อุเบกขาธรรม ความเป็นกลางที่ยิ่งใหญ่ สู่การพ้นทุกข์
เรารู้จักและพูดกันบ่อยในเรื่องเมตตากรุณา แต่ในเรื่องอุเบกขาดูเหมือนจะพูดถึงน้อยมาก ทั้งๆที่เป็นความยิ่งใหญ่ของธรรมทั้งปวง
ความมีเมตตา คือ รักปรารถนาให้เขามีความสุข
ความมีกรุณา คือ สงสารเขาต้องการช่วยให้เขาพ้นทุกข์
ความมีมุทิตา คือ ยินดีด้วยเมื่อเขาได้ดีมีสุข
ความมีอุเบกขา คือ วางใจเป็นกลาง มองเห็นสรรพสิ่งต่างๆตามความเป็นจริง เป็นไปตามเหตุและปัจจัย
เมตตา กรุณา มุทิตา เป็นคุณธรรมที่ประเสริฐของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งปวง แต่ลองสังเกตุดูซิครับ มีคนมากมายทีมีคุณธรรมทั้งสามข้อนี้แล้ว ก็ยังตกอยู่ในวังวนของความทุกข์อยู่
เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะเขายังไม่แจ้งในธรรมอันยิ่งใหญ่ นั่นก็คือ "อุเบกขา" นั่นเอง
การจะแจ้งในอุเบกขาได้นั้น ทำได้โดย
1.เข้าใจในเรื่องกฎแห่งกรรม ทุกคนมีกรรมเป็นกำเนิด ทุกคนมีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ุ ใครทำกรรมใดย่อมได้รับผลของกรรมนั้น
2.ลดความมีอคติ(ความมีใจไม่เป็นกลาง-bias)ลง อันได้แก่
ฉันทาคติ - ลำเอียงเพราะรัก
โทสาคติ - ลำเอียงเพราะโกรธ
โมหาคติ - ลำเอียงเพราะเขลาไม่รู้
ภยาคติ - ลำเอียงเพราะกลัว
ดังนั้นถ้าเราต้องการเป็นคนดีมีความเมตตากรุณาและไม่ทุกข์แล้วละก้อ อย่างลืมธรรมะข้อนี้นะครับ "อุเบกขา"
หมั่นฝึก หมั่นเจิญ หมั่นทำให้มาก ทุกข์ลด สุขเพิ่ม จริงๆครับ ^_^
ไม่มีความเห็น