กรมหลวงชุมพรฯ..สักวันเราจะแก้เผ็ดฝรั่งเศสให้จงได้
สมัยที่เราเสียจันทบุรี และ ตราด ให้ฝรั่งเศส ทหารเรือไทยในสมัยนั้นต่างพากันสักหน้าอกว่า “จันทบุรี ตราด” เพื่อให้เป็นอนุสรณ์แห่งความแค้น ให้จดจำความแค้นว่าฝรั่งเศสโกงสองเมืองนี้ไปจากเรา สักวันเราจักเอาคืน
และไม่น่าเชื่อว่าเราจะขาดข้อมูลด้านพื้นที่ เศรษฐศาสตร์ขนาดที่ต่อมายอมแลกสองเมืองนี้คืนมา เพื่อแลกกับการส่ง เสียมราฐ พระตะบอง ศรีโสภณ ซึ่งมีนครวัด นครธมอยู่ด้วย ให้ฝรั่งเศส และ มีติ่งที่เขาพระวิหารชายแดนเสียมราฐ เสียด้วย ...จนเป็นที่เป็นที่มาของคดีความต่อศาลโลกในพศ. ๒๕๕๖ นี้ ไม่เช่นนั้นป่านนี้...อย่าว่าแต่เขาพระวิหารขี้ปะติ๋วเลย เพราะแม้แต่นครวัดก็จะยังเป็นของเรา (ซึ่งก็สมควรแล้ว เพราะผมได้ชี้หลักฐานไว้แล้วว่า นครวัด นครธม สร้างโดยคนสยาม หาใช่เขมรไม่)
กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้บัญชาการรร.นายเรือ สมัยโน้น ได้สร้างเรือฝึกขึ้นมาลำหนึ่ง เพื่อให้นักเรียนายเรือได้ใช้หมุนเรือ เพื่อคำนวณหาอัตราผิดของเข็มทิศแม่เหล็กในทิศทางต่าง ๆ (เราเรียกว่า หมุนเรือหาเดวิเอชั่น) ท่านได้ตั้งชื่อเรือฝึกลำเล็กๆนี้ว่า “เรือน้ำตาล”
ท่านเฉลยว่า ... น้ำตาล เป็นของแก้เผ็ด ขอให้นักเรียนนายเรือจงจำไว้ว่า สักวันหนึ่งเราจะต้องแก้เผ็ดฝรั่งเศสให้จงได้
วันนี้ผ่านมาร้อยปี เราได้แก้เผ็ดอะไรฝรั่งเศสบ้างไหม เห็นมีแต่ซื้อน้ำหอม กระเป๋าถือ ฟุ้งเฟ้อฝรั่งเศสมาใช้กันด้วยความชื่นชม กลับไปสร้างความร่ำรวยให้มันเสียอีก
เออ...ดีเหมือนกัน คนไทยเราลืมง่าย ไม่เป็นราย สักวันกางเกงในก็คงไม่เหลือ
...คนถางทาง (๑๘ เมษายน ๒๕๕๖)
สวัสดีครับ
ถ้าใครคนใดคนหนึ่งลืมทั้งหมดที่คุณกล่าวถึง เขาก็คงมิใช่คนไทยนะซิครับ