เป็นที่หนักใจสำหรับคนเขียนหนังสือก็คือโจทย์ในการเขียน คราวนี้ได้รับการขอให้เขียนเรื่อง สมัชชาสุภาพจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งต้องประเมินความรู้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 มาถึงปัจจุบัน ของเนื้องานที่ร่วมกันทำมาหลายปีออกมาเป็นหนังสือเพื่อนำเสนอสู่ภาพของจังหวัดสมุทรสาคร ต้นร่าง 2 เรื่องนี้เป็นบทความส่วนหนึ่งของเนื้อหา อยากนำเสนอให้เพื่อนๆ ใน gotoknow ได้อ่าน อาจได้สาระถะบ้าง ไม่ได้บ้างก็ขออภัยด้วยค่ะ ก็เป็นความรู้ในการทำงานกับเครือข่าย กศน.
รติรัตน์ รถทอง เขียนเนื้อหา
บทนำ
จังหวัดสมุทรสาคร เป็นจังหวัดที่ใกล้กับชายทะเล อยู่ในเขตพื้นที่ตอนล่างของภาคกลางและเป็นจังหวัดที่เป็นปริมณฑลของกรุงเทพมหานคร ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเจริญเติบโต และการขยายตัวของชุมชนเมือง ซึ่งมีการขยายตัวติดอันดับต้นๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคมและรวมถึงปัญหาต่างๆ มากมาย ทั้งการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีสถานประกอบการกว่า 5,000 แห่ง สภาพเศรษฐกิจจึงขยายเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีแหล่งเงินทุน แหล่งแรงงานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาอาศัยประกอบอาชีพมากหลายประเทศ ทั้งมอญ พม่า เขมร ลาวและประเทศอื่นๆ ที่เข้ามาหลากหลายชาติพันธุ์ และมีแนวโน้มจะเพิ่มจำนวนประชากรมากขึ้น ในการอยู่ การกิน การใช้ทรัพยากรร่วมกันระหว่างกัน การใช้แหล่งทรัพยากรร่วมกัน
จังหวัดสมุทรสาครมีแหล่งทรัพยากรตามธรรมชาติทางทะเลที่ยังสามารถจะนำมาใช้ได้อีกหลายสิบปี โดยการหาจากแหล่งธรรมชาติ การเพาะเลี้ยงในรูปแบบต่างๆ มีสัตว์น้ำนานาชนิด เป็นแหล่งกำเนิดอาชีพจำนวนมาก มีแรงงานเคลื่อนย้ายเข้ามาประกอบอาชีพ มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจค่อนข้างสูง และส่งผลกระทบมากมาย ทั้งปัญหาแรงงานต่างด้าว ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาคุณภาพชีวิตของประชาชน การศึกษา คมนาคม ขาดมาตรฐานในการให้การบริการ ตลาดสกปรก ของแพง ขาดแคลนพลังงาน ของแพง ปัญหาเหล่านี้ส่งผลกับคนจังหวัดสมุทรสาครมาช้านาน
ส่งผลให้เกิดกระบวนการรวมตัวกันจัดตั้งกลุ่มเครือข่าย สมาชิกสมัชชาสุขภาพจังหวัดสมุทรสาครขึ้น เป็นการพัฒนาและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพ ที่เปิดพื้นที่สาธารณะให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมได้อย่างกว้างขวาง ดังนั้น จำเป็นต้องมีการจัดตั้งกลุ่มเครือข่ายเพื่อให้หน่วยงาน องค์กร ภาคีต่างๆ ภายในจังหวัดสมุทรสาครได้มีตัวแทนเข้าร่วมกระบวนการสมัชชาสุขภาพ เข้าร่วมเป็นสมาชิกสมัชชาสุขภาพอย่างเท่าเทียมกัน จัดตั้งขึ้นมากให้ดำเนินการสร้างเครือข่ายจังหวัด โดยใช้กลุ่มคน หน่วยงาน องค์กร เครือข่ายที่ได้รับผลกระทบ โดยมีเป้าหมายให้ทุกคนมีส่วนร่วมกันทำงาน โดยใช้ความสนใจที่เหมือนกัน ในประเด็นที่คล้ายกันนำมารวมกลุ่มกันเพื่อการติดต่อสื่อสารในประเด็นปัญหาในพื้นที่ที่มีภูมิศาสตร์เดียวกัน
บทบาทหน้าที่ของกลุ่มเครือข่ายสมัชชาสุขภาพ ได้มีการดำเนินการจัดเวทีสาธารณะในประเด็นต่างๆ และนำกลุ่มคนเข้ามากำหนดบทบาทการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ในการลดปัญหาในการปรับแก้ไขเหล่านี้ ล้วนนำมาจากประชาชนเกือบทั้งสิ้น โดยใช้วิธีการการประสานงานระหว่างองค์กรต่างๆ ในกลุ่มเครือข่ายของตน หรือระหว่างกลุ่มเครือข่ายของตนกับสมัชชาสุขภาพจังหวัด เพื่อนำปัญหาเหล่านี้ของจังหวัดสมุทรสาครไปสู่ชุมชน หรือเจ้าหน้าของรัฐที่มีบทบาทในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ลดน้อยลง เป็นการเปิดประเด็นปัญหาให้ร่วมกันแก้ไขปัญหา เพราะถ้าหน่วยงานเดียวเพียงหน่วยงานก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาของภาพรวมทั้งจังหวัดสมุทรสาครได้
