อริยสัจ ๔ ธรรมที่ยิ่งใหญ่


อริยสัจ ๔ ธรรมที่ยิ่งใหญ่


หมายถึง ธรรมทั้งหลายทั้งปวงย่อมหยั่งลงได้ในอริยสัจ ๔ เปรียบเสมือนรอยเท้าสัตว์ทั้งหลาย ย่อมหยั่งลงในรอยเท้าเช้าได้ฉันนั้น


ข้อความนี้เป็นจริงอย่างยิ่ง เมื่อสมัยผมเป็นนักเรียนแพทย์ เคยอ่านหนังสือของ เดล คาร์เนกี ชื่อว่า "วิธีชนะทุกข์ สร้างสุข" เล่มหนามากครับ อ่านอยู่นานกว่าจะจบ แต่พอลองสรุปใจความสำคัญทั้งเล่ม ก็มาลงที่ "อริยสัจ ๔" ได้ครบหมด


ล่าสุดได้มีการพูดคุยและทำ workshop กันเรื่อง "Influencer" ซึ่งเป็นเรื่องแนวคิดปฏิบัติเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่เราต้องการ ผมลองสรุปแล้ว ก็ลงได้ใน "อริยสัจ ๔" ได้ครบหมดเช่นกัน


               อริยสัจ ๔                      Influencer


๑. ทุกข์                                 1. Problem

๒. สมุทัย                               2. Vital behavior

๓. นิโรธ                                3. Effective result

๔. มรรค                                4. 6 Sources model


Influencerนี้ ทีมผู้เชี่ยวชาญของ Vital smart USA ใช้เวลาอยู่นานในการศึกษา ค้นคว้า และทำวิจัย กว่าจะได้รูปแบบที่ชัดเจน และได้นำมาเผยแพร่ฝึกอบรบ ก็ยังไหลลงใน "อริยสัจ ๔" ได้เช่นกัน


เพื่อนๆครับ เวลาเกิดปัญหาอะไร หรือต้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร ขอให้คิดถึง "อริยสัจ ๔"  หยิบกระดาษขึ้นมาขีดเขียนเลย อย่ามัวแต่คิดอยู่กลางอากาศ เพราะมันจะพร่ามัวและจางหายไป คิดคนเดียวไม่ออก ก็หาผู้รู้มาช่วยคิด หมั่นนำออกมาใช้และฝึกฝนอยู่บ่อยๆนะครับ  รับรองว่าชีวิตจะเปลี่ยนแปลง และประสบความสำเร็จในสิ่งที่ต้องการ ไม่ต้องรอให้ใครมาให้พรเลยครับ

คำสำคัญ (Tags): #Influencer#อริยสัจ ๔
หมายเลขบันทึก: 533948เขียนเมื่อ 26 เมษายน 2013 05:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 เมษายน 2013 05:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ในสังคมที่กำลังเกิดการแตกแยกอย่างรุนแรงเช่นทุกวันนี้..การนำอริยสัจ 4 มาบำบัดจิตใจตนเอง เป็นหนทางที่ประเสริฐที่สุดแล้วครับ..สิ่งที่ทุกคนหลงลืมคือการทำให้ตนเองพ้นทุกข์ ด้วยการป้องการ "ความทุกข์" ที่จะเกิด โดยใช้หลักธรรมแห่งความปกติ คือ "ศีล 5" เช่นเดียวกับผู้ป่วยที่ต้องมาพบแพทย์ เนื่องจากความเจ็บไข้ได้ป่วยเกิดขึ้นแล้ว แต่ถ้าใช้ความไม่ประมาท เพื่อรักษาสุขภาพของตนเอง ดูแลตนเอง ไม่เข้าไปข้องแวะกับสถานที่ที่จะก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ..ก็จะไม่กลายเป็นผู้ป่วย..แต่การรักษาศีล 5 เป็นเรื่องยากในการกระทำ ซึ่งสังคมทุกวันนี้มีสิ่งต่างๆที่จะยั่วยวนกิเลสในตัวคนให้พุ่งพล่านทุกเมื่อเชื่อวัน ดังนั้น สิ่งที่จะทำให้สามารถต้านทานกระแสกิเลสที่เชี่ยวกรากได้ต้องใช้ "สติ" เพื่อให้เกิด "ปัญญา" พิจารณาข้อดี ข้อเสีย ก่อนที่จะเริ่มลงมือกระทำการใดๆ และต้องมีจิตใจที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีด้วย "สมาธิ" จึงจะพอทำให้กิเลสในใจเบาบางลงได้ ต่อเมื่อได้เปิดใจรับความผิดพลาดของคนรอบข้างได้ มีความเข้าใจในสิ่งที่คนรอบข้างกระทำต่อเราว่าทำไมถึงทำ..ทำเพื่ออะไร..เมื่อเข้าใจแล้วเราก็พร้อมที่จะให้ "อภัย" ต่อการกระทำนั้น..เมื่อนั้นเราจะหลุดพ้นจากความทุกข์ใจ สิ่งที่เข้ามากระทบก็จะสูญสิ้นไปด้วยความ "เข้าใจ" ว่ามันต้องเกิดเป็นธรรมดานั่นเอง..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท