มีโอกาสได้เข้ารับอบรมเรื่องการจัดการเรียนรู้โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นฐาน Creativity Based Learning
วิทยากรคือท่านอาจารย์วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์ จึงนำประสบการณ์มาแบ่งปันค่ะ
1. ทำไมต้องสร้างการเรียนรู้การคิดสร้างสรรค์
โลกเราเปลี่ยนไป ข้อมูลที่เยอะมาก ความรู้ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
เทคโนโลยีที่ทำให้ดูเหมือนว่าเวลาเร็วมากขึ้น ระยะทางสั้นลง
ความรู้อย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตในปัจจุบัน เราต้องการทักษะต่างๆ
2. เข้าสู่ยุคที่คนต้องมีทักษะ
1. ทักษะการคิด 2. ทักษะการสื่อสาร 3. ทักษะการเรียนรู้ 4. ทักษะการทำงานเป็นทีม
3. บทบาทของครูต้องเปลี่ยนไป
"การใช้คำถามกระตุ้นนักเรียนให้ตามหาคำตอบด้วยตนเอง"
Credit : เรื่องเล่าจากอ.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์
บทบาทของครูในห้องเรียน
4. กิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้การคิดสร้างสรรค์
กิจกรรมที่ 1 หาความเหมือนในความต่าง
เราสามารถกำหนดคำต่างๆได้มากมาย เพื่อฝึกให้เด็กๆมองสิ่งต่างๆในรูปแบบใหม่ หลุดออกจากหลักตรรกะบ้าง คิดแบบหกคะเมนตีกังกาบ้างค่ะ
กิจกรรมที่ 2 มาลองดูกิจกรรมของ **Jack Foster บ้าง
หัดมองความสัมพันธ์ระหว่างตัวหนังสือกับตัวเลข มองหา ลอกเลียนแบบและพัฒนา ผสมผสานและ
สร้างแรงจูงใจในการมองหาไอเดียต่างๆ
กิจกรรมที่ 3 สร้างคำที่มีความหมาย
สร้างความสัมพันธ์ของคำ สิ่งของ ปรับปรุง สร้างสิ่งใหม่ ความคิดสร้างสรรค์ ล้วนเกิดจากการต่อยอด พัฒนา มองมุมใหม่ ของข้อมูลเดิม ผนวก สังเคราะห์ เชื่อมโยง ดังคำของเจ. โบว์โนว์สกี (จากหนังสือ **Jack Foster)
"ไม่ว่าเขาจะเป็นศิลปินหรือนักวิทยาศาสตร์ เมื่อเขาพบการรวมตัวกันแบบใหม่ ท่ามกลางธรรมชาติอันหลากหลาย เขาทำเช่นนนั้นได้ด้วยการมองหาความเหมือนของสิ่งต่างๆที่ไม่เคยมีใครคิดว่าคล้ายกันมาก่อน..ความคิดสร้างสรรค์คือการมองหาความเหมือนที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน"
กิจกรรมที่ 4 การหาความสัมพันธ์
ในห้องเรียนของ Tina Seeling (หนังสือน่าจะรู้อย่างนี้ตั้งแต่ตอนอายุ 20) ในวิชาความคิดสร้างสรรค์
ได้นำเสนอกิจกรรมที่ฝึกทักษะการคิดสร้างสรรค์คือ การเติมคำในช่องว่างให้มีความสัมพันธ์และมากที่สุด
กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยฝึกการคิด การสังเกต การแก้ปัญหา การเชื่อมโยง ลองนำไปใช้ในห้องเรียนดูนะค่ะ สำหรับกิจกรรมในการอบรมยังไม่หมดเท่านี้นะค่ะ ยังมีอีกมากมาย จะทยอยนำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ค่ะ
**Jack Foster จากหนังสือ กระตุ้นสมองให้ผลิตไอเดีย
มีรูปภาพประกอบด้วยทำให้น่าสนใจมากขึ้นคั้บอ่านได้ทุกวัย