พระมหาทองสมุทร ธมฺมาทโร
พระมหา พระมหาทองสมุทร ธมฺมาทโร tom vorasan วรสาร

หมาเกิดเป็นเทวดา (กลอน)


                                                         

กลอนหมาเกิดเป็นเทวดา
….................................

มีบุรุษ คนหนึ่ง ซึ่งอดอยาก
แสนลำบาก แร้นแค้น แสนขัดสน
ได้พาเมีย พร้อมลูก ทุกข์เหลือทน
หอบกายกล สังขาร เดินทางไกล

จากเมืองหนึ่ง สู่เมืองหนึ่ง ซึ่งไกลโพ้น
สู้อดทน อุ้มลูกน้อย ที่ป่วยไข้
ผลัดกันอุ้ม กับภรรยา มาแต่ไกล
ทั้งเหงื่อไคล ก็ไหลหยด ทั้งหมดแรง

ทั้งแม่พ่อ แรงเอื่อย เมื่อยใจขาด
พ่อเอ่ยปาก ด้วยสำเนียง เสียงแหบแห้ง
ไม่ไหวแล้ว ภรรยา ข้าหมดแรง
ถึงทางแพร่ง ขอจริง ทิ้งลูกกัน

ภรรยา เผลอไผล เดินให้หลัง
สามีนั่ง ทำเป็นเหนื่อย เมื่อยหลับไหล
พร้อมทิ้งลูก ในทางเปลี่ยว เลี้ยวเดินไป
ภรรยา ร่ำไห้ แทบวายปราณ

พ่อแม่ช้ำ จำใจจริง ทิ้งลูกน้อย
ตาละห้อย แทบวายจินต์ สิ้นสังขาร
เดินเข้าสู่ โกสัมพี นี้เกินกาล
ถึงโคบาล ตระกูลหนึ่ง ซึ่งทำบุญ


เจ้าของบ้าน โคบาล นั้นทานข้าว
พร้อมเลี้ยงเจ้า สุนัข ที่รักขุน
ป้อนอาหาร ใส่ปากหนับ รักการุณ
ดูอบอุ่น น่าอิจจา หมาโชคดี

สองสามี ภรรยา อ้าปากมอง
น้ำลายฟ่อง เลยหนา หน้าสดสี
อยากเป็นหมา นายโคปาล์ คงจะดี
จะได้มี อาหารหม่ำ น้ำลายไหล

เจ้าของบ้าน โคบาล สงสารจิต
จึงได้หยิบ อาหาร ที่ทานให้
สองสามี สั่นเทา รับเอาไป
พร้อมกับไหว้ งันงก จกกินกัน

ด้วยหิวหนัก ควักกิน อิ่มเกินขนาด
สามีขาด- ใจปลิด ชีพตักษัย
เสียชีวิต สิ้นลม ลงทันใด
วิญญาณได้ จุติ ที่นั่นเลย

เกิดในท้อง ของหมา เจ้าของบ้าน
นายโคบาล ที่ให้กิน ไม่นิ่งเฉย
เพราะอาศัย จิตเป็นทุน ที่คุ้นเคย
ที่เคยเอ่ย อยากเป็นหมา คราก่อนตาย

ชีวิตคน เกิดเป็นหมา ชะตานี้
เกิดในที่ บ้านใหญ่ ให้อาหาร
เป็นหมารัก ของคนโต นายโคบาล
ผู้ทำทาน เป็นนิจสิน ถิ่นพระมา

นายโคบาล นิมนต์พระ มาประจำ
ทุกเช้าค่ำ ก็ไปวัด ปัฏฐยา
พร้อมกับนำ สุนัข ติดตามมา
พัฒนา ฝึกหัดเขา เฝ้าเอ็นดู

มีวันหนึ่ง เขาใช้ ให้หมารัก
ไปที่วัด นิมนต์พระ สง่าหรู
มันก็ชอบ กระโดดผาง หางไกวชู
แต่เช้าตรู่ นิมนต์พระ มาฉันเพล

มันดึงคาบ งับจีวร เดินก่อนพระ
มุมานะ ดีใจ ทำให้เห็น
พระเห็นมัน แสนรู้ ดูไร้เวร
จึงคิดเล่น ลองเดินเบี่ยง เลี่ยงข้างทาง

ท่านทดลอง อยากดู มันรู้สึก
มันจะนึก ทำอย่างไร เดินไม่ห่าง
หมามันเห็น พระเจ้า ไม่เข้าทาง
มันเห่ากร่าง เข้าทางขึง ดึงจีวร

มันทำอยู่ เช่นนี้ หลายปีดัก
ได้ฟูมฟัก ศรัทธา อนุสรณ์
พระไม่มา เหมือนเดิม เริ่มขาดตอน
จึงเห่าหอน คิดถึง ประหนึ่งคน

มันหงอยเหงา เฉาตาย สิ้นใจขาด
ด้วยอำนาจ เสียงเห่า เฝ้าฝึกฝน
สละเสียง เห่าหอน ตอนทำบุญ
ได้เจือจุน บุญนิธิ ติดตามพลัน

ไปเกิดเป็น เทพบุตร โฆสะกะ
ที่เทวะ นคร บ่อนสวรรค์
เทพติงสะ เสวยผล บุญอนันต์
อยู่สวรรค์ ตราบอายุ อยู่สบาย

.................................................
คนเราจะมีการเวียนว่าย,ตาย,เกิด ก็ด้วยอำนาจ
๑. กรรม (กรรมดี,กรรมชั่ว)
๒. กิเลส (กิเลส,โลภะ,โทสะ,โมหะ ตัณหา อุปปาทาน เป็นต้น)
๓. วิปาก (ฝ่ายดีฝ่ายชั่ว ฝ่ายดีเรียกว่าอานิสงส์ ฝ่ายชั่วเรียกว่าวิปาก)

หมายเหตุ:  โฆสกะเทพบุตรยังไม่หมดกรรม ถึงจะเกิดเป็นเทวดา ด้วยอำนาจการเห่าหอน ตอนเกิดเป็นหมานิมนต์พระแล้วก็ตาม แต่ด้วยวิปากแห่งกรรมชั่วที่ทิ้งลูก พอตายจากเทวดา ก็กลับมาเกิดเป็นลูกโสเภณีที่เมืองมนุษย์อีก ก็โดนทิ้งอีกทั้ง ๗ ครั้ง ๗ ครา จะเห็นว่า วิปากกรรม กับอานิสงส์แห่งการทำดีทำชั่ว จะสลับให้ผลร้อยเป็นบ่วงอยู่เช่นนี้เสมอๆ ตราบใดยังไม่ถึงพระนิพพาน พระนิพพาน เซฟตี้คัด ทางเดียวเท่านั้นที่จะตัดการเกิดแก่เจ็บตายได้ 

เมืองมนุษย์ เป็นที่ปรารถนาของพวกเทวดาทีี่่หมดบุญ  เป็นสวรรค์ของเทวดา เพื่อการบำเพ็ญบารมี  



                         

คำสำคัญ (Tags): #เทวดา#บุญ#สุนัข
หมายเลขบันทึก: 536191เขียนเมื่อ 17 พฤษภาคม 2013 04:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 พฤษภาคม 2013 04:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท