สืบเนื่องจากบันทึกแรกที่เขียนค้างคาไว้ ด้วยถูกจำกัดเวลาในภาระหน้าที่ที่ต้องรับ
ผิดชอบ ขออนุญาตต่อในตอนที่ 2 ครับ โดยเริ่มจากการรำบวงสรวงศาลปะกำ โดย
นางรำจากโรงเรียนท่าตูมวิทยา เป็นการเริ่มต้นพิธีในช่วงบ่ายครับ
<
และเมื่อเสร็จจากการรำบวงสรวงแล้ว เป็นการกระทำพิธีเปิดโดยท่านนายอำเภอ
ท่าตูม เป็นประธาน และมีมวลชนในอำเภอท่าตูมและใกล้เคียงเข้าร่วมในพิธีอย่าง
คับคั่ง
และนี่คือช้างส่วนหนึ่งที่รอเข้าร่วมพิธีเปิด
หลังจบการอ่านรายงานของท่านนายกองค์การบริหารส่วนตำบลพะโค ฝนห่าใหญ่ก็
เทลงมาเหมือนรับรู้ถึงการกระทำพิธีในวันนี้ เล่นเอาทั้งคนทั้งช้างหาที่หลบกัน
จ้าละหวั่น แต่ดีที่ท่านเทวดาประทานมาเฉพาะฝนกับลมนิดหน่อย ราวๆ ครึ่งชั่วโมง
ก็หยุดสนิท ทำให้การกระทำพิธีสามารถดำเนินต่อไปได้
และเมื่อการจัดพิธีเสร็จสิ้น ณ ศูนย์คชศึกษานี้แล้ว ขบวนนาคช้างทั้งหมด รวมถึง
ขาแด๊นซ์ทั้งหลายก็จะมุ่งหน้าไปยังดอนบวช ซึ่งเป็นดอนกลางแม่น้ำมูล เพื่อกระทำ
พิธีขอขมาต่อบรรพบุรุษ ซึ่งระยะทางจากศูนย์คชศึกษาไปยังดอนบวชประมาณ 2
กิโลเมตร ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายที่อาคันตุกะต่างถิ่นทั้งสองคนไม่มีโอกาสได้ไปสัมผัส
บรรยากาศ ณ ที่ตรงนั้น เนื่อจากต้องเดินทางกลับเข้าตัวเมืองสุรินทร์เพื่อจัดการเรื่อง
ที่พัก หวังว่าโอกาสหน้าคงมีโอกาสได้มาชื่นชมประเพณีที่ยิ่งใหญ่ของเมืองช้างอีกซัก
ครา ท้ายนี้ขอฝากสิ่งมหัศจรรย์อีกหนึ่งอย่างที่ได้พบเห็นคือ บั้งไฟพญาช้าง ซึ่งน่าจะ
เป็นอเมซิ่งไทยแลนด์มีเพียงที่เดียว ณ สุรินทร์ถิ่นช้างใหญ่เท่านั้นครับ
ด้วยจิตคารวะต่ออารยธรรมชุมชนที่งดงามครับ
มิตรภาพ 639
27 พ.ค. 56