สมัชชาสุขภาพจังหวัดสมุทรสาคร ได้มีการจัดทำกิจกรรมที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสาคร โดยการคัดเลือกจากคณะกรรมการสุขภาพจังหวัดสมุทรสาคร โดยการหาข้อมูลจากความต้องการของสมาชิกกลุ่มต่างๆ ภายในจังหวัดสมุทรสาคร จัดทำเป็นแผนของจังหวัดสมุทรสาครผลักดันปัญหาต่างๆ ให้หน่วยงานหลักของจังหวัดสมุทรสาครได้แก้ไข เช่น หน่วยงานสิ่งแวดล้อม หน่วยงานจังหวัดสมุทรสาคร และหน่วยงานอื่นๆ ได้เข้ามาร่วมในการแก้ไขปัญหา
สมัชชาสุขภาพจังหวัดสมุทรสาคร จัดตั้ง โดย กลุ่มองค์กรเครือข่ายไตรภาคี ในการจัดทำนโยบายสาธารณะ ในเรื่องต่างๆ มากมาย โดยการนำมติของสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ นำมาจัดเวทีต่างๆ มากมายโดยเริ่มเป็นรูปธรรมเพิ่มขึ้นตามวันเวลา ภายในจังหวัดสมุทรสาคร โดยเริ่มจากเวทีน้อยๆ ไปจนถึงเวทีหลายร้อยคน และนำความคิดนำกลับไปเสมอกับสมัชชาสุขภาพแห่งชาติเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนภายในจังหวัดสมุทรสาครอย่างแท้จริง
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 เป็นต้นมาได้มีการเสนอประเด็นต่างๆ มิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาน การเข้าถึงยาถ้วนหน้าของประชากรไทย นโยบายแห่งชาติเพื่อการพัฒนาระบบสุขภาพในที่พหุวัฒนธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการกำหนดนโยบายการเจรจาการค้าเสรี เกษตรและอาหารในยุควิกฤต ยุทธศาสตร์ในการจัดการปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บทบาทองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับการจัดการสุขภาพและทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ความเสมอภาพในการเข้าถึงและได้รับบริการสาธารณสุขที่จำเป็น ผลกระทบจากสื่อต่อเด็กและเยาวชนและครอบครัว สุขภาวะทางเพศ : ความรุนแรงทางเพศ การตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อมและเรื่องเพศกับเอดส์ / โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ระบบกลไกการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพในสังคมไทย นโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาวะของแรงงานนอกระบบ การส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วยและญาติกับบุคลากรทางการแพทย์ วิกฤตเศรษฐกิจและการปกป้องสุขภาวะคนไทย รวมแล้ว 14 มิติ ในการปกป้องประชาชนให้มีคุณภาพที่ดีขึ้นโดยใช้กลไกขององค์กรเอกชนนี้ก็ได้รับการพัฒนาและนำมาใช้ในจังหวัดสมุทรสาครที่มีสภาพใกล้เคียงกันและนำความคิดเห็นในภาคประชาชนให้สามารถเป็นที่ยอมรับในภาพของจังหวัดสมุทรสาคร
ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 สมัชชาสุขภาพจังหวัดสมุทรสาคร ได้นำสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 2 นำมาใช้ในการจัดกิจกรรมขององค์กร โดยมีมติ เช่น การจัดการขยะอันตรายจากชุมชนอย่างมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน แผนการพัฒนาที่ยั่งยืนบนฐานการพึ่งตนเองด้าน เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม กรณีภาคใต้ การพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิเพื่อการเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพของประชาชน ยุติการส่งเสริมการขายยาที่ขาดจริยธรรม : เพื่อลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ และสุขภาพของผู้ป่วย ยุทธศาสตร์ ด้านกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการส่งเสริมการขายยา ยุทธศาสตร์ประสานความร่วมมือเครือข่ายสถาบันการศึกษาและสถานพยาบาล เพื่อยุติการส่งเสริมการขายยาที่ขาดจริยธรรม ยุทธศาสตร์ประสานความร่วมมือระหว่างองค์กรวิชาชีพด้านสุขภาพและองค์กรวิชาชีพอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อยุติการส่งเสริมการขายยาที่ขาดจริยธรรม ยุทธศาสตร์ภาคประชาสังคมเฝ้าระวังการส่งเสริมการขายยาที่ขาดคุณธรรม ยุทธศาสตร์นโยบายแอลกอฮอล์ระดับชาติ โรคติดต่ออุบัติใหม่ การพัฒนาการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือกให้เป็นระบบบริการสุขภาพหลักของประเทศคู่ขนานกับการเพทย์แผนปัจจุบัน การจัดการปัญหาภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน การแก้ไขอุบัติเหตุทางถนน การพัฒนากลไกการมีส่วนร่วมเพื่อสุขภาวะของเด็ก เยาวชน และครอบครัว การพัฒนาระบบการดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง มติเหล่านี้จะถูกดึงมาจัดกิจกรรมถ้าเป็นเรื่องที่ใกล้กับบริบทของจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีอัตลักษณ์ของของจัดทำเวที ระดมความคิดโดยใช้รูปแบบของสมัชชาสุขภาพจังหวัดสมุทรสาคร
พ.ศ. 2553 ได้มีมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 3 มาเป็นแนวทางในการดำเนินการ เช่น มาตรการทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหิน ความเป็นธรรมในการเข้าถึงบริการสุขภาพของคนพิการ การควบคุมกลยุทธ์การตลาดอหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก นโยบายการเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ นยาบสนับสนุนพื้นที่จัดการตนเองเพื่อสังคมสุขภาวะ มาตรการในการควบคุมปัจจัยเสียงต่อสุขภาพด้านยาสูบ ร่วมฝ่าวิกฤตความไม่เป็นธรรม นำสังคมสู่สุขภาวะ การแก้ปัญหาวัยรุ่นไทยกับการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม การป้องกันผลกระทบต่อสุขภาวะและสังคมจากการค้าเสรีระหว่างประเทศ มติเหล่านี้ได้ถูกนำมาเสนอในที่ประชุมและนำมาถกเถียงกันเพื่อให้เข้ากับบริบทของปัญหาภายในจังหวัดสมุทรสาคร และนำมาจัดทำเป็นโครงการและเปิดเวทีสมัชชาสุขภาพจังหวัดสมุทรสาคร
พ.ศ. 2554 มติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 4 เช่น ความปลอดภัยทางอาหาร : การจัดการน้ำมันทอดซ้ำเสื่อมสภาพ การจัดการปัญหาการฆ่าตัวตาย (สุขใจ...ไม่คิดสั้น) การจัดการภัยพิบัติธรรมชาติโดยชุมชนท้องถิ่นเป็นศูนย์กลาง การบริหารจัดการทรัพยากรลุ่มน้ำขนาดเล็กอย่างยั่งยืน โดยกระบวนการมีส่วนร่วมของเครือข่ายและภาคทุกภาคส่วน การจัดการปัญหาโฆษณาที่ผิดกฎหมายของยา อาหาร และผลิตภัณฑ์สุขภาพทางวิทยุกระจายเสียง สื่อโทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต
จนกระทั่งมาถึง พ.ศ. 2555 ได้มีมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 5 มติสมัชชาสุขภาพ
แห่งชาติ เช่น การจัดระบบและโครงสร้างเพื่อส่งเสริมการเดินและการใช้จักรยานในชีวิตประจำวัน การจัดการสภาพแวดล้อมรอบตัวเด็ก 24 ชั่วโมง : กรณีเด็กไทยกับไอที พระสงฆ์กับการพัฒนาสุขภาวะ การปฏิรูปการศึกษาวิชาชีพด้านสุขภาพให้สอดคล้องกับความจำเป็นด้านสุขภาพในบริบทสังคมไทย การปฏิรูประบบการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ การป้องกันและลดผลกระทบด้านสุขภาพจากโรงไฟฟ้าชีวมวล การจัดการปัญหาหมอกควันที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ความปลอดภัยทางอาหาร : การแก้ไขปัญหาจากสารเคมีกำจัดศตรูพืช การพัฒนากลไกและกระบวนการที่สามารถรับมือผลกระทบด้านสุขภาพจากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่เป็นอาหารและอาหาร ทั้งหมดที่ผ่านมานั้นเป็นการกำหนดบทบาทการทำงานของทีมงานสมัชชาสุขภาพที่มากจากหลากหลายอาชีพ ได้มาจัดดำเนินการสมัชชาปฏิรูปประเทศไทยจังหวัดสมุทรสาครขึ้น เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2555 โดยการวิเคราะห์จากสถานการณ์ของจังหวัดสมุทรสาคร จึงนำกระบวนการสมัชชามาเชื่อมโยงทั้งภาคประชาชน หน่วยงานราชการ องค์กรต่างๆ เข้ามาบูรณาการ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ( ส.ส.ส.) และหน่วยงานต่างๆ มากำหนดบทบาทการทำงานให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ โดยการรวบรวมข้อมูล กลุ่ม องค์กร ภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนสุขภาวะในจังหวัดสมุทรสาคร จัดประชุมปฏิบัติการ 3 ครั้ง สร้างความเข้าใจนำกระบวนการสมัชชาสุขภาพ นำไปแก้ไขปัญหาของประชุมชนชาวจังหวัดสมุทรสาคร นำประเด็นหลัก 3 ประเด็น มาหยิบยกนำไปใช้ ได้แก่ ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาแรงงานข้ามชาติ ปัญหาคุณภาพชีวิต จัดทำโครงการขับเคลื่อน ตามยุทธศาสตร์ขบวนการองค์กรจังหวัดสมุทรสาคร นำแนวทาง “สมุทรสาครอยู่ดีมีสุข” ไปใช้ในการกำหนดบทบาทการทำงาน
สมัชชาสุขภาพจังหวัดสมุทรสาคร ได้จัดเวทีสัญจรขับเคลื่อนเพื่อจัดเป็นนโยบายสาธารณะให้แก่ทุกภาคส่วนนำไปพัฒนาในภาคประชาชนที่ยังด้อยและมีปัญหา เน้นการแก้ไขปัญหาของคนจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อให้ทั้งสามภาคส่วนสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขโดยใช้คำขวัญประจำจังหวัด เมืองประมง ดงโรงงาน ลานเกษตร เขตประวัติศาสตร์เข้ามาใช้ในการกำหนดปัญหาในภาครวมขอจังสมุทรสาคร
บทที่ 2
การจัดการความรู้กระบวนการขับเคลื่อน
สมัชชาสุขภาพจังหวัดสมุทรสาคร
สมัชชาสุขภาพจังหวัดสมุทรสาคร ได้มีการประชุมเครือข่ายสมัชชาร่วมกันจัดกระบวนการ สมัชชาสุขภาพในระดับจังหวัดขึ้น โดยใช้กิจกรรมแบบสมัชชาขึ้น โดยการแบ่งการจัดกิจกรรม การจัดเวทีสัญจรเพื่อขับเคลื่อนในการจัดกิจกรรมให้เป็นนโยบายสาธารณะ ให้แก่ทุกภาคส่วนในการนำไปพัฒนาภาคประชาชน ร่วมกับภาครัฐ และภาคเอกชน ร่วมกันนำปัญหาและแนวทางที่ได้นำไปแก้ไขปัญหาของคนจังหวัดสมุทรสาคร ให้เป็นรูปธรรม
กิจกรรมที่ 1 การประชุมคณะกรรมการ
จุดเริ่มต้นของกิจกรรมสมัชชาสุขภาพ ด้วยการการประชุมคณะกรรมการสมัชชาสุขภาพจังหวัดสมุทรสาคร แกนนำ และแต่งตั้งเป็นวิทยากรกระบวนการในการขับเคลื่อนกิจกรรม นำเสนอวิธีการดำเนินการจัดกิจกรรมประชุมแกนนำกระบวนการ วิธีการที่ใช้ คือ การจัดประชุมกลุ่มย่อยแกนนำในการกิจกรรม รวบรวมข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และข้อมูล โดยการเชิญแกนนำ 28 คน ได้แก่ นักประสานงาน จำนวน 7 คน นักสื่อสารสาธารณะ จำนวน 1 คน นักวิชาการ จำนวน 12 คน นักยุทธศาสตร์ จำนวน 4 คน นักบริการและจัดการ จำนวน 6 คน กระบวนการที่ได้มา ดังนี้
1. เพื่อชี้แจงคุณสมบัติของคณะทำงานกระบวนการ
2.ให้คณะทำงานชักชวน ทาบทามผู้ที่เหมาะสมหรือพิจารณาสังเกตจากผู้ร่วมเวทีและสังเกตจากผู้ร่วมเวที และสืบประวัติ
3.ให้ความรู้เกี่ยวข้องในเรื่องการจัดสมัชชา ให้กับเป้าหมายในการดำเนินงานกระบวนการในการทำงานร่วมกัน
4.การพัฒนาศักยภาพคณะทำงานให้ได้รับรู้ความพร้อมในการดำเนินงานกิจกรรมของสมัชชาสุขภาพจังหวัดสมุทรสาครในการขับเคลื่อนกิจกรรม
การเรียนรู้จากกระบวนการ
จุดเด่น
1.กิจกรรมการคัดเลือกแกนนำจากผู้นำกลุ่มต่างๆ เลือกและกลั่นกรองจากคนมีมีจิตอาสาอย่างแท้จริงมีความรู้ความเข้าใจเป้าหมายการทำงาน ทำให้มีศักยภาพในการดำเนินกระบวนการสมัชชา
2.มีจำนวนแกนนำมีไม่มาก จะทำให้คล่องตัวในการทำงาน
3.มีแกนนำมาจากหน่วยงานราชการต่างๆ นำงานวิชาการเข้ามาประยุกต์ใช้ในการทำงาน
4.มีแกนนำมาจากหลายภาคส่วน จากภาคประชาสังคม หน่วยงานราชการและภาควิชาการ ทำให้สามารถประสาน เชื่อมร้อยคนในภาคประชาชน องค์กรมาร่วมกิจกรรมได้
จุดด้อย
1.แกนนำส่วนมากมีอาชีพหลัก ทำให้ไม่มีเวลาที่จะร่วมงานได้ ทุกครั้งโดยเฉพาะภาคราชการ ซึ่งมีหน้าที่ประจำ ต้องใช้เวลาในวันหยุดหรือนอกเวลาทำให้การขับเคลื่อนได้ไม่เต็มที่
2.การถอยหายไปของแกนนำบางคน เนื่องจากบางครั้งบางเจตนาก็จะไม่มาร่วม รวมทั้ง
การปรับรูปแบบขั้นตอนคล้ายระบบราชการ ซึ่งมีกฏเกณฑ์มากหลายคนไม่เห็นด้วย การพัฒนาศักยภาพแกนนำ ทำให้ผู้ที่มีความรู้น้อยถอยหนีไม่กล้าแสดงออก
กิจกรรม 2 กลไกพหุภาคี
กลไกพหุภาคี คือ กรรมการเครือข่าย องค์กรภาคประชาชน และผู้ว่าราชการจังหวัด ได้แต่งตั้ง "คณะทำงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ สมุทรสาครอยู่ดีมีสุข ประกอบด้วยหน่วยงานราชการจำนวน 14 หน่วยงาน ภาควิชาการจำนวน 3 คน และภาคประชาชน จำนวน 19 คน รวมทั้งสิ้น จำนวน 39 คนโดยมีประธานเครือเครือข่าย ประธานสมัชชาสุขภาพ ประชาชนชมรมวิทยุชุมชน ประธานคณะทำงาน พอช. ประธานหอการค้าและรองประธานหอการค้าเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในครั้งนี้
การออกคำสั่งแต่งตั้งจากผู้ว่าราชการจังหวัดทำให้หน่วยงานในภาคราชการสามารถร่วมขัเคลื่อนได้อย่างเต็มที่ มีข้อสังเกต หน่วยงานที่ให้ความร่วมมือส่วนมากเป็นพวกต้องการอิสระจากการทำงาน โดยไม่หวังผลตอบแทน เป็นผู้มีจิตอาสา และบางหน่วยงานก็ยังไม่ให้ความร่วมมือ เพราะคำนึงถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับตอบแทน บางทีก็ว่าเสียเวลา บางหน่อยงานไม่พอใจผู้ประสานงาน และบางคนก็ตอบรับแบบเกรงใจ ทำให้งานออกมาไม่สมบูรณ์
ในการประชุมเพื่อรับทราบเป้าหมายที่จะร่วมกระบวนการและบทบาทหน้าที่โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน มีการประชุมและเข้าร่วมประเด็นในการพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบาย โดยเฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อคุยกันถึงนโยบายที่จะเตรียมทำ “สมัชชาสุขภาพ” ซึ่งบางคนก็ไม่เข้าใจนึกว่าการทำสมัชชาเป็นการตั้งม๊อบหรืออย่างไร “ซึ่งไม่ใช่” มาดูรายละเอียดว่าสมัชชาสุขภาพคืออะไร
“สมัชชาสุขภาพ” นั้นเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนานโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วม ที่เกิดขึ้นตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 โดยให้ความหมายไว้ว่าเป็น “กระบวนการที่ให้ประชาชนและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องได้ร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเรียนรู้อย่างสมานฉันท์ เพ่อนำไปสู่การเสนอแนะนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพหรือ ความมีสุขภาพของประชาชน โดยจัดให้มีการประชุมอย่างเป็นระบบและอย่างมีส่วนร่วม”
วัตถุประสงค์ที่สำคัญของสมัชชาสุขภาพ คือ การเปิดพื้นที่สาธารณะทางสังคมอย่างกว้างขวางและหลากหลาย เพื่อให้ฝ่ายต่างๆ ในสังคม ได้มีพื้นที่ในการพบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนเรียนรุ้ร่วมกัน เพื่อค้นหาทางออกหรือการมีข้อเสนอในการปฏิบัติต่อฝ่ายต่างๆ ซึ่งเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายที่มุ่งหวังให้เกิดการผลักดันไปสู่การปฏิบัติเพื่อให้เกิดสุขภาวะรวมทั้งการนำไปสู่การพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ที่ดีงาม
