“พาณิชย์” เตรียมช่วยเหลือผู้ส่งออกสินค้าถุงพลาสติกไปตลาดอียู หลังโดนมาตรการเอดี ภาระภาษีเพิ่มขึ้นในอัตรา 5.1-14.3% วอนอียูทบทวนเอดีแต่ยังมั่นใจผู้ส่งออกไทยพร้อมแข่งขัน
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป (อียู)ได้ประกาศเรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าถุงพลาสติกจากประเทศไทยและจีน เพราะพิจารณาแล้วเห็นว่าผู้ส่งออกของทั้ง 2 ประเทศทุ่มตลาดภายในของอียูจริง จนส่งผลให้อุตสาหกรรมภายในอียูได้รับความเสียหาย โดยเรียกเก็บจากผู้ส่งออกไทย 5 ราย อัตราภาษีตั้งแต่ 5.1-14.3% และบริษัทอื่น ๆ เก็บที่ 14.3% ส่วนจีนเรียกเก็บตั้งแต่ 4.8-14.8% และบริษัทอื่น ๆ เก็บที่ 28.8%
“ผู้ส่งออกไทยที่ถูกเรียกเก็บอากรเอดียืนยันว่า ยังสามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดอียูได้เพราะจีน ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญก็ถูกเรียกเก็บอากรเอดีเหมือนกันและเป็นในอัตราที่สูงกว่ามากด้วย อย่างไรก็ตามหลังจากที่อียูใช้มาตรการนี้ครบ 1 ปีแล้วกรมก็จะช่วยเหลือผู้ส่งออก ในการร้องขอให้อียูเปิดทบทวนการใช้มาตรการ” นางนันทวัลย์ กล่าว
ผู้ส่งออกไทย 5 ราย ได้แก่ บริษัท King Pac Industrial ถูกเรียกเก็บในอัตรา 14.3% บริษัท Multibax อัตรา 5.1% บริษัท Narai Pak อัตรา 10.4% บริษัท Sahachit Watana Plastic Industry อัตรา 6.8% และบริษัท Thai Plastic Bags Industries อัตรา 5.5%
รายงานข่าวแจ้งว่าทางการอียูไต่สวนผู้ส่งออกไทยทั้ง 5 ราย และผู้ส่งออกจีน พบว่าได้ทุ่มตลาดจนทำให้อุตสาหกรรมภายในอียูเสียหายจริง โดยการนำเข้าจากทั้ง 2 ประเทศลดลงเฉลี่ย 14%
นอกจากนี้ การนำเข้าจากทั้ง 2 ประเทศที่เพิ่มขึ้น ทำให้ยอดขายของผู้ผลิตภายในอียูลดลง แม้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ทำให้การจ้างงานลดลง ผลกำไรลดลง และผลตอบแทนลดลงด้วย
ที่มา : IFD NEWSCLIP ONLINE , source : กรุงเทพธุรกิจ วันศุกร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2549