วันเวลาได้หมุนเปลี่ยนเวียนไปแล้วจริงๆ นับแต่เดือน กรกฎาคม 2551 เป็นต้นมาก็เกือบ 5 ปีแล้วทึ่ครูต๋อมได้ต่อสู้ และเรียนรู้ในการอยู่อย่างไรกับการเป็นมะเร็ง...แม้แต่คนข้างๆ อย่างดิฉันก็ต้องได้เรียนรู้ตามไปด้วย....มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป...แต่หากต้องใช้สติ และความพยายามมากหน่อยในการประคับประคองให้ครอบครัวเราเดินก้าวผ่านวิกฤตชีวิตมาได้...แม้ว่าโรคมะเร็งไม่ได้หายไปจากครูต๋อมแต่ก็ไม่ได้มีอะไรหนัก ครูต๋อมยังสามารถอยู่ได้เกือบปกติแล้ว....นับเป็นปรากฏการณ์เกินความคาดหมายแม้ต้องทานยาทุกวันไปจนวันตายอย่างไม่มีเงื่อนไข แต่วันนี้ครูต๋อมก็ทำงานและมีชีวิตเหมือนคนปกติแล้ว.....นับว่าเป็นพลังที่ทำให้ครอบครัวของเราเดินก้าวไปข้างหน้ากันแล้ว....วันนี้จึงเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ที่ครอบครัของเราได้รับ......จนดิฉันต้องมานั่งคิดว่า ชีวิตของคนเรานั้นก็ไม่อาจประมาทได้....ไม่วันใดก็วันหนึ่งเราก็อาจได้พลัดพรากจากโลกนี้ไป....ดังนั้น เราทุกๆคนจึงควรทำทุกเวลา นาทีให้ดีที่สุด....เพื่อมอบความสุข เก็บความทรงจำที่ดีไว้ในใจของเราตลอดไป....
เป็นกำลังใจให้ครูต๋อมค่ะ ดีใจด้วยค่ะที่เกือบเป็นปกติแล้ว สู้ๆค่ะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
เป็นกำลังใจครับครู...
เชื่อมั่นว่า มะเร็งหายได้ ใช้ใจรักษากาย
ดีใจด้วยอย่างมากนะคะ และขอมอบกำลังให้ครอบครัวน้องพิกุลมากเสมอตลอดไปค่ะ
มีคุณครูแอมเข้ามาเขียนไว้นะคะ http://www.gotoknow.org/posts/377005 คุณแม่เป็นมะเร็งสมอง
ตอนนี้แม่ของหนูกำลังเผชิญวิกฤตสำคัญในชีวิต ซึ่งท่านตรวจพบเป็นมะเร็งสมองกำลังจะดำเนินการรักษา คนเป็นลูกใจคอไม่ดี ไม่รู้ต้องทำยังไงสับสนไปหมด หนูอยากทราบวิธีการรักษาและค่าใช้จ่ายในการรักษาโรงพยาบาลรามาค่ะว่าเป็น อย่างไร หนูอยากอยู่กับท่านนานเพราะตอนนี้ชีวิตหนูเหลือท่านเพียงคนเดียว ขอความกรุณาส่งข้อมูลมาที่เมล์ด้วยได้ไหมค่ะ ตอนนี้หมดแรงมากเหมือนเส้นทางมันมืดไปหมด ขอขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ
น้องพิกุลแวะไปช่วยบอกที่คุณครูแอมถามได้ไหมค่ะ คงจะลืมเขียน e-mail ค่ะ
คิดถึงเสมอนะคะ
เยี่ยมมากๆน้องสาวน้องชาย