อีกนัยหนึ่ง สมัชชาสุขภาพจังหวัดสมุทรสาคร รวมกลุ่มกันเพื่อเป็นกระบวนการที่เชื่อมร้อยหลายภาคส่วนในสังคมเข้ามาร่วมกันทำงานด้วยกัน เพ่อขับเคลื่อนนโยบายเพื่อสุขภาพ โดยนำยุทธศาสตร์ “สามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา” มาเป็นพื้นฐานสำคัญในการขับเคลื่อนกระบวนการและกลไกในการทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ เพื่อทำงานที่ยากให้สำเร็จด้วยการให้ความสำคัญกับทุกภาคส่วนในสังคมได้เข้ามามีส่วนร่วม ในการแก้ไขปัญหา ทำด้วยกัน คิดด้วยกัน ทำอยู่แล้วก็มาช่วยกันพัฒนาให้เกิดแนวความคิดที่จะพัฒนาองค์กรของตนเองให้มีความสุข
สมัชชาสุขภาพจังหวัดสมุทรสาคร ได้มีการกำหนดจัดทำหนังสือแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ “สมุทรสาครอยู่ดีมีสุข” เพื่อประสานงาน บูรณาการเชื่อมโยงเครือข่าย
ภาคีการพัฒนาและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ ของภาคประชาสังคมและภาคประชาชน โดยมีเป้าหมายสำคัญจะนำพาหมู่บ้าน ชุมชน และสังคม โดยการประสานกับหน่วยงานภาครัฐที่อยู่เหนือไปเช่นออกคำสั่งจากจังหวัดสมุทรสาคร ในการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะอย่างจริงจัง
ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ( ฉบับที่
5 ) พ.ศ. 2545 มาตราที่ 3
การบริหารราชการตามพระราชบัญญัตินี้ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภาคกิจของรัฐ ความมีประสิทธิภาพ ความคุ้มค่าในเชิงภารกิจแห่งรัฐ การลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน การลดภารกิจและยุบ/เลิกหน่วยงานที่ไม่จำเป็น การกระจายภารกิจและทรัพยากรให้แก่ท้องถิ่น การกระจายการตัดสินใจ การอำนวยความสะดวก และการตอบสนองความต้องการของประชาชน ทั้งนี้โดยมีผู้รับผิดชอบต่อผลของงาน การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี : หลักธรรมาภิบาล
พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
( ฉบับที่ 7 ) พ.ศ. 2550 มาตรา 53
ในจังหวัดจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด
ให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
ในระดับชาติและความต้องการของประชาชนในท้องถิ่น ในจังหวัด
เมื่อประกาศใช้แผนพัฒนาจังหวัดแล้ว
การจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและการดำเนินกิจการของส่วนราชการและหน่วยงานอื่นของรัฐทั้งปวง ที่กระทำในเขตพื้นที่จังหวัด ต้องสอดคล้องกับแผนพัฒนาจังหวัด
คณะกรรมการเครือข่ายองค์กรภาคประชาชนจังหวัดสมุทรสาคร ได้แต่งตั้งคณะทำงานสนับสนุนเสริมสุขภาพจังหวัดสมุทรสาคร มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจ การจัดเวทีเพื่อค้นหาปัญหาต่างๆ ของคนสมุทรสาคร การบูรณาการเป็นกลไกทำงานร่วมกันของภาคีเครือจ่ายและขอรับการสนับสนุนจากการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพ (สปสช.) ในอันที่นำสุขภาวะของคนสมุทรสาคร ให้เกิดการตระหนักรู้ถึงคุณค่าและสำนึกถึงความจำเป็นที่จะร่วมกันคิดร่วมกันทำ และแก้ไขปัญหาของจังหวัดสมุทรสาครต่อไป
หลักการสำคัญที่เป็นพื้นฐานของสมัชชาสุขภาพเพื่อให้เป็นเครื่องมือในการพัฒนานโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วมแล้ว หลักการสำคัญ 3 ประการ คือ
