ให้เกียรติกันเถิด เราเกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน


ผมไม่ชอบอ่านและฟังสิ่งที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า "hate speech" แต่ประเทศไทยของเรานั้นผู้คนกลับทำสิ่งนี้กันเป็นเรื่องปกติ ที่ Wikipedia เขียนไว้ดีเกี่ยวกับ hate speech ในประเทศไทยว่า

In Thailand hate speech (การสื่อสารซึ่งมีเจตนาทางเกลียดชัง or การพูดซึ่งมีเจตนาทางเกลียดชังให้เกิดการเกลียดชังอีกฝ่ายหนึ่ง), transliterated as เฮทสปีช, is prohibited in civil and criminal statutes, but state machinery and society as a whole generally do little to prevent it or prosecute parties promoting or engaging in hate speech. While the Thai State offers recourse in the courts to obtain satisfaction after the fact, Thai authorities, NGOs and others generally offer little or no protection in preventing hate speech. The country's strict defamation laws are more designed to protect reputations and the institution of the monarchy and not to protect individuals or groups in freely exercising legitimate rights.

คนที่มีการศึกษาของไทยมักจะไม่ค่อยสื่อสารด้วย hate speech ในเรื่องที่เห็นได้ชัดว่าฟังแล้ว "ไร้การศึกษา" อาทิเช่น เรื่องจุดอ่อนปมด้อยระดับบุคคล (สูง ต่ำ ดำ ขาว น่าเกลียด ความพิการ ฯลฯ) หรือปมด้อยระดับท้องถิ่นหรือเชื้อพันธุ์ (ตัวอย่างเช่นคำว่า "เจ๊ก" "แขก" "ลาว" เป็นต้น) แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็คือเมื่อมีประเด็นทางการเมืองแล้ว คนไทยไม่ว่าจะมีการศึกษาแค่ไหนก็ตามกลับแสดง hate speech ได้อย่างรุนแรงอย่างไม่น่าเชื่อ

สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีประโยชน์กับประเทศไทยเลย มีแต่สร้างความแตกแยกแตกต่างกันมากขึ้นไปอีก เพราะ hate speech นั้นได้ฟังได้อ่านแล้วไม่ได้ทำให้ผู้รับสารสุขสงบและพร้อมพิจารณาสารที่สื่อเพื่อให้เข้าใจ แต่กระตุ้น "ความสะใจ" ซึ่งแม้จะเป็นอารมณ์สนุกถ้าผู้อ่านอยู่ในฝั่งฟากเดียวกันกับความคิดนั้นแต่ก็เป็นเชื้อของความเกลียดชังที่เป็นอารมณ์ด้านลบให้รุนแรงขึ้น ส่วนผู้อ่านที่อยู่ในฝั่งตรงข้ามนั้นไม่ต้องพูดถึง ความชิงชังรังเกียจก็จะยิ่งทวีมากขึ้น โอกาสที่จะรับสารนั้นไม่มีแน่นอนครับ

ผมเชื่อว่าความเห็นทางการเมืองนั้นแตกต่างกันได้ แต่การให้เกียรติกันในฐานะมนุษย์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันนั้นสำคัญที่สุดครับ

โลกนี้ไม่มีคนดีหรือคนเลว สิ่งที่คิดว่าดีหรือเลวเป็นเพียงเพราะมาตราฐานที่แตกต่างกันของผู้ที่มอง (the observer) เท่านั้นเองครับ

คุณทักษิณ คุณยิ่งลักษณ์ คุณอภิสิทธิ์ คุณสนธิ คุณจำลอง และตัวละครทั้งหลายในสนามการเมืองของไทย (และของโลก) นั้น ต่างก็เหมือนกันที่เป็นมนุษย์ผู้เวียนว่ายอยู่ในวังวนของความทุกข์ทั้งสิ้น

คนเหล่านี้ไม่มีความสุขเลยนะครับ ไม่เชื่อก็ลองเอารูปของพวกเขาไม่ว่าฝั่งเหลืองหรือแดง แล้วดูไปใน "ตา" ของเขานะครับ ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจไม่ว่าจะแสดงท่าทางเป็นอย่างไรก็ตามครับ

เราทุกคนควรจะยินดีที่เราไม่ได้เป็นพวกเขา เราควรดีใจที่เราได้ยิ้มอย่างมีความสุขในแต่ละวัน ได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์ในตอนเช้าโดยไม่ต้องกังวลว่าวันนี้จะถูกรังเกียจอย่างไรจากคนที่ไม่ชอบหรือจะต้องทำตัวอย่างไรให้คนที่ชอบชอบมากยิ่งขึ้น

อย่ามีชีวิตอยู่โดยการสนับสนุนพวกเขาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยพยายามทำให้มีคนรักคนที่เราชอบมากยิ่งขึ้นหรือทำให้มีคนเกลียดคนที่เราไม่ชอบมากยิ่งขึ้นเลยครับ

ศาสนาพุทธสอนเรื่องความเมตตา ศาสนาคริสต์ก็สอนเรื่องความรักอันบริสุทธิ์ซึ่งไม่ได้ต่างจากความเมตตาเลย

การเมตตาคนที่เราชอบนั้นไม่ยาก การเมตตาคนที่เรารู้สึกเฉยๆ นั้นยากขึ้นเล็กน้อย แต่หัวใจสำคัญของการฝึกฝนเมตตาบารมีคือการที่เราสามารถเมตตาอย่างบริสุทธิ์ใจกับคนที่เราไม่ชอบ นั่นคือการตัด "โทสะ" อันเป็นกรรมใหญ่จากใจเรา หรือล้างบาป "warth", "envy", และ "pride" จากใจเรานั่นเอง

เรื่องเหล่านี้นั้นยากครับ "love your enemies" เป็นการปฎิบัติขั้นสูง เขาจึงบอกว่า "มหาบุรุษ" เท่านั้นถึงจะปฎิบัติธรรมเช่นนี้ได้

ผมเขียนบันทึกนี้ไม่ได้มีเจตนาจะสอนใคร ผมเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่เกิดแก่เจ็บตายเหมือนกับมนุษย์ทุกคน ได้มีชีวิตผ่านทุกข์ผ่านสุขมาพอประมาณที่ได้รู้ว่าความสุขที่แท้จริงคือการที่ได้ "รัก" ไม่ใช่ได้ "เกลียด"

"รัก" คือที่มาของความสุข ทั้งรักตัวเอง รักครอบครัว รักเพื่อนบ้าน รักคนทุกคนทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก รักคนที่ชอบเรา และที่สำคัญที่สุดคือรักคนที่เราไม่ชอบและไม่ชอบเรา

ดังนั้นไม่ว่าคุณจะชอบบันทึกนี้หรือไม่ก็ตาม โปรดรู้เถิดนะครับว่า "ผมรักคุณ"

แล้ว "คุณรักผมหรือเปล่า?"

หมายเลขบันทึก: 537144เขียนเมื่อ 26 พฤษภาคม 2013 11:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 พฤษภาคม 2013 11:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (23)

อ่านบันทึกนี้แล้ว "รักมาก ๆ ค่ะ" 

คลิกให้ดอกไม้ร้อยครั้งก็ยังน้อยไป

ขอบพระคุณอย่างที่สุดค่ะ

  • อยากให้ดอกไม้หลายๆดอกครับท่านอาจารย์ ไม่ใช่เพราะเป้าหมายของข้อความ แต่เพราะมีความรู้สึกว่า ผู้เขียนกำลังผ่อนคลาย ซึ่งทำให้ผู้อ่านอย่างผมคลายไปด้วย 
  • ผมเคยอ่านบทความอะไรสักอย่างหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน อ่านหลายรอบ กี่รอบก็รู้สึกสงบไปกับบทความนั้น บทความนั้นหายไปแล้วเพราะความไม่ยั่งยืนของพื้นที่เก็บ
  • เนื้อหานี้น่าจะคือ เนื้อหาผ่านชีวิต โลกและธรรมชาติ
  • ขอบคุณครับผม

ความเห็นในบันทึกนี้เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมได้สมัครเป็นสมาชิก G2K ครับอาจารย์

ผมเขียนบันทึกนี้ไม่ได้มีเจตนาจะสอนใคร ผมเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่เกิดแก่เจ็บตายเหมือนกับมนุษย์ทุกคน ได้มีชีวิตผ่านทุกข์ผ่านสุขมาพอประมาณที่ได้รู้ว่าความสุขที่แท้จริงคือการที่ได้ "รัก" ไม่ใช่ได้ "เกลียด"

ขอบคุณมากมายค่ะ

ด้วยรักและเคารพ ค่ะ อาจารย์:)

รักคือบ่อเกิดทั้งความสุขและความทุกข์ในยณะเดียวกัน ณ ขณะจิต หากเรารู้ว่า รักนั้นคืออะไร และรักให้เป็น รักนั้นก็จะเกิดประโยชน์กับผู้ให้รัก และผู้ถูกรัก รวมทั้งยังแผ่ไปยังคนที่เรารักด้วย 

ชอบบทความนี้ เหมาะกับบรรยากาศของบ้านเมืองเราในขณะนี้จริง ๆ

ผมรักอาจารย์ครับ

และหวังว่าอาจารย์ก็คงจะรักผมเช่นกันนะครับ   555

ชื่นชมค่ะ ท่านอาจารย์ ธวัชชัย ดร. ธวัชชัย ...  ท่านได้สิทธิ์เป็นสุภาพบุรุษนักรักเดี๋ยวนี้เลยค่ะ  ฮิ ฮิ

ด้วยความเคารพค่ะ  

ขอบคุณอาจารย์ัที่มีความรักให้ทุกคนแม้ว่าคนนั้นจะ มองไม่เห็นว่าเรารักเขา....ในบ้านG2K มีความรักความอบอุ่นให้เสมอตลอดเวลาค่ะ

อาจารย์เขียนเรื่องหนักๆ ให้อ่านได้ไม่สะดุด ไม่โจมดีใครดีจังคะ
เร็วๆ นี้ ประทับใจความเห็นคุณพิชัย เรื่องความแตกต่างระหว่าง gotoknow กับ FB
แล้วโยงกับสิ่งที่ได้ยินจากรายการ 'เป็น-อยู่-คือ'

คนใช้ FB ที่ต้องการ 'Like' เพราะมันคือ ตัวกลางของ 'การยอมรับ' 
บางคนทำทุกวิถีทาง เช่น หาภาพโดนๆ ข้อความโดนๆ เร้าอารมณ์ เพื่อให้ได้มาซึ่ง 'Likes'
ที่น่าคิดคือ การได้รับความยอมรับในตัวเรา กับสิ่งที่เรา post  ไปคือสิ่งเดียวกันเสมอไปหรือเปล่า?

ขอบคุณคะ

ถูกต้องจ้ะ  " รักคือที่มาของความสุข " ทุกคนต้องการความสุข ทุกคนก็ต้องให้ความรักซึ่งกันและกัน ไม่ยากเลยนะจ๊ะ  ขอบคุณจ้ะอาจารย์

+ สวัสดีค่ะอาจารย์...

+ อ่านบันทึกนี้แล้วนึกถึงเพลงพี่จุ้ยค่ะ..." เต็มใจให้"

+ " ฉันรู้ควรรักเธออย่างไร   จึงยอมเข้าใจทุกอย่าง    

     ไม่ช้ำไม่เสียใจ  ไม่เคยบาดหมาง 

     ทุกอย่างเต็มใจให้เธอ "...

+ ด้วยรักและคิดถึงค่ะ..^___^


 

สวัสดีค่ะดร.ธวัชชัย...ก็มีให้เห็นทั้ง "hate speech"  และยิ่งกว่า "hate speech" ในGotoknow.org นะคะ ...แรกๆเคยเข้าไปอ่านเหมือนกันแต่ตอนหลังเห็นแล้วก็ผ่านตาไปเพราะเป็นบันทึกที่ไม่ได้สร้างสรรค์ ใช้ภาษาที่หยาบคายมากๆ ควรเป็นบันทึกส่วนตัวหรือให้ญาติพี่น้องอ่านมากกว่าการเผยแพร่ให้บุคคลทั่วไปอ่าน  ที่สำคัญไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของ Gotoknow.org ที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า

 

  •  ส่งเสริม "การแลกเปลี่ยนเรียนรู้" ซึ่งเป็นกิจกรรมด้านการจัดการความรู้ ด้วยการใช้งานเว็บล็อก (weblog) สู่การเสริมสร้างให้ "คนไทยมีสุขภาวะที่ยั่งยืน" หมายถึง คนไทยมีความสุขสี่ด้าน ได้แก่ กาย จิต สังคม และปัญญา
  • จัดเตรียมพื้นที่เสมือนและเครื่องมือสำหรับ "ชุมชนนักปฏิบัติ (Community of practice)" เพื่อสนับสนุนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกลุ่มคนทำงานในสาขาอาชีพต่างๆ
  • สนับสนุนการเขียนเรื่องเล่าเร้าพลัง (storytelling) จากประสบการณ์และการเรียนรู้ของผู้เขียนเอง เพื่อเป็นประโยชน์ให้แก่ผู้อ่านได้นำไปประยุกต์ใช้หรือจุดประกายความคิดเพื่อให้ต่อยอดความรู้ในกิจกรรมการทำงานและกิจกรรมอื่นๆ ของผู้อ่านต่อไป
  • สนับสนุนการให้เกียรติแก่เจ้าของความรู้โดยไม่สนับสนุนการละเมิดลิขสิทธิ์งานเขียน ภาพ เสียง และสื่อมัลติมีเดีย โดยทุกวิธี ไม่ว่าจะเป็นการนำบันทึก ภาพ เสียง และสื่อมัลติมีเดียใน GotoKnow ไปเขียนหรือนำเสนอที่อื่นโดยอ้างว่าเป็นของตนเอง หรือการนำบทความหรือข้อความ ภาพ เสียง และสื่อมัตติมีเดียจากที่อื่นมาเขียนใน GotoKnow โดยอ้างว่าเป็นผู้เขียนเองก็ตาม การกระทำเหล่านี้เรียกว่าเป็น "การโจรกรรมทางวรรณกรรม" (Plagiarism) 

  ดิฉันก็ยังสงสัยอยู่ว่าทำไม?ทางGotoknow.org ไม่มีการดำเนินการอย่างใด?  เมื่อวานหายอึดอัดใจมาก เมื่อท่านรองศาสตราจารย์ ดร.ชยพร  แอคะรัจน์ ออกมาบันทึกแสดงความคิดเห็นไว้ได้อย่างครบถ้วน ขอบคุณท่านอาจารย์ชยพรมากๆ ...และจะสบายตา สบายใจมากขึ้น...ถ้าต่อไปจะไม่มีบันทึกที่ไม่เหมาะสมในGotoknowนะคะ...ขอบคุณค่ะ...


เจริญพร อาจารย์...

วจีทุจริต ๔  คือ พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจอ ... hate speech ตามที่อาจารย์ว่า ซึ่งปรากฎอยู่ในสังคมไทยขณะนี้ รู้สึกว่าจะผสมผสาน วจีทุจริตทั้งหมดเอาไว้ให้เป็นหนึ่งเดียว

ต้องการพูดให้กระทบและมีผล แต่เมื่อมีสภาพป้องกัน หนา เกินไป ไม่อาจกระทบและมีผลได้ จึงต้องเพิ่มความเข้มด้วย hate speech หรือวจีทุจริต ยิ่งขึ้นๆ

เจริญพร

ด้วยความรักและเคารพค่ะอาจารย์

การดูแลชุมชนออนไลน์ต้องอาศัยความถ้อยทีถ้อยอาศัยและต้องเอาใจเขามาใส่ใจเราเป็นอย่างมากค่ะ สำหรับท่านที่เขียนเนื้อหาที่อาจนำมาสู่การเดือดร้อนของชุมชน GotoKnow นั้น ทางเราได้ดำเนินการทั้งทางตรงและทางอ้อมไปบ้างแล้วค่ะ 

GotoKnow ไม่เหมือนชุมชนอื่นตรงที่เป็นชุมชนของผู้ที่มีวัยวุฒิและคุณวุฒิกันทั้งนั้นค่ะ แนวทางในการจัดการเรื่องเหล่านี้จึงยากมากนะคะ หากท่านมีมีแนวทางการแก้ไขอยากแนะนำแก่ทีมงาน รบกวนส่งมาแจ้งได้ทางหลังไมค์ได้นะคะที่ support (@) gotoknow.org ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

"รู้รักตน"..รู้..รัก..ผู้อื่น...เมตตาต่อตน..เมตตาต่อ..ผู้อื่น..กระแสร์คลื่น..แห่งความรัก..ยายธี

ดี-เลวอยู่การตัดสินของแต่ละคนโดยใช้ประสบการณ์ส่วนตัว

แต่ความรักไม่ต้องใช้อะไรตัดสิน.. เรามาส่งมอบความรักให้กันและกันเถอะค่ะ


สวัสดีอีกครั้งค่ะท่านดร.จันทวรรณ...ถ้าท่านหมายถึงว่ากฏระเบียบต่างๆ ใช้ไม่ได้เพราะทุกคนมีทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิทั้งนั้น ...ยิ่งทำให้เศร้าใจหนักเข้าไปอีก...ขนาดมีทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิยังเป็นแบบนี้ถ้าไม่มีวัยวุฒิและคุณวุฒิจะขนาดไหน...ขอบคุณมากค่ะ

ไม่มีวัยวุฒิและคุณวุฒิก็จะไม่ลำบากใจในการจัดการค่ะอาจารย์


There are many shades of gray between black and white. While we wear white we cannot bear even a speck of black. While we are in love we don't see different colours.

I would go along with "love" but I will keep watch so that I don't put 'the bad' on top of 'the good'. If we neglect (or ignore) to keep the bad in their place (but relying on "God" to make the world good for us), aren't we just pretending and standing on "God" side while smiling warmly to the devil?

People are becoming 'silent majority' because "it didn't happen to them" "why should they care about others who suffer?" "they'll get what deserve" "she'll be right, mate" "I'm too busy for that"...

When a day comes for us to grieve, we can whine "we should have done that earlier" "we should have foreseen this" "we thought it would pass" ... the time for thinking is still but the windows for acting have been closed.

This is what I think, the basis of what I do and I wish -- a wish -- that I don't have to do this at all!


ใช่ค่ะ อยากจะเห็นการกระทำของผู้มีอำนาจทางการเมือง ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ตลอดจนงานเขียนใน GotoKnow ส่งเสริมความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนในชาติ ขจัดการแสดงออกถึงความเป็นฝักเป็นฝ่าย แทนที่จะขัดแย้งแข่งขันกัน เรามาร่วมมือกันสร้างสรรค์สังคมที่น่าอยู่ ให้เป็นที่เชิดหน้าชูตาของประเทศชาติไม่ดีกว่าหรือ  

สวัสดีครับอาจารย์ ทันทีที่ยืนหน้าประตูบ้าน G2K มองเห็นภายในบ้านในสวนปุ๊บ เท้ามันก็ก้าวปั๊บ รู้สึกตัวอีกที เข้ามาอยู่ในบ้านแล้ว เวียนชมห้องต่างๆเพลิดเพลินจนมาเจอเจ้าบ้าน เจ้าสำนัก ขอคารวะฝากตัวเป็นศิษย์ด้วยนะครับ     แต่อย่าเพ่อให้การบ้านนะครับ ขอร่ำเรียนวิชาจากอาจารย์ทั้งหลายและพวกรุ่นพี่ก่อนสักระยะ เริ่มจากเพิ่มความเห็นในบันทึกของพี่ๆ เค๊าคงไม่รำคาญนะครับ

ไม่รู้ทำไมตื่นเต้น พิมพ์ไปก็ใจสั่น สงสัยจะเกร็งอาจารย์ใหญ่ ขอตัวก่อนละครับ

 อ้อ เกือบลืมตอบ ยังไม่รักครับ แต่เคารพชื่นชม

ขอบคุณทุกท่านสำหรับความเห็นและดอกไม้ครับ นึกแล้วก็เกรงใจทุกท่านว่าผมเองมีนิสัยที่ไม่ค่อยดีอยู่อย่างหนึ่งคือไม่ค่อยตอบความเห็นที่สมาชิกกรุณาให้ไว้ในบันทึกผมสักเท่าไหร่ครับ ผมจะพยายามตอบความเห็นให้บ่อยกว่านี้ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท