ซอกแซกทัวร์ มาเก๊า ฮ่องกง ตอนที่ 1 กับเงิน 12,568 บาท


 

                      ไปมาเก๊า ไปเข้าบ่อนเหรอ............เจอคำถามนี้ เล่นเอาผู้เขียน "หงายเงิบ" เลย ทำให้รู้ว่า หลาย ๆ ท่านไม่ทราบว่ามาเก๊าเป็นเมืองมรดกโลกแหล่งหนึ่งที่มีอะไรน่าดู น่าศึกษามากกว่าบ่อนคาสิโน ซึ่งองค์การยูเนสโกได้กำหนดให้เมืองมาเก๊าเป็นมรดกโลก ที่ถูกค้นพบครั้งแรกโดย นายพันเอก ลีโอเนบ เดอ โซซ่า ทหารเรือชาวโปรตุเกส ที่อาสามาปราบโจรสลัดในเกาะมาเก๊า โดยทำสัญญาตกลงกับเจ้าเมืองกวางตุ้ง เมื่อทำได้สำเร็จทางการจีนจึงอนุญาตให้ชาวโปรตุเกสเข้ามาตั้งรกรากและทำการค้าขายในเก๊าะนี้ ทำให้เกาะมาเก๊ามีมนต์เสน่ห์ที่เป็นโปรตุเกสและจีนผสมกันอย่างลงตัว

 

                    ต่อมาปี ค.ศ.1999 โปรตุเกสได้ทำสัญญาตกลงคืนเกาะมาเก๊าให้กับจีน เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ.1999 ทำให้มาเก๊าเป็นเขตปกครองพิเศษของจีน แต่ทางการจีนก็ปล่อยให้มาเก๊าบริหารปกครองตนเองแบบเมืองสองระบบได้อย่างลงตัว เอาประวัติศาสตร์มาเก๊ามาเล่าแบบย่อ ๆ ให้ฟังพอเรียกน้ำย่อยน่ะค่ะ จะได้เข้าใจตรงกันว่าทำไมผู้เขียนถึงได้หลงไหลและใฝ่ฝันอยากไปเที่ยวมาเก๊ามาก โดยเฉพาะการเที่ยวแบบ แบกเป้ กางแผนที่ หาที่พักเอง                   ตามผู้เขียนมาเลยน่ะค่ะ จะพาเที่ยวมาเก๊าแบบลุย ๆ กับซอกแซกทัวร์ค่ะ 

                     บินจากกรุงเทพใช้เวลาสองชั่วโมงเศษ ๆ ก็ถึงสนามบินมาเก๊า เวลาประมาณ 10.27 น. ฟ้าลัว ๆ แบบนี้แหล่ะค่ะ อากาศเย็นสบายประมาณ 18C สนามบินเล็กนิดเดียว เครื่องจิ้มหัวลงแล้วจอดจึกเลย เล่นเอาผู้เขียนตื่นเต้นพอสมควรเพราะเคยแต่แตะรันเวย์แล้ววิ่ง ๆ ต่อไปสักพักค่อยจอด นี่เล่นเสียบหัวลงแล้วจอดจึก เพราะสนามบินเล็กและแคบมาก ๆ นี่เอง ต้องขอชมนักบินค่ะเค้าเก่งจริง ๆ สนามบินยื่นออกไปในทะเล เอาขยะมาถมทะเลทำเป็นสนามบินค่ะ

              เดินออกจากสนามบิน มาขึ้นรถฟรีของบ่อนคาสิโน ที่นี่เค้าเรียกว่า Suttle Bus แต่บ้านเราเรียก Mini Bus ค่ะ

                   รีบเข้าบ่อนคาสิโนทันทีค่ะ อ่ะ ๆๆ อย่าพึ่งเข้าใจผิดน่ะค่ะ ผู้เขียนแวะมาฝากกระเป๋าไว้ที่นี่เพราะมี Lobby Bag Free ค่ะ สังเกตพื้นจะเป็นภาพลวงตา ดูแล้วจะมึน ๆ งง ๆ เป็นทางเดินเข้าบ่อนที่สามารถดูดพลังในตัวคุณ ก่อนที่จะเข้าไปละลายทรัพย์ในบ่อน มาเก๊า ขึ้นชื่อในเรื่องฮวงจุ้ยมาก ๆ ค่ะ

 

 

 

 

 

              

            เดินออกมาด้านหน้าบ่อนคาสิโนเวเนเซียน คนที่นี่เค้าออกเสียง "เวเนซี่" ติดสำเนียงโปรตุเกสค่ะ ตึกรามบ้านช่องเค้าจะออกสไตล์โปรตุเกสผสมกับจีนได้อย่างลงตัว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                 

              มุมไกล ๆ ของเวเนเซียนคาสิโนค่ะ

             นั่งรถเมล์ไปเรื่อย ๆ ตามที่ Review ไว้ ลงจุดหมายแรกเสร็จ เริ่มงง ๆๆ จะไปทางไหนต่อดีนี่ เดินขึ้นเขาไปเรื่อย ๆ 

            เอาละซิคราวนี้เริ่มงง ๆ แต่กลับเป็นจุดที่สร้างความประทับใจให้กับผู้เขียนเป็นอย่างมาก      จุดแรกที่มาถึงแต่ไม่อยู่ในโปรแกรม เพราะหลงทางเป็นชุมชนเก่าแก่ที่ถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดี มีคนอาศัยอยู่ในตึกจริง สังเกตที่มีคนเข้าออกตลอดเวลา สวยขนาด Wedding Studio มาถ่ายภาพหลายคู่เชียวค่ะ คิดดูสิค่ะว่ามุมหลงทางนี้จะสวยขนาดไหน บ๊ะเก่งแท้ ๆ เรา      ใครจะต่อเติมซ่อมแซมจะต้องขออนุญาตจากทางรัฐบาลก่อน

              

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

     เดินไปเรื่อย ๆ เริ่มมองหาแผนที่ข้างทาง ปรากฏว่า แผนที่เป็นภาษาโปรตุเกสที่เขียนแบบ De Du Da Lu la etc., ถามคนท้องถิ่นส่วนใหญ่กลับพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แผนที่ในมือผู้เขียนเป็นภาษาอังกฤษ ความมันของทริปเริ่มส่งสัญญามาเป็นระยะ ๆๆ เอิ๊กกกกกกกก


                

   มิเตอร์หยอดเหรียญจอดรถค่ะ คันนึงตกราว ๆ เดือนละ สองหมื่นกว่าบาท ใครมีรถก็พอ ๆ กับเลี้ยงลูกไปจนตลอดชีวิตเลยค่ะ ที่นี่การคมนาคมเขาสะดวกรถเมล์ รถไฟ ถึงกันตลอด เรื่องรถยนต์ส่วนตัวกลายเป็นสิ่งไม่จำเป็นไปเลยค่ะ  เมืองอุดรธานี น่าจะนำมิเตอร์แบบนี้มาใช้น่ะค่ะ เพราะรถเริ่มเยอะและจอดไม่เป็นระเบียบเลย


                                      

     ซากประตูเซนต์ปอลที่หลงเหลือจากการถูกเพลิงไหม้เป็นจุดไคล์แม๊กซ์ของทุกคนต้องมาค่ะ และอยู่ในกลุ่มมรดกโลกของมาเก๊าด้วยค่ะ 

 

 

 

 


            

            เดินลงทางลาดชันมาเรื่อย ๆ จะเจอ Senado Square ค่ะ สังเกตพื้นจะเป็นเกลียวคลื่นทะเลทุก ๆ ที่เพราะมาเก๊าเป็นเกาะที่ล้อมรอบด้วยทะเลนั่นเองค่ะ ............แต่ถ้าใครคิดจะมานุ่งบิกินี่อาบแดดแถว ๆ ชาดหาด ขอบอกว่าผิดหวังอย่างแรงค่ะ มาเก๊าไม่มีชาดหาดเลยน่ะค่ะ ไปอาบแถวภูเก๊ต กระบี่ สุราษฎร์ ทะเลอันดามันบ้านเราสวยติดอันดับโลกดีกว่าค่ะ


         

           ที่สารภาพบาปในโบสถ์ เซนต์ เอากุสติน ซึ่งเป็นโบสถ์ในกลุ่มมรดกโลกเช่นกันค่ะ ด้านหนึ่งชาวคริสต์จะมานคุกเข่าส่วนอีกด้านหนึ่งบาทหลวงหรือหลวงพ่อจะนั่งฟังอีกด้านหนึ่งค่ะ

                   

 

 

 

 

 

 

 

 

          หมูแผ่นที่ขึ้นชื่อของมาเก๊ามีขายตลอดเส้นทาง ชิมฟรีแต่ผู้เขียนว่ารสชาติออกจืด ๆ หวานนิด ๆ สู้หมูแผ่นบ้านเราไม่ได้ มีเค็มนิด ๆ ผสมพริกไทยหน่อย ๆ อร่อยกว่ากันเยอะ ...........แต่งานนี้ผู้เขียนเดินชิมทุกร้านจนอิ่ม ประหยัดไปหนึ่งมื้อค่ะ อิ่มจัง ตังค์อยู่ครบ เอิ๊กกกกกกกกก


            

 

 

 

 

                    ท๊ากไข่ ขนมพื้นเมืองของมาเก๊า อร่อยมากค่ะ ชิ้นหนึ่ง 20 บาท อร่อยจนต้องขอถ่ายรูปกับเจ้เค้าเลยน่ะค่ะ


 

 

 

 

 

 

         เชื่อไหมค่ะ..........เมืองนี้แทบจะไม่มีไฟแดงเลย ใครอยากข้ามถนนกดเจ้าปุ่มนี่รอประมาณ 30 วินาทีจะมีรูปคนสีเขียว ๆ ขึ้นพร้อมกับเสียงเร่ง ๆ ให้เรารีบเดินข้ามถนน เป็นอีกจุดที่ประทับใจ รถที่นี่กลัวคนเดินมาก ขับมาเร็วแค่ไหนก็ต้องจอดให้คนข้ามก่อน มาหลายวันไม่ยักกะเห็นอุบัติเหตุเลยค่ะ เพราะกฏหมายที่นี่แรงได้ใจจริง ๆ 


       

          ข้ามจาก Senado Square มาเจออาคารรัฐสภา อยู่ในกลุ่มมรดกโลกเช่นกันค่ะ ชั้นล่างเป็นสวนหย่อม ชั้นสองเป็น Libary หรือห้องสมุดประชาชน ส่วนชั้นสามจะเป็นที่ทำการรัฐสภา สส.ทั้งหลายก็จะมาใช้อาคารนี้ประชุมค่ะ ชอบความคิดของเค้าน่ะค่ะ การเมืองเป็นเรื่องที่แตะต้อง สัมผัสได้ เราสามารถนำเด็กนักเรียนตัวเล็ก ๆ มาซึมซับเรื่องการเมืองผ่านเรื่องราวของอาคารได้ เมืองไทยน่าเอาแบบอย่าง กระเบื้องข้างฝาเป็นกระเบื้องโบราณและของแท้ค่ะ ลวดลายสวยงามมาก ทีแรกผู้เขียนไม่รู้น่ะค่ะ คนที่ยืนเฝ้าเค้าเห็นผู้เขียนยืนชื่นชมอยู่นาน เขาจึงเดินเข้ามาอธิบายให้ฟัง ทำเอาผู้เขียนเซอร์ไพรส์สุด ๆ เลยค่ะ


              เกี้ยวที่ใช้หามอาม่าเทพเจ้าที่คนมาเก๊านับถือ จาก A-Ma Temple มาไว้อีกวัดหนึ่ง ปัจจุบันเกี๊ยวนี้จัดตั้งแสดง ณ พิพิธภัณฑ์มาเก๊าค่ะ เทศกาลจะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ของทุก ๆ ปีค่ะ

 

 

 

 

 

 


            ขึ้นไปชมวิวที่สูงที่สุดในมาเก๊า ณ 360 View of Macau ค่ะ ลิฟท์ขึ้นไปเป็นลิฟท์แก้ว วิ่งเร็วมาก แถมมองเห็นด้านนอกทั้งหมด งานนี้เล่นเอาผู้เขียนหน้าขาเกร็งไปหมด เกร็งจนปวดขาทันที ยอมรับว่ากลัวมากค่ะ แถมตื่นเต้นด้วย แต่พอขึ้นไปแล้ววิวสวยมากค่ะ เป็นอีกจุดที่ประทับใจ ผู้เขียนใช้วิธีซื้อตั๋วผ่าน Agency จากเมืองไทยแล้วค่ะจะได้ไม่เสียเวลามาต่อคิวซื้ออีก

             ภาพสุดท้ายของค่ำคืนนี้ ขอนำเสนอภาพวิวสวย ๆ ของมาเก๊าน่ะค่ะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาเล่าต่อว่าไปเจออะไรมาบ้างค่ะ 


 

 

 

   

             

 

 

 

 

ติตตาม Link ที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่น่ะค่ะ

         ซอกแซกทัวร์มาเก๊า ฮ่องกง ตอนที่ 2 http://www.gotoknow.org/posts/532852     

       ซอกแซกทัวร์มาเก๊า ฮ่องกง ตอนที่ 3 http://www.gotoknow.org/posts/532861

       ซอกแซกทัวร์มาเก๊า ฮ่องกง ตอนที่ 4  http://www.gotoknow.org/posts/532883

               

 

 

 

ค่าใช้จ่ายตลอด 4 วัน 3 คืนกับสองประเทศ มีรายจ่ายดังนี้ค่ะ                

