nobita
นาย ชัยพร รัตนดิลก ณ ภูเก็ต

อขิทโร มหาคุรุเทวา ปรัยวสาน


"ขิทาโร ซึ่งแปลว่า อ่อนแอ ยอมแพ้ แต่บนลูกปัดเม็ดนั้นมีคำว่า'อะ' เพิ่มเข้าไป เป็น 'อขิทโร' ก็ย่อมมีความหมายว่า 'เข้มแข็ง' 'อดทน' " ใน ...จากในคนเขียน... อขิทโร

อขิทโร แปลว่า อ่อนแอ ยอมแพ้  แต่ถ้าเติม อะ เข้าไปข้างหน้า เป็น อขิทโร  จะแปลว่า เข้มแข็ง  อดทน  ผู้เขียนได้อธิบายไว้ท้ายเล่มจบ และได้บอกเล่าที่มาของการเขียนเรื่องนี้ขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องของการพบเจอสิ่งที่สนใจแล้วศึกษาเพิ่มเติมจากตำรับ ตำรา แล้วผูกร้อยเรื่องตามจินตนาการออกมาเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากมาย...

ผมซื้อ อขิทโร เล่ม ๑ จากโรบินสันหาดใหญ่ เมื่อครั้งกลับไปทำภารกิจที่บ้านเกิด ตอนนั้น ตัดสินใจซื้อด้วยการอ่านแค่เรื่องราวจากปกหลังเท่านั้น เพราะไม่สามารถแกะอ่านในเล่มก่อนได้ และมีเพียงเล่ม ๑ เพียงเล่มเดียวด้วย...

อาจจะเป็นเพราะความชอบส่วนตัวที่ชอบอ่านนิยายแนวจิตวิญญาณ ศาสนา เรื่องเร้นลับ โดยเฉพาะของ ทมยันตี  ภูเตศวร แต่อย่างเรื่องนี้เป็นของ วรรณวรรธน์ ก็ยังตัดสินในซื้อมาอ่าน ก็เพราะเห็นว่าเป็นผลงานของ ณ บ้านวรรณกรรมด้วยอีกอย่างหนึ่ง...

อขิทโร เป็นเรื่องที่สร้างความสนใจของผมเริ่มต้นจาก การเขียนถึงเหตุการณ์ความผิดปกติของสภาพดินฟ้าอากาศ และการที่ผูกเรื่องกาลปาวสานของโลกมาในตอนแรก... จากนั้นก็เป็นการนำเข้าสู่เรื่องเล่า เรื่องราวในอดีตที่สร้างความทุกข์ ขมขื่นให้กับ มหาคุรุเทวา ... 

การอ่านนิยายแล้วได้สัมผัสกับความรู้สึกต่าง ๆ นานาของตัวละครที่มีทั้งความสุข ความทุกข์ ความคิด ทัศนคติ ซึ่งผมสัมผัสได้ในเรื่องนี้ ทำให้เมื่ออ่านแล้วรู้สึกอิ่มใจไปด้วย  จากจุดเริ่มต้นการเดินทางด้วยรถไฟจากหาดใหญ่ ผมใช้เวลาตลอดการเดินทาง หลับ ๆ ตื่น ๆ อ่าน ๆ หยุด ๆ จนถึงกรุงเทพ เล่มที่ ๑ ก็จบ จากนั้นจึงเป็นการตามหาเล่มที่ ๒ ต่อ ซึ่งกว่าจะได้ก็ทำให้รู้สึกหงุดหงิดพอสมควร เพราะทำให้ความรู้สึกขาดหายไปช่วงหนึ่ง  

และแล้วการอ่านเล่มที่ ๒ ก็ยิ่งทำให้อารมณ์ ความรู้สึก เพิ่มพูนขึ้นมาอีก ...

เรื่องราวของ บิดา ที่เกิดความรู้สึกเกลียดชังลูกชายเนื่องจากคำยุแยง หรือความหลงผิด ที่ผู้อื่นบอกกล่าวใส่ร้ายนั้นสร้างความทุกข์ให้กับผู้เป็นลูกยิ่งกว่าสิ่งใด แล้วสุดท้ายล่ะ...

     "ข้าคือปีศาจ...ข้าเป็นปีศาจร้ายก็เพราะความเกลียดชังจากตัวท่าน ความโลภไม่สิ้นสุดของพวกมนุษย์และความอ่อนแอของมนุษย์ทั้งหลาย ทำให้ข้าเป็นเช่นนี้"

     "ชาวกาละผู้โง่งมเอ๋ย ศรัทธาของพวกเจ้าคือสิ่งใด เมื่อมีประโยชน์จากข้า พวกเจ้าแสวงหารอตักตวง แต่พอถึงเวลาก็สามารถลุกขึ้นมาไล่ประณามเข่นฆ่าเพียงเพราะหลงเชื่อลมปากของผู้นำเหลวไหล... ศรัทธาของพวกเจ้าซึ่งเคยมีต่อข้ามันอยู่ที่ใดกันแน่ เมื่อหาความมั่นคงไม่ได้ นี่คือสิ่งตอบแทนในความอ่อนแอของพวกเจ้า"

     "พวกท่านอย่าได้ขอข้า...ข้าให้อภัยเขาจนสิ้นในฐานะบุตร เวลานี้ข้ากำลังจะเอาคืนในฐานะที่มันเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง...ที่สมควรจะได้รับการสูญเฉกเช่นมนุษย์ทุกผู้ทุกคน และสรรพสิ่งที่อยู่ในห้วงจักระแห่งนี้"

     จากบทของมหาคุรุเทวา

แต่สุดท้าย นิยาย ก็คือนิยาย การจบลงของเรื่องนี้ คนสร้างกรรมดี ก็รับผลแห่งกรรมดี คนสร้างกรรมชั่วชีวิตก็มัวหมองหมกไหม้ และเรื่องราวที่เป็นไปไม่คือการที่โลกในนิยาย มิได้สูญสลายหายไปดังประสงค์ของมหาคุรุเทวา ตราบจนกว่าโลกใบนี้ (ในนิยาย) จะมีแต่ความชัวร้ายเลวทราบเต็มบ้านเต็มเมืองเต็มโลก...

"จงภาวนานามแห่งข้า

มหาคุรุแห่งเทวา จักนำอขิทโร อัสตระมฤตยูสมัย

ดลสรรพสิ่งดับสิ้นไป เบิกยุคนวกาล

เมื่อน้ำท่วมฟ้า พายุไฟ แผ่นดินไหว

หินก้อนใหญ่ ณ ท่าสำเภาแห่งสุวรรณภูมิ ปรากฎ

ประกาศแห่งข้าผู้เป็นอนันต์ จักดลสรรพสิ่งดับ สิ้นพลัน"

- อขิทโร ๒ -

หมายเลขบันทึก: 534049เขียนเมื่อ 27 เมษายน 2013 10:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน 2013 11:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

kunrapee ชอบการอ่านมากกว่า เพราะมักได้อรรถรสมากกว่าการดูค่ะ

ถ้าได้อ่านจะเพลินเลย ไม่ต้องทำอะไร แต่อ่านบนรถไม่ได้ค่ะ (เวียนหน้า)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท