ในเดือนนี้ย้อนไป...เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2537 เป็นวันจากไปของพ่อผมหลังจากแม่ได้ล่วงลับไปเมื่อปี 2526...ซึ่งรวมอายุพ่อผมได้ 71 ปี พอดี คือว่า
ในบั้นปลายของชีวิตท่านคุณพ่อผมได้บวชเป็นพระสงฆ์แล้วประมาณ 5 ปีได้ก่อนจากไป...คงมีเหตุผลเพื่ออโหสิกรรมให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายและอยู่ปฏิบัติพระอาจารย์ของท่านในบั้นปลายชีวิต...พอพระอาจารย์ของท่านมรณะภาพลง หลวงพ่อเลยเป็นสมภารแทน ที่วัดสว่างอารมณ์ ต. รามราช อ. ท่าอุเทน จ. นครพนม
การจัดงานฌาปนกิจศพหลวงพ่อ...จำเป็นต้องรอผมคนเดียวเท่านั้นขณะศึกษา ป. เอกอยู่...โดยเก็บศพไว้ที่ศาลาวัดนั้นเอง...และวันที่ 14 มกราคม 2538 ผมจบ ป. เอก แล้ว..ได้เดินทางกลับถึงประเทศไทย ได้เตรียมการวางแผนจัดงานศพทันที...
เริ่มด้วยผมสั่งการลงไปให้มวลญาติปฏิบัติ...แล้วสัปดาห์ต่อมาผมกลับโดยรถทัวร์ คือไปลงที่เมืองขอนแก่น พบเพื่อนที่นัดหมายไว้แล้วเขาพาผมไปจ้างคณะหมอลำเรื่อง ชื่อ คณะดอกคูณเสียงแคน ในราคา 40,000 กว่าบาทต่อการแสดงหนึ่งคืน...
เมื่อทำสัญญาจ้างเสร็จผมพักที่นั้นกับเพื่อน...พอหายเหนื่อย...แล้วต่อรถจากขอนแก่นมุ่งสู่เมืองนครพนม...ผมประชุมชาวบ้าน...กำหนดลักษณะงาน...ทำตามแผนที่วางเอาไว้...
ด้วยความรัก...คิดถึงบุญคุณที่หลวงพ่อมีให้ผม...ชาวบ้านมาจัดทำเมรุชั่วคราวที่กลางวัด กำหนดเผาศพจริงหลังเที่ยงคืนของวันที่ 4 มีนาคม 2538และในช่วงเช้าถึงเย็นของวันนั้นก็มีงานบุญ
เช่นทำบุญเลี้ยงพระภิกษุสามเณรทั้งอำเภอ โดยมีท่านเจ้าคณะจังหวัดนครพนมเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ตลอด...พอช่วงบ่ายจัดงานพิธีฌาปนกิจศพซึ่งยังไม่ได้เผาจริง โดยประธานฝ่ายฆราวาสคือท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมในขณะนั้น...
พอยามค่ำคืนก็มีหมอลำคณะที่ผมไปจ้างเองดังกล่าวมาแสดง...ก่อนเปิดการแสดงชาวบ้านเชิญผมขึ้นเวทีหมอลำเพื่อกล่าวขอบคุณทุก ๆท่านที่มาร่วมงานครั้งนี้...และทุกอย่างเป็นไปตามที่ผมวางแผนเอาไว้ครับ...
จึงอยากบันทึกย้อนหลังเพื่อกล่าวขอบพระคุณและขอบคุณถึงทุกท่านทุกคนที่มีส่วนร่วมให้งานนั้นสำเร็จลงได้ด้วยดี ครับ.ไม่มีความเห็น