ผลจากการเป็นนักล่าอาณานิคม ทำให้อังกฤษ กลายเป็นประเทศที่มีคนหลายเชื้อชาติ และมีมากกว่า 1 ศาสนา ตามท้องถนนในลอนดอนจะเห็นคนอังกฤษที่มีเชื้อสายเอเชีย แอฟริกา ตะวันออกกลาง และที่กำลังเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ คืออินเดีย
คนอังกฤษมักจะถือว่าเชื้อสายที่แท้จริงต้องเป็นคอร์เคเชียน หรือคนผิวขาวเท่านั้น แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป พวกเขาต้องยอมรับการอพยพโยกย้ายถิ่นฐานของคนชาติอื่นที่เข้ามาอยู่ในอังกฤษ
เมื่อคนเหล่านี้สร้างครอบครัวมีลูกหลาน และกลายเป็นคนอังกฤษที่สมบูรณ์ทางกฎหมาย แต่กฎของธรรมชาติ พวกเขากลับอยู่ในสังคมอย่างมีปัญหา เพราะไม่ถูกนับญาติว่าเป็นคนอังกฤษด้วย
จีวา เพื่อนชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดีย แถมพูดสำเนียงอังกฤษน่าฟังและชัดเจน ยังมีปัญหาเรื่องการปรับตัวเข้ากับสังคม คนอังกฤษยังมองเธอว่าเป็นอินเดียอยู่ดี เธอจึงเลือกอยู่ในสถานที่และสภาพแวดล้อมที่มีแต่เพื่อนๆ เชื้อสายเดียวกัน
“ฉันเบื่อมาก เวลาบอกใครว่าเป็นคนอังกฤษ จะต้องถูกมองหัวจรดเท้า” แน่นอน เป็นใครก็ต้องมองอย่างนั้น ฉันเองก็ยังแปลกใจ สมัยที่รู้จักกันใหม่ๆ ยังคิดว่าตัวเองฟังไม่ชัด แต่เนื่องจากสังคมออสเตรเลียที่ฉันเรียนอยู่ มีคนหลากหลายเชื้อชาติ แต่ต่างจากอังกฤษตรงที่เราคุ้นชินว่าชาวออสเตรเลียมักมีหน้าตา ผิวพรรณที่แตกต่างรวมอยู่ด้วยกัน ไม่ได้หมายถึงฝรั่งผิวขาวเสมอไป เลยทำให้ฉันเข้าใจว่าทำไมสาวอังกฤษคนนี้จึงเหมือนคนอินเดีย
“ถ้าพวกเขามองอย่างเดียวก็แล้วไป แต่บางคนก็พูดว่าทำไมจึงดูเหมือนคนอินเดีย”
“แล้วเธอตอบว่าไง”
“ไม่ตอบ” จีวายังคงเชิดหน้าต่อไป “คนพวกนี้น่าจะกลับไปเรียนประวัติศาสตร์อีกรอบ แทนที่จะมาถามฉัน” เธอว่า
อันที่จริง การมาเยือนของชนชาติอื่นในอังกฤษ ไม่ใช่เรื่องแปลก ทุกวันนี้การสื่อสารและการเดินทางพัฒนาไปไกล ไม่เหมือนเมื่อก่อน ที่ต้องเดินทางด้วยเรือเท่านั้น แถมนานเป็นเดือนๆ คนเราจึงอยู่ในถิ่นฐานที่เคยเป็นของบรรพบุรุษโดยไม่มีการโยกย้าย เหมือนในปัจจุบัน
อังกฤษมีหลายประเทศที่เคยตกเป็นอาณานิคม ซึ่งเท่ากับเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปมากขึ้น ประเทศเหล่านี้ ส่วนใหญ่ยากจน ชีวิตความเป็นอยู่ที่ไม่สะดวกสบาย พวกเขาจึงเริ่มมองหาที่ใหม่โดยเฉพาะ ประเทศแม่ที่เคยดูแล จัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้ประเทศพวกเขาคืออังกฤษ ดังนั้น จุดหมายปลายทางที่จะเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นก็คือที่นี่นั่นเอง
คนอินเดียที่เข้ามาอยู่ในอังกฤษมีมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นชุมชนขนาดย่อม เหมือนกับที่อเมริกาต้องเผชิญกับจำนวนประชาชนชาวเม็กซิกันที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
จีวาเกิดที่อังกฤษ เธอเคยกลับไปอินเดียเพื่อเยี่ยมปู่-ย่า เพียง 2 ครั้ง
“ฉันไม่ชอบอินเดีย” เธอว่า
“แต่ที่นั่นเป็นบ้านเกิดของเธอนะ”
“ใช่ ฉันรู้ แต่ฉันไม่รู้สึกว่าเป็นคนอินเดียอีกแล้ว พวกเขาไม่เป็นระเบียบและไม่มีแบบแผนเหมือนอย่างที่ชาวอังกฤษเป็น”
คนสองสัญชาติอาจอยู่ประเทศอื่น ๆ อย่างออสเตรเลีย หรืออเมริกา โดยไม่มีปัญหา แต่ที่นี่ กลับกลายเป็นว่าคนอังกฤษผิวขาว มักไม่ค่อยต้อนรับว่าเป็นพวกเดียวกัน พวกเขายังคงเรียกคนเหล่านี้ตามเชื้อชาติเดิม โดยไม่คิดว่าเป็นชาวอังกฤษสักนิด
ยิ่งกว่านั้นเมื่อชาวอังกฤษไปอยู่ที่อื่น พวกเขาจะไม่ยอมเปลี่ยนสัญชาติไปตามประเทศนั้น ๆ เพราะเชื่อกันว่า สัญชาติเดิมคือสิ่งที่ดีที่สุด
แม่ของแพดดี เพื่อนสมัยเรียนอยู่ออสเตรเลีย เป็นชาวอังกฤษ แต่แต่งงานกับชาวออสซี่ (พ่อแพดดี) แล้วย้ายมาอยู่ออสเตรเลียนานกว่า 20 ปี เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกสัญชาติ (สำหรับคนที่อยู่นานเกิน 5 ปี ) เธอกลับคงไว้ซึ่งสัญชาติอังกฤษ ฉันเคยถามว่าทำไม
“เป็นคนอังกฤษดีที่สุด แล้วจะให้เปลี่ยนทำไม” เธอทำท่าภูมิใจ
ในขณะที่คนหลากหลายเชื้อชาติจากที่ต่างๆ ในโลก เมื่อมาอยู่ออสเตรเลีย ต่างเปลี่ยนสัญชาติเป็นออสเตรเลียนทั้งนั้น
นี่คือความยึดมั่น (ถือมั่น) ในความเป็นอังกฤษที่.. แต่ไหนแต่ไรมา คิดว่าตนเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ แม้อยู่บนพื้นที่เล็กๆ ด้วยความคิดนี้จึงทำให้อังกฤษมีอำนาจและทำสงครามเพื่อเอาประเทศที่อ่อนแอเป็นเมืองขึ้นได้
แต่สุดท้าย อังกฤษก็ได้รับผลจากการกระทำของตนเอง คนอังกฤษจึงไม่ใช่มีแต่คนผิวขาวอีกต่อไป
อันที่จริง ความแตกต่างของมนุษย์เป็นสิ่งธรรมดา แต่น่าแปลกคือเมื่อเห็นคนที่รูปลักษณ์แตกต่างไปจากเรา คนเราก็มักรู้สึกกลัวและไม่คุ้นเคย
ลองคิดว่าหากในอนาคต เริ่มมีฝรั่งเข้ามาอยู่เมืองไทยมากขึ้นเรื่อยๆ แต่งงานกับสาวไทย (หรือหนุ่มไทย) และมีเด็กหน้าตาลูกครึ่งเต็มไปหมด เราจะรู้สึกอย่างไร
การผสมข้ามเชื้อชาติและเผ่าพันธุ์ ทำให้สูญเสียความเป็นต้นฉบับที่แท้จริง ขณะเดียวกันก็ทำให้เกิดมีมนุษย์ที่หน้าตาใหม่ๆ ผสมผสานกันมากขึ้น
นี่คือสิ่งที่คนอังกฤษกำลังเผชิญ และยอมรับไม่ได้นั่นเอง@
---------------------------------------
http://www.bangkokbiznews.com/jud/taste/20061001/news.php?news=column_21741826.html
เป๊ปเปอร์มิ้นท์
ซึ่งไม่ว่าสัญชาติใดก็ตาม..ขอให้อยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข
น่าจะดีที่สุดนะคะ...I loved United Kingdom krab.