ทำให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น 4,000 บาทต่อตัน มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นทั้งระบบ 86,000 ล้านบาท หรือ 39,160 บาทต่อครัวเรือน โดยการรับจำนำตั้งแต่ปี 54 จนถึงปัจจุบันใช้เงินรับจำนำรวม 606,000 ล้านบาท แยกเป็นนาปี 54/55 จำนวน 118,000 ล้านบาท นาปรัง 55 อีก 210,000 ล้านบาท ปี 55/56 จำนวน 228,000 ล้านบาท และนาปรัง 56 ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 50,000 ล้านบาท...

[Minister of Trade says rice-growers get 4,000 baht more per ton of rice;
And for all rice-growers they get 86,000 million baht more; or 39,160 baht per family.
Let us try grade 4 arithmatics, total incease of revenue for all rice-growers is 86,000 million baht, therefore 86,000 million baht/4,000 baht ==> 21.5 million tons of rice is produced by all rice-growers. (Remember in problem above, 40 million tons of rice supposed to be bought with 600,000 million baht).

Next we hear that each family (on average) get an increase in revenue of 39,160 baht. Therefore there are 86,000 million baht/39,160 baht/family ==>  2,196,118.5 families of rice-growers benefit from this scheme.

We can now move to grade 6 arithmatics and ask questions like:
How many persons in a family? How much more money each person get? (Remember, revenue is income before expenses and taxes are deducted.)
If 600,000 million baht is disributed equally to everyone in the Kingdom, how much would each person get? Is this amount of increase in revenue (again before commissions -หัวคิว and taxes) enough to cover the rise in cost of living? ...]


คำสำคัญ (Tags): #arithmatic#learning
หมายเลขบันทึก: 538759เขียนเมื่อ 10 มิถุนายน 2013 03:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2013 03:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

 ..... ไม่รู้จะแก้ยังใงดี นะคะ ....  ข้าวล้นโกดัง18 ล้านตัน..... อคส.ประจานของบเพิ่มเพื่อดูแล/ละเลงแล้ว 6.1แสนล

Dear Dr. Ple  Ico48 : I don't have a magic wand either. People will have to show their attitude towards such behaviour in our society - whether it is done by private sectors or government.

Let me give an example of solution to the questions I asked above in the my post:

กระสอบข้าว "ใกล้ทับ" ยิ่งลักษณ์  เปลว สีเงิน 11 June 2556
http://www.thaipost.net/news/110613/74858
...ผู้สื่อข่าวถามผมว่ากรณีนี้จะเป็นต้นเหตุให้รัฐบาลพังหรือไม่ ผมตอบว่าไม่ทราบ เพราะไม่ชำนาญด้านการเมือง
  แต่ผมอยากจะตอบในที่นี้ ถึงแม้ผมไม่ทราบว่ารัฐบาลจะพังหรือไม่ แต่ที่ผมทราบแน่ๆ  ก็คือ ในฐานะประชาชนผู้เสียภาษี พวกเราพังกันหมดแล้วครับ
  ถ้าใช้ตัวเลขขาดทุนแบบกลมๆ ๒ แสนล้าน เฉลี่ยต่อคนสำหรับคนไทยทั้ง ๖๗ ล้านคน ก็เป็นเงินคนละเกือบ ๓ พันบาทแล้วครับ นี่นับหัวเฉลี่ยลูกเด็กเล็กแดงไปด้วยทุกๆ คน
  แต่ผมคิดว่าคนที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในแต่ละปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างกินเงินเดือนนั้น คงมีไม่ถึง ๕ ล้านคน ถ้าใช้ตัวเลข ๕ ล้านคน ที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นตัวหาร ภาระจะตกคนละ ๔ หมื่นบาททีเดียวครับ
  ถ้าขาดทุนบานออกไปเป็น ๓ แสนล้าน ภาระก็จะเพิ่มเป็นคนละ ๖ หมื่นบาท

  รัฐมนตรีคลังกับรัฐมนตรีพาณิชย์ร่วมกันสร้างภาระให้แก่ประชาชนมากขนาดนี้ ก็ควรจะปิดบัญชีให้เขาดูกันหน่อยซิครับ ประชาชนเขาจะได้รู้สึกว่ามันคุ้มค่ากับเลือดที่ไหลออกไปกันหน่อย"....

It is quite interesting to how higher arithmatics is used to achieve results ay nationals and international levels. Perhaps the article below shows us how simple arithmatics can discredit a government and even destroy a good national image. From now on who would believe a Thai...?

อย่าปกปิดความจริง จำนำข้าวเก๊-วิธีลูกผีลูกคน
เรื่องปก Thaipost/X-cite 16 June 2556  http://www.thaipost.net/tabloid/160613/75090

  ...ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ถึงความไม่ชัดเจนในเรื่องตัวเลขขาดทุนในการดำเนินนโยบาย”รับจำนำข้าว” หลังมีข้อสรุปตัวเลขที่ไม่ตรงกันของกระทรวงพาณิชย์ กับคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร

โดยล่าสุด ผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เมื่อ 13 มิถุนายน 2556 ที่มีบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานการประชุมแทนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ยืนยันตัวเลขของกระทรวงพาณิชย์ที่พบว่าขาดทุนเพียง 34,845.04 ล้านบาท โดยคิดจากข้าวเปลือกนาปีฤดูผลิต 2554/55 และข้าวเปลือกนาปรัง 2555 โดยไม่มีการรวมข้าวนาปี 2555/56 เข้าไปด้วย ....

It seems that Thais have increased interest in mathematics many times. Perhaps schools should ride on the wave and increase children's interest in mathematics too ;-)

..ตอนนี้คนกินข้าวต้องเก่งคณิตศาสตร์คำนวณราคาข้าวขายไปกี่ตัน เป็นเงินเท่าไร ที่คำนวณเก่งเพราะมันต้องตั้งสมการตัวเลข หาตัวเลขที่หายไปเหมือนแทนค่าตัวเลขด้วยค่า X กับค่า Y ช่วยกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ที่ตัวเลขไม่ตรงกันสักที แถมยังมีตัวเลขของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลผุดขึ้นมาอีก แล้วในใจเราที่กินข้าวคำนวณแล้วตัวเลขใกล้เคียงกับใครมากที่สุดล่ะ ตัวเลขขาดทุนนะ... (http://www.thaipost.net/tabloid/230613/75388  23 June 2556)

A Letter to editor, Thaipost 26 June 2556 < http://www.thaipost.net/news/260613/75555 > :
  ...อิชั้นขอคำนวณตัวเลขคร่าวๆ และง่ายๆ ให้ดูนะคะ
  รัฐบาลรับจำนำข้าวเปลือกตันละ ๑๕,๐๐๐ บาท ข้าวเปลือก ๑ ตัน สีเป็นข้าวสารได้ ๖๐๐ กก. ฉะนั้นราคาข้าวสารคือ กก.ละ ๒๕ บาท หรือตันละ ๒๕,๐๐๐ บาท ราคาข้าวสารส่งออกคือ ตันละ ๕๕๐ US ดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยคือ ๑๖,๕๐๐ บาท
  สรุป รัฐบาลส่งข้าวไปขายขาดทุนตันละ ๘,๕๐๐ บาท
  ปี ๒๕๕๕ ไทยส่งข้าวออก ๖.๕ ล้านตัน ก็คือขาดทุน ๕๕,๒๕๐ ล้านบาท
  ค่าดำเนินการ-ค่าเช่าโกดัง-ค่าดอกเบี้ยอีกปีละ  ๓๙,๐๐๐ ล้านบาท
  รวมปี ๒๕๕๕ ขายข้าว ๖.๕ ล้านตัน ขาดทุน  ๙๔,๒๕๐ ล้านบาท   
  ตัวเลข ๙๔,๒๕๐ ล้านบาท ที่ไทยขาดทุนนี้ยังไม่รวมข้าวเน่า ข้าวดีที่ค้างอยู่ในโกดัง ถ้ารัฐนำข้าวส่งออกก็ขาดทุนตันละ ๘,๕๐๐ บาท หรือถ้ารัฐนำออกมาประมูลหรือทำข้าวถุงคงถูกใจรัฐบาล ขายต่ำกว่า กก.ละ ๒๕ บาท ก็ขาดทุนทั้งนั้นแหละ คำนวณดูแล้วกัน คิดอย่างไรถึงได้ผลขาดทุนปีละ ๗-๘,๐๐๐ ล้านบาท การที่มีกลุ่มคนที่พยายามออกมาพูดโดยไม่ใช้สมอง คนพวกนี้เอาปากคาบไม้บรรทัดไว้ดีกว่า หัวหน้าพรรคเพื่อไทยอาจออกมาแก้ตัวแทนว่า "พูดผิด" ก็ได้นะ
  ดังนั้น อิชั้นจึงขอเรียนพี่น้องคนไทยทั้งหลายว่า พวกเราได้ยินว่า "ติ๊กผิด", "พิมพ์ผิด" แล้วก็อาจมี "พูดผิด" พวกเราคนไทย ๑๕ ล้านคนเมื่อ ๒ ปีก่อนก็คง "คิดผิด" อีก ๒ ปีข้างหน้า พวกเราทุกคนต้องไม่ "คิดผิด" อีกนะคะ.
  สวัสดีค่ะ
  เสฉวน...

 'ยิ่งลักษณ์' สบายแม้ 'ชาติวิบัติ' เปลว สีเงิน 26 June 2556
http://www.thaipost.net/news/260613/75563
...ข้าวสารนั้น เก็บแค่ ๖ เดือนก็เสื่อมสภาพ แต่นี่เก็บเป็นปีๆ ระบายทีเดียว ตลาดก็พัง ค่อยๆ ทยอยเน่าเสียก็เพิ่ม ต้นทุนตันละ ๒๔,๐๐๐ ขายเป็นข้าวกรอกถุงตันละ ๗,๐๐๐-๗,๕๐๐ ไปขายชาวบ้าน "ตายใคร-ตายมัน" นั่นก็ถือเป็น "ราคาช่วยชาติ" แล้ว
  ข้าวสารตลาดโลกตันละ ๔๘๐ เหรียญก็สูงสุด แต่ข้าวยิ่งลักษณ์ แค่ต้นทุนก็ปาเข้าไปตันละ ๘๐๐ เหรียญ กะว่าข้าวหมดโลกแล้วจะโขกขายได้ตันละเป็นพันเหรียญ แต่ถึง ณ เวลานี้ "ผีถึงป่าช้า" โละขาย ๑๖-๑๗ ล้านตัน ได้แค่ตันละ ๒๕๐ เหรียญ ....กระนั้น
  ยิ่งลักษณ์-กิตติรัตน์-บุญทรง-นางแดง-นางดำ ก็ยังสบาย เพราะไม่ได้ใช้เงิน "สกุลชิน" ซื้อ หากแต่ใช้เงิน "ภาษีประชาชน" ซื้อ
  แล้วฝ่ายที่ฉิบหาย คือใคร ส่องกระจกดูซี...หน้าตาฉลาดๆ ที่เห็น
  นั่นละ...ใช่แล้ว!

นี่ไง....หัวหน้าขบวนการคอรัปชั่น! เปลว สีเงิน 3 July 2556
http://www.thaipost.net/news/030713/75876
...  ตัวเลขข้าวค้างสต็อก รัฐบาลบอกมี ๑๑ ล้านตัน แต่อคส.-อ.ต.ก.บอกมี ๑๘ ล้านตัน แต่กระทรวงพาณิชย์ โดยรัฐมนตรี... โดยปลัดหญิง... และโดยอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศหญิง...  อ้าง "เป็นความลับทางราชการ"!?
  ไม่ยอมบอกกระทั่งกับกระทรวงคลัง ซึ่งเป็นหน่วยราชการที่ต้องทราบ จนคลังไม่สามารถ "ปิดบัญชี" ได้...
 ...ในเมื่อพาณิชย์ไม่ยอมเผยตัวเลข ชัดว่าข้าวกับตัวเลขไม่ตรงกัน อย่างที่พูดกันถึงสต็อกลมบ้าง ข้าวหมุนเวียนบ้าง จึงเกิดคำถามขึ้นว่า...แล้วข้าวมีจำนวนเท่าไหร่ที่ถูกลักลอบจากคลังรัฐบาลนำไปหมุนขายก่อน?
  คำถามนี้ มีคนตอบไว้ให้แล้ว คือ "รศ.ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร" จากสถาบัน TDRI ท่านเขียนไว้ในบทความเรื่อง "ปัญหาจากการล่มสลายของโครงการรับจำนำข้าว" ในประเด็นนี้ ท่านว่าดังนี้.....   
  ".....ทราบว่าในช่วงที่มีการจำนำข้าวระหว่างเดือนตุลาคม ๒๕๕๔-สิ้นมีนาคม ๒๕๕๖ รัฐบาลรับจำนำข้าวเปลือกทั้ง ๓ ฤดู (นาปี ๕๔/๕๕ นาปรัง ๕๕ และนาปี ๕๕/๕๖) รวมทั้งสิ้น ๓๖.๔๘ ล้านตัน ซึ่งแปลงเป็นข้าวสารได้ ๒๒.๕๒ ล้านตัน) ส่วนผลผลิตข้าวทั้งประเทศเท่ากับ ๓๙.๖๘ ล้านตันข้าวสาร
  ก็แปลว่า มีข้าวอยู่ในมือโรงสีและพ่อค้าประมาณ ๑๗.๑๖ ล้านตัน แต่พ่อค้าข้าวจะต้องมีสต็อกข้าวอยู่ในมือประมาณ ๑.๐ ล้านตัน ดังนั้นตลาดข้าวเอกชน จะมีข้าวขายเพียง ๑๖.๑๖ ล้านตัน ขณะเดียวกันในช่วง ๑๘ เดือนดังกล่าว คนไทยต้องบริโภคข้าว ๑๕.๙๐ ล้านตัน และมีการส่งออก ๑๐.๑๗ ล้านตัน รวม ๒๖.๐๗ ล้านตัน
  แสดงว่าตลาดยังขาดข้าวอยู่อีก ๙.๙๑ ล้านตัน ข้าวจำนวนนี้จะต้องมาจากการระบายข้าวของรัฐบาลอย่างแน่นอน
  ถ้ามีการระบายข้าวน้อยกว่านี้ ราคาข้าวสารในตลาดจะต้องแพงขึ้นกว่าสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ แต่รัฐบาลเพื่อไทยประสบความสำเร็จในการตรึงราคาข้าวสารให้มีราคาถูกกว่าสมัยอภิสิทธิ์ และทำให้ราคาข้าวเปลือกแพง
  ทว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ชี้แจงต่อสภาผู้แทนราษฎรเมื่อ ๒๐ มี.ค.๕๖ ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ระบายข้าวเพียง ๗.๐๗ ล้านตัน จึงเกิดคำถามว่า ข้าวอีก ๒.๘๔ ล้านตัน มาจากไหน ?
  คำตอบก็คือ นอกจากการนำเข้าข้าวราคาถูกจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาขายในประเทศ และข้าวบางส่วนถูกนำไปส่งมอบให้โกดังกลางแทนข้าวของชาวนาไทยที่ถูกลักลอบออกจากโกดังไปหมุนขายก่อนแล้ว
  ก็ยังมีข้าวสารในโครงการรับจำนำจำนวน ๒.๕ ล้านตัน ที่ไม่ได้ลงบัญชี แต่ถูกลักลอบนำออกไปขายในตลาด และยังมิได้นำข้าวสารมาคืนโกดัง!
  ถ้ารัฐบาลไม่สามารถจัดการนำข้าวดังกล่าวมาคืนคลังได้  ก็เท่ากับประชาชนต้องสูญเสียเงินภาษีจำนวน ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท (หรือ ๒.๕ ล้านตันคูณราคาขายส่ง ๑๖,๐๐๐ บาทต่อตัน) หรือถ้ามีการขายข้าวจำนวนดังกล่าวในราคาต่ำกว่าราคาตลาด รัฐบาลก็ต้องขาดทุน"...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท