ขุดเหมืองหาแร่เรียนรู้ใน "พจนานุกรมวิสามานยนามไทย" : วัด วัง ถนน สะพาน ปอม -- กรุงเทพฯ
(ราชบัณฑิตยสถาน, หน้า ๒๕-๒๖ พิมพครั้งที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๔๘ -- royin.go.th/พจนานุกรมวิสามานยนามไทย)
For those who love 'folk history' (stories behind weird or wonderful names), the พจนานุกรมวิสามานยนามไทย offers surprisingly rich and interesting veins of insights into Thailand's Past. Even for casual readers (like me) who are merely beach-combers looking a lucky find will this publication a very good read. It is available online at www.royin.go.th>พจนานุกรมวิสามานยนามไทย>...
Below is an example of the gems found: (I wonder if this can be used as 'supplementary reading material for late primary/early secondary Thai studies. It is definitely a source of inspirations for millions other names in historically richer "regional Thailand".
)
แคราย ชื่อสี่แยกบริเวณสวนปลายถนนงามวงศวาน ตอนบรรจบกับถนนติวานนทในเขตอําเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
สี่แยกแคราย เปนสี่แยกที่เกิดขึ้นเมื่อมีการตัดถนนติวานนทและถนนงามวงศวานประมาณ พ.ศ. ๒๔๙๐ เศษ การเขียนชื่อบริเวณสี่แยกดังกลาวมีความลักลั่นมากโดยมีการเขียนทั้ง แคลาย และแคราย จนกระทั่งจังหวัดนนทบุรีไดมีหนังสือสอบถาม ราชบัณฑิตยสถานวา เขียนอยางไรจึงจะถูกตอง ในชั้นแรกราชบัณฑิตยสถานไดตอบจังหวัดนนทบุรีไปวาจากการสอบถามผู้ที่มีพื้นเพในบริเวณดังกลาวมานาน ทราบวา บริเวณนั้นมีตนแคมากมีทั้งดอกสีขาวและสีแดงมองไกล ๆ มีลักษณะคลายผาหลากสี จึงเรียกวา แคลาย
ตอมาราชบัณฑิตยสถานไดรับคํารองเรียนขอใหทบทวนชื่อ สถานที่ดังกลาวจากประชาชนอยู่เสมอ และกรมทางหลวงไดมีหนังสือขอใหราชบัณฑิตยสถานตรวจสอบวา คําใด ถูกตองระหวาง แคลาย กับ แคราย จึงไดมีการตรวจสอบขอมูลและหลักฐานตาง ๆ เชน วัดเสมียนนารี ซึ่ง วิภาวดีรังสิต เดิมชื่อวัดแคราย แตปรากฏวา วัดเสมียนนารี ไมมีความเกี่ยวของกันทางประวัติศาสตรกับบริเวณสี่แยกดังกลาว เนื่องจากตั้งอยูห่างไกลกัน และไมปรากฏชื่อบริเวณ ดังกลาวในแผนที่ทางประวัติศาสตร หรือแมแตการตรวจสอบจากสารบบที่ดินและระวางแผนที่รุ่นโบราณที่สํานักงานทีดิน จังหวัดนนทบุรีก็ไมพบหลักฐานเช่นกัน อีกทั้งชื่อ แคลาย หรือแคราย ก็มิไดเปนชื่อหมูบ้าน ตําบลหรือเขตการปกครองใด ๆ จึงไมปรากฏชื่อในแผนที่ การเรียกชื่อสี่แยกแคลาย หรือแคราย เพิ่งปรากฏเมื่อมีการตัดถนนงามวงศวานและ
ถนนติวานนทขึ้น แตจากการสอบถามผู้คนที่อยู่อาศัยในบริเวณดังกลาวกอนที่จะมีการตัดถนนติวานนทและถนนงามวงศวานทราบวา บริเวณดังกลาวมีตนแคมากและขึ้นเรียงรายตามขอบถนน ผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นรวมทั้งผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณใกลเคียง จึงมักเรียกบริเวณนี้ว่า แคราย และกลายเสียงเป็น แคลาย บาง ดังนั้น ปายชื่อของทางราชการ และรานคาตาง ๆ ในบริเวณนั้นจึงมีทั้งที่เขียนวา แคราย
และ แคลาย นอกจากนี้ ไมปรากฏวามีต้นไมตระกูลแคชื่อ แคลาย หรือตนแคที่มีดอกลาย ดังนั้น จึงมีหลักฐานจากคําบอกเลาตรงกันประการหนึ่ง คือ บริเวณซึ่งเปนสวนปลายของถนนงามวงศวานตัดกับถนนติวานนทเปนบริเวณที่มีตนแคเรียงราย หลักฐานจากคําบอกเลาดังกลาวจึงมีน้ำหนักที่นาจะวินิจฉัยไดวา ควรเรียกบริเวณดังกลาววา “สี่แยกแคราย”
Continuing with digging for knowledge (or "Knowledge Mining" - another step from data mining ;-), I found this gem. Another source of inspiration for modern history students.
นรสิงห, บาน ตั้งอยู่ที่เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ปจจุบันเป็นทําเนียบรัฐบาล (พจนานุกรมวิสามานยนามไทย 140-141)
บานนรสิงหเปนบานที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลาเจาอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ ใหสรางพระราชทานแกพลเอก พลเรือเอก เจาพระยารามราฆพ (ม.ล.เฟอ พึ่งบุญ) เจาพระยารามราฆพเปนขุนนางที่ทรงโปรดปรานมากเคยดํารงตําแหนงผูสำเร็จราชการมหาดเล็ก องคมนตรี อุปนายกเสือปา พลเอกแหงกองทัพบก และพลเรือเอกแหงกองทัพเรือ บานนรสิงหมีเนื้อที่ ๒๗ ไร ๓ งาน ๔๔ ตารางวา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล าเจ าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ พระราชทานพระราชทรัพยมาจัดสรางอาคาร
และสิ่งตาง ๆ ในบริเวณพื้นที่ดังกลาว แตชื่อบานนรสิงห์ ไมปรากฏวาเปนชื่อที่ไดรับพระราชทาน หรือเจาพระยารามราฆพตั้งเอง
ภายหลังสงครามมหาอาเซียบูรพาใน พ.ศ. ๒๔๘๔ ญี่ปุ่นไดเจรจาขอซื้อหรือขอเชาบานนรสิงหเพื่อเปนสถานทูตญี่ปุ่นประจําประเทศไทย แตในปเดียวกันนั้นเจาพระยารามราฆพไดเสนอขายบานนรสิงหใหแกรัฐบาล เพราะใหญโต เกินฐานะและเสียคาบํารุงรักษาสูง กระทรวงการคลังปฏิเสธ แตจอมพล ป. พิบูลสงครามนายกรัฐมนตรี ใหซื้อบานนรสิงห เป็นสถานที่รับรองแขกเมืองในราคา ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยใชเงินของสํานักงานทรัพยสินสวนพระมหากษัตริยให้รัฐบาลใช เป็น สถานที่รับรองแขกเมืองและเปนที่ตั้งของทําเนียบรัฐบาลตั้งแต พ.ศ. ๒๔๘๔ เปนตนมา ชื่อบานนรสิงห ไดเปลี่ยนเปนทําเนียบสามัคคีชัย ในสมัยที่จอมพล ป. พิบูลสงครามเปนนายกรัฐมนตรี และเปลี่ยนมาเปนทําเนียบรัฐบาล ตอมาใน พ.ศ. ๒๕๐๖ คณะรัฐมนตรีไดมติใหรัฐบาลซื้อบานนรสิงหจากสํานักงานทรัพยสินสวนพระมหากษัตริยในราคา ๑๗,๗๘๐,๘๐๒.๓๐ บาท บานนรสิงหหรือทําเนียบรัฐบาลมีตึก สําคัญ ๆ เชน ตึกไทยคูฟ้า ตึกนารีสโมสร ตึกแสงอาทิตย ตึกสันติไมตรี
And for those who like digging further, this mine is fun and safe enough to go really deep ;-)
นิมมานรดี, วัด พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยูที่เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร (พจนานุกรมวิสามานยนามไทย 148-149)
วัดนิมมานรดี เดิมชื่อวัดบางแค สรางในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟาจุฬาโลกมหาราช ประมาณ พ.ศ. ๒๓๕๐ ปรากฏหลักฐานกลาวถึงวัดบางแคในจดหมายเหตุรัชกาลที่ ๒ จ.ศ. ๑๐๘๓ (พ.ศ. ๒๓๖๔) วาพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหลานภาลัยโปรดเกลาฯ แตงตั้ง พระคณาจารย์เปนผู้บอกกรรมฐานในกรุงและหัวเมืองซึ่งมีพระอาจารยเกษ วัดบางแค เปนผู้ถวายสมาธิกรรมฐานดวย ตอมาใน พ.ศ. ๒๔๑๕ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยู่หัว พระอธิการแจงยายมาจากวัดระฆังโฆสิตารามมาปกครอง
วัดบางแค โดยมีขุนตาลวโนชากร (นิ่ม) และภรรยาชื่อ “ดี” มาบูรณปฏิสังขรณเสนาสนะตางๆ ภายในวัดทั้งหมด ทางวัดจึงเปลี่ยนชื่อวัดเพื่อเปนเกียรติแกผู้บูรณปฏิสังขรณ จาก วัดบางแคเปน วัดนิมมานรดี โดยใชชื่อ สามีภรรยาขึ้นตนและลงทาย เพื่อ ใหมีความหมายไพเราะและสอดคลองตรงกับชื่อ สวรรคชี้นที่ ๕ อีก ดวย ขุนตาลวโนชากร (นิ่ม) ไดเสนอชื่อ วัดนิมมานรดี และกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานวิสุงคามสีมาซึ่งได้รับพระราชทานครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๒๒ และไดรับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๔ ตอมาในพ.ศ. ๒๕๒๗ วัดนิมมานรดีไดขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตสถาปนาวัดนิมมานรดีเป็นพระอารามหลวง และไดรับพระมหากรุณาธิคุณสถาปนาขึ้น เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๘
Some examples of [my further] digs and learning :
กรรมฐาน: [กำมะถาน] น. ที่ตั้งแห่งการงาน หมายเอาอุบายทางใจ มี ๒ ประการ คือ สมถกรรมฐาน เป็นอุบายสงบใจ และวิปัสสนากรรมฐาน เป็นอุบายเรืองปัญญา. (ส.; ป. กมฺมฏฺาน).
วิสุงคามสีมา: [-คามมะ-] น. เขตที่พระราชทานแก่สงฆ์เพื่อใช้เป็นที่สร้างพระอุโบสถ. (uposatha site)
นิมมานรดี: [นิมมานะระดี, นิมมานอระดี] น. ชื่อสวรรค์ชั้นที่ ๕ แห่งสวรรค์ ๖ ชั้น ได้แก่ จาตุมหาราชหรือจาตุมหาราชิกหรือจาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมมานรดี และปรนิมมิตวสวัตดี, มีท้าวสุนิมมิตเป็นผู้ครอง, ในบทกลอนใช้ว่า นิมมานรดีต ก็มี เช่น ช่อชั้นนิมมานรดีต. (อิเหนา). (ป.; ส. นิรฺมาณ + รติ).
ปฏิสังขรณ์: ก. ซ่อมแซมทําให้กลับคืนดีเหมือนเดิม (มักใช้เฉพาะวัดวาอาราม) เช่น ปฏิสังขรณ์วัด. (ป.) (restoration)
อาราม ๑: น. วัด; สวนเป็นที่น่ารื่นรมย์. (ป., ส.).
อาราม ๒: น. ความยินดี, ความรื่นรมย์, ความเพลิดเพลิน.
อาราม ๓: ว. มุ่งหมายอย่างรีบร้อน, พะวงที่จะทําการใด ๆ, ตั้งหน้าตั้งตา, ใช้นําหน้ากริยา เช่น อารามจะไปเลยลืมกระเป๋าสตางค์.
อธิการ: [อะทิกาน] น. เรียกพระที่ดํารงตําแหน่งเจ้าอาวาสซึ่งไม่มีสมณศักดิ์อย่างอื่นว่า พระอธิการ, เรียกพระที่ดํารงตําแหน่งพระอุปัชฌาย์หรือเจ้าคณะตําบล ซึ่งไม่มีสมณศักดิ์อย่างอื่นว่า เจ้าอธิการ; ตําแหน่งสูงสุดของผู้บริหารในวิทยาลัย. (ป., ส.).
Now it's your turn. Have a go.
(If you have an Android tablet or Android (smart) phone or a Linux distro on your PC and would like to help me test a Thai-Thai dictionary, send me an email -- privately--.)
พิษณุโลก, บาน ตั้งอยูที่ถนนพิษณุโลก เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
(พจนานุกรมวิสามานยนามไทย หน้า 245)
บ้านพิษณุโลก เดิมชื่อบ้านบรรทมสินธุ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลาเจาอยู่หัวโปรดเกลาฯ ใหสรางพระราชทานพลตรีพระยาอนิรุทธเทวา (ม.ล.ฟึ้น พึ่งบุญ)เริ่มกอสรางเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๕ โดยสถาปนิกชาวอิตาลี มีสถาปัตยกรรมแบบ Italian Barogue สรางเสร็จเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๘ เป็นตึกสูง ๓ ชั้น บริเวณหนาบานมีรูปปั้นนารายณบรรทมสินธุ์ ซึ่งเป็นสัญลักษณที่พระราชทานเป็นเครื่องหมายประจําตระกูลของพระยาอนิรุทธเทวา ประดิษฐานอยูบนแทนศิลาในอางน้ำพุ ตอมาใน พ.ศ. ๒๔๘๕ รัฐบาลสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีไดใหสํานักงานทรัพยสินสวนพระมหากษัตริยซึ้อไวเปนบานรับรองของรัฐบาล พลตรี
พระยาอนิรุทธเทวา ไดแบงขายใหครึ่งหนึ่งของพื้นที่และหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ไดขายสวนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งให้โรงพยาบาลมิชชั่น สวน บานบรรทมสินธุ์ รัฐบาลไดเปลี่ยนชื่อเป็น บ้านพิษณุโลก ตามชื่อถนนพิษณุโลก ปัจจุบันบานพิษณุโลกใชเป็น บ้านพักของนายกรัฐมนตรี โดยรัฐบาลได้ขอเชาจาก สํานักงานทรัพยสินสวนพระมหากษัตริย์