1.สมัชชาสุขภาพเป็นกระบวนการในการพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วม ที่เน้นการมีส่วนร่วมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในสังคม ในการมีส่วนร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ต่างๆ ร่วมกันถกแถลง ปรึกษาหารือ เพื่อกำหนดทิศทางแนวนโยบาย ร่วมดำเนินการ ร่วมติดตาม ร่วมปรับปรุงแก้ไข และร่วมพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนทุกฝ่ายในสังคมรู้สึกว่าเป็นเจ้าของนโยบายสาธารณะนั้นร่วมกัน
นโยบายสาธารณะ หมายถึง ทิศทางหรือแนวทางที่สังคมโดยรวมเห็นว่าหรือเชื่อว่าควรดำเนินการไปในทิศทางนั้น
นโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพ หมายถึง นโยบายสาธารณะที่แสดงความห่วงใยอย่างชัดเจนในเรื่องสุขภาพ พร้อมที่จะรับผิดชอบต่อผลกระทบทางสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบานนั้น ขณะเดียวกันก็เป็นนโยบายที่มุ่งสร้างเสริมสิ่งแวดล้อมทั้งทางสังคมและกายภาพที่เอื้อต่อการมีชีวิตที่มีสุขภาพดี และมุ่งให้ประชาชนมีทางเลือก และสามารถเข้าถึงทางเลือกที่ก่อให้เกิดสุขภาพดีได้
2. สมัชชาสุขภาพเป็นกระบวนการของประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม
ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม หมายถึง การมีส่วนร่วมในทางการเมือง การปกครอง ตลอดจนการกำหนดวิถีชีวิตที่สอดคล้องกับการเมืองการปกครองแบบประชาธิปไตย ที่มีเงื่อนไขสำคัญ 4 ประการ คือ
1) ทุกคนสามารถยกประเด็นปัญหาหนึ่งขึ้นมา เพื่อกำหนดเป็นวาระของการประชุม สามารถเสนอทางเลือกและมีส่วนร่วมในการเลือกหรือตัดสินใจสุดท้ายได้
2) เป็นการประชุมที่ทุกคนสามารถพูดคุยกันได้อย่างทั่วถึง
3) มีการปรึกษาหารือหรืออภิปรายประเด็นปัญหาที่หยิบยกมาพิจารณากันอย่างกว้างขวาง ทุกคนต้องการมีส่วนร่วมในการอภิปรายและสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่
4) มีแนวโน้มที่พยายามจะให้เกิดความเห็นพ้องร่วมกันในประเด็นปัญหาที่พิจารณา
3. สมัชชาสุขภาพเป็นกระบวนการทำงานด้วยยุทธศาสตร์สามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา ซึ่งใช้
ในการขับเคลื่อนเพื่อแก้ปัญหาที่ยากและซับซ้อน โดยพึ่งพาพลัง 3 ส่วน ที่เชื่อมโยงกัน คือ พลังทางปัญญา พลังทางสังคม และพลังแห่งอำนาจรัฐหรืออำนาจทางการเมือง
คณะกรรมการเครือข่าองค์กรภาคประชาชนจังหวัดสมุทรสาคร ได้แต่งตั้งคระทำงานสนับสนุนเสริมสร้างสุขภาพจังหวัดสมุทรสาครขึ้น วัตถุประสงค์คือเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ การจัดเวทีค้นหาสุขภาวะของคนสมุทรสาคร การบูรณาการเป็นกลไกการทำงานร่วมกันของภาคีเครือข่ายและขอรับการสนับสนุนเพื่อให้เกิดการประสานงาน การบูรณาการ การเชื่อมโยงเครือข่ายภาคีการพัฒนา และการขับเคลื่อนให้เกิดเป็นรูปธรรมสู่สังคม และประชาชนอย่างแท้จริง จึงแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ “สมุทรสาครอยู่ดีมีสุข” ตามภาระกิจของจังหวัดสมุทรสาคร
กิจกรรมที่ 3 ข้อมูลภาค เครือข่ายและการวิเคราะห์
มีการจัดทำข้อมูลเครือข่ายเพื่อเป็นข้อมูลในการประสานงาน ในการขับเคลื่อนและการพัฒนา นโยบายสาธารณะ ซึ่งอยู่ในระหว่างการจัดทำ โดยคณะทำงานประสานกับหน่วยงานราชการ เช่น สำนักงานทรัพยกรและสิ่งแวดล้อม สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อสม. และองค์กรภาคเอกชน นำไปสู่การใช้จริงในทุกภาคส่วน
หลักการดำเนินการจัดสมัชชาสุขภาพ
การจัดสมัชชาสุขภาพ ให้มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ตามมาตรา 40 มีหลักการดำเนินการต่อไปนี้
(1) หลักการมีส่วนร่วม ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใน
สังคม ในระดับที่เหมาะสม ( ในมิติของเนื้อหา กระบวนการ และการจัดการ ) อย่างมีศักดิ์ศร ตามยุทธศาสตร์ สามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา ได้แก่ ฝ่ายการเคลื่อนไหวสังคม (Social movement ) ภาคประสังคม ภาคประชาชน ชุมชน และสังคม ฝ่ายสร้างองค์ความรู้ ภาควิชาการ และวิชาชีพ ฝ่ายการเมือง และราชการ ภาคการเมือง ภาคราชการทั้งส่วนกลางและท้องถิ่น
(2) หลักยืดหยุ่น เปิดกว้างและหลายหลาย ให้ความสำคัญกับกระบวนการ ขั้นตอน
วิธีการต่างๆ ที่ยืดหยุ่นได้ตามความเหมาะสม และเปิดกว้างให้กับทุกพื้นภาคส่วนเข้าถึงสมัชชาสุขภาพ ตลอดจนรูปแบบสมัชชาสุขภาพเฉพาะพื้นที่และสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็น ที่หลากหลายตามสภาพบริบทของแต่ละพื้นที่แต่ละประเด็น หรือตามพลวัตของสังคม
(3) หลักเรียนรู้แลกเปลี่ยนอย่างบูรณาการ ให้ความสำคัญกับการใช้สมัชชาสุขภาพ
เป็นเครื่องมือในการสร้าง “กระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน” ของคนในสังคมโดยการร่วมกันคิดร่วมกันปฏิบัติ และเรียนรู้จากการปฏิบัติร่วมกัน ( Interactive Learning through action ) จนทุกฝ่ายร่วมกันเป็นเจ้าของหรือเป็นเจ้าภาพแบบพหุพาคี
(4) หลักดำเนินงานอย่างเป็นระบบ ให้ความสำคัญกับการทำงานบนฐานข้อมูล องค์
ความรู้ และภูมิปัญญา ผ่านกระบวนการนโยบายสาธารณะที่มีความชัดชัดเจนเป็นไปได้ สอดคล้องกับสถานการณ์หรือสภาพปัญหาของแต่ละพื้นที่หรือแต่ละประเด็น อย่างเป็นพลวัต
สมัชชาสุขภาพที่พึงประสงค์
มีคุณลักษณะที่สำคัญ 6 ประการ คือ
(1) กลไกการจัดเป็นกลไกพหุภาคี สมัชชาสุขภาพ เป็นเครื่องมือในการพัฒนา
นโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วม จึงจำเป็นต้องมีกลไกที่ทำหน้าที่ออกแบบ วางแผนและการดำเนินงานที่มีความรู้และเข้าใจในกระบวนการนโยบายสาธารณะ ฉะนั้นองค์ประกอบของกลไกที่ทำหน้าที่ดังกล่าว จึงมีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมากลไกการจัดสมัชชาสุขภาพที่มีประสิทธิภาพสูงสุดจะมีองค์ประกอบครบ 3 ภาคส่วน ทั้งภาควิชาชีพและวิชาการ ภาคการเมืองและราชการ และภาคประชาสังคมและประชาชน มาทำงานร่วมกันแบบภาคีหุ้นส่วน ซึ่งอาจจะออกแบบมาในรูปของคณะทำงาน คณะกรรมการหรือมีการรวมตัวกันเป็นเครือข่ายคนทำงานแบบไม่เป็นทางการก็ได้
(2) มีการจัดกระบวนการอย่างเป็นระบบ การจัดสมัชชาสุขภาพเพื่อนำไปสู่การ
พัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพคงไม่ใช่เพียงการจัดเวทีวิชาการหรือเวทีสาธารณะทั่วๆ ไป แต่เป็นกระบวนการที่มีเป้าหมายเพื่อหาฉันทามติร่วมกันของผู้เข้ามาร่วมเวทีในการกำหนดประเด็นเชิงนโยบาย กำหนดทางเลือกการตัดสินใจทางนโยบาย การนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ รวมถึงการติดตามประเมิน ฉะนั้น จึงจำเป็นต้องมีการจัดการอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ การได้มาซึ่งประเด็นเชิงนโยบาย การทำงานภาควิชาการ การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้าร่วมเวที ตลอดจนวิธีการประชุม
(3) ใช้ฐานความรู้ผสมผสานเข้ากับฐานด้านจิตใจ สมัชชาสุขภาพเป็นกระบวนการที่
ให้ประชาชนและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องได้ร่วมแปลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเรียนรู้อย่างสมานฉันท์ ซึ่งหมายถึงการใช้ข้อมูล วิชาการและความรู้อาจเรียกว่า “ปัญญา” เป็นฐานในการพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ไม่ได้ใช้อารมณ์ค
มาเยี่ยมให้กำลังใจครับ
ขอบคุณค่ะ