เดือนมกราคม ปี 2555 ผมชวน ดร.อรอุมา และ ดร.มัณฑณา ไปดูข้าว ซึ่งได้ข่าวจากลุงเด่นว่า อยู่ในช่วงที่ใกล้จะออกรวง.... จนถึงวันนี้ การทำนาตามหลักวิชาการสไตล์ลุงเด่น ระวิโรจน์ หากเปรียบเทียบว่าแตกต่างจากการทำนาของชาวนาทั่วไปอย่างไรในขณะนี้ ผมสังเกตเห็นดังนี้ครับ
- สนใจในรายละเอียด ได้แก่
- เลือกพันธุ์ข้าวให้เหมาะสมกับเป้าหมายที่ต้องการ เช่น จะปลูกข้าวไว้กิน หรือจะปลูกข้าวไว้ขาย ที่ปลูกไว้ขายจะเน้นขายข้าวคุณภาพ หรือเน้นการขายข้าวในปริมาณมากๆ
- เลือกพันธุ์ข้าวอย่างมีหลักวิชาการ เลืกพันธุ์ข้าวอายุสั้นหรือยาว เลือกแบบเหมาะน้ำน้อยหรือแบบเหมาะน้ำมาก เป็นต้น
- การเตรียมดิน ไถดะแล้วสูบน้ำขึ้นไปหมัก พร้อมทั้งใช้จุลินทรีย์ในการย่อยสลาย ทิ้งไว้ 2 อาทิตย์ ก่อนไถแปรแล้วหว่านข้าว
- การจัดการกับเมล็ดพันธ์ทำอย่างประณีต น้ำข้าวมาแช่ในน้ำเพื่อเลือกเอาเฉพาะเมล็ดจมน้ำ แล้วหมักด้วยจุลินทร์ย์ก่อนหว่านให้ห่างประมาณ 4 เซนติเมตร
- การเก็บมุมแปลงนาทำอย่างพิถีพิถัน ทำให้การจัดการกับหญ้าวัชพืชเป็นไปอย่างละเอียดทั่วไป ..... ผมมองเป็นเหมือนการสอนให้ชาวนาฝึกสนใจในรายละเอียด เพราะปกติการไถที่มุมแปลงจะทำได้ยากยิ่ง
- เน้นการใช้ธรรมชาติ
- ใช้ปุ๋ยพืชสดตามธรรมชาติ หมายถึง ใช้ตอฟางข้าวเดิมเป็นปุ๋ย โดยไถกลบแล้วใช้จุลินทรีย์ในการย่อยสลาย
- ไม่ได้เน้นปุ๋ยที่สุด แต่สิ่งที่เน้นที่สุดคือ ปรับโครงสร้างดิน
ดร.อรอุมา ดร.มัณฑนา และลุงเด่น คุยกันว่า ข้าวไม่งามเท่าใดนักเมื่อเทียบกับ แปลงนาข้างๆ ที่ใช้ปุ๋ยเคมี แต่ก็พอใจในระดับหนึ่ง เพราะเมื่อเทียบต้นทุนแล้วจะต่ำกว่า
ในภายหลังสิ่งนี้ก็ไม่ได้ประทับใจชาวบ้านแสนสุขมากนัก เพราะเมื่อเสนอให้ทำต่อในปีถัดมา ปรากฎว่าชาวบ้านตัดสินใจถอนตัวไป