อขิทโร แปลว่า อ่อนแอ ยอมแพ้ แต่ถ้าเติม อะ เข้าไปข้างหน้า เป็น อขิทโร จะแปลว่า เข้มแข็ง อดทน ผู้เขียนได้อธิบายไว้ท้ายเล่มจบ และได้บอกเล่าที่มาของการเขียนเรื่องนี้ขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องของการพบเจอสิ่งที่สนใจแล้วศึกษาเพิ่มเติมจากตำรับ ตำรา แล้วผูกร้อยเรื่องตามจินตนาการออกมาเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากมาย...
ผมซื้อ อขิทโร เล่ม ๑ จากโรบินสันหาดใหญ่ เมื่อครั้งกลับไปทำภารกิจที่บ้านเกิด ตอนนั้น ตัดสินใจซื้อด้วยการอ่านแค่เรื่องราวจากปกหลังเท่านั้น เพราะไม่สามารถแกะอ่านในเล่มก่อนได้ และมีเพียงเล่ม ๑ เพียงเล่มเดียวด้วย...
อาจจะเป็นเพราะความชอบส่วนตัวที่ชอบอ่านนิยายแนวจิตวิญญาณ ศาสนา เรื่องเร้นลับ โดยเฉพาะของ ทมยันตี ภูเตศวร แต่อย่างเรื่องนี้เป็นของ วรรณวรรธน์ ก็ยังตัดสินในซื้อมาอ่าน ก็เพราะเห็นว่าเป็นผลงานของ ณ บ้านวรรณกรรมด้วยอีกอย่างหนึ่ง...
อขิทโร เป็นเรื่องที่สร้างความสนใจของผมเริ่มต้นจาก การเขียนถึงเหตุการณ์ความผิดปกติของสภาพดินฟ้าอากาศ และการที่ผูกเรื่องกาลปาวสานของโลกมาในตอนแรก... จากนั้นก็เป็นการนำเข้าสู่เรื่องเล่า เรื่องราวในอดีตที่สร้างความทุกข์ ขมขื่นให้กับ มหาคุรุเทวา ...
การอ่านนิยายแล้วได้สัมผัสกับความรู้สึกต่าง ๆ นานาของตัวละครที่มีทั้งความสุข ความทุกข์ ความคิด ทัศนคติ ซึ่งผมสัมผัสได้ในเรื่องนี้ ทำให้เมื่ออ่านแล้วรู้สึกอิ่มใจไปด้วย จากจุดเริ่มต้นการเดินทางด้วยรถไฟจากหาดใหญ่ ผมใช้เวลาตลอดการเดินทาง หลับ ๆ ตื่น ๆ อ่าน ๆ หยุด ๆ จนถึงกรุงเทพ เล่มที่ ๑ ก็จบ จากนั้นจึงเป็นการตามหาเล่มที่ ๒ ต่อ ซึ่งกว่าจะได้ก็ทำให้รู้สึกหงุดหงิดพอสมควร เพราะทำให้ความรู้สึกขาดหายไปช่วงหนึ่ง
และแล้วการอ่านเล่มที่ ๒ ก็ยิ่งทำให้อารมณ์ ความรู้สึก เพิ่มพูนขึ้นมาอีก ...
เรื่องราวของ บิดา ที่เกิดความรู้สึกเกลียดชังลูกชายเนื่องจากคำยุแยง หรือความหลงผิด ที่ผู้อื่นบอกกล่าวใส่ร้ายนั้นสร้างความทุกข์ให้กับผู้เป็นลูกยิ่งกว่าสิ่งใด แล้วสุดท้ายล่ะ...
"ข้าคือปีศาจ...ข้าเป็นปีศาจร้ายก็เพราะความเกลียดชังจากตัวท่าน ความโลภไม่สิ้นสุดของพวกมนุษย์และความอ่อนแอของมนุษย์ทั้งหลาย ทำให้ข้าเป็นเช่นนี้"
"ชาวกาละผู้โง่งมเอ๋ย ศรัทธาของพวกเจ้าคือสิ่งใด เมื่อมีประโยชน์จากข้า พวกเจ้าแสวงหารอตักตวง แต่พอถึงเวลาก็สามารถลุกขึ้นมาไล่ประณามเข่นฆ่าเพียงเพราะหลงเชื่อลมปากของผู้นำเหลวไหล... ศรัทธาของพวกเจ้าซึ่งเคยมีต่อข้ามันอยู่ที่ใดกันแน่ เมื่อหาความมั่นคงไม่ได้ นี่คือสิ่งตอบแทนในความอ่อนแอของพวกเจ้า"
"พวกท่านอย่าได้ขอข้า...ข้าให้อภัยเขาจนสิ้นในฐานะบุตร เวลานี้ข้ากำลังจะเอาคืนในฐานะที่มันเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง...ที่สมควรจะได้รับการสูญเฉกเช่นมนุษย์ทุกผู้ทุกคน และสรรพสิ่งที่อยู่ในห้วงจักระแห่งนี้"
จากบทของมหาคุรุเทวา
แต่สุดท้าย นิยาย ก็คือนิยาย การจบลงของเรื่องนี้ คนสร้างกรรมดี ก็รับผลแห่งกรรมดี คนสร้างกรรมชั่วชีวิตก็มัวหมองหมกไหม้ และเรื่องราวที่เป็นไปไม่คือการที่โลกในนิยาย มิได้สูญสลายหายไปดังประสงค์ของมหาคุรุเทวา ตราบจนกว่าโลกใบนี้ (ในนิยาย) จะมีแต่ความชัวร้ายเลวทราบเต็มบ้านเต็มเมืองเต็มโลก...
"จงภาวนานามแห่งข้า
มหาคุรุแห่งเทวา จักนำอขิทโร อัสตระมฤตยูสมัย
ดลสรรพสิ่งดับสิ้นไป เบิกยุคนวกาล
เมื่อน้ำท่วมฟ้า พายุไฟ แผ่นดินไหว
หินก้อนใหญ่ ณ ท่าสำเภาแห่งสุวรรณภูมิ ปรากฎ
ประกาศแห่งข้าผู้เป็นอนันต์ จักดลสรรพสิ่งดับ สิ้นพลัน"
- อขิทโร ๒ -
kunrapee ชอบการอ่านมากกว่า เพราะมักได้อรรถรสมากกว่าการดูค่ะ
ถ้าได้อ่านจะเพลินเลย ไม่ต้องทำอะไร แต่อ่านบนรถไม่ได้ค่ะ (เวียนหน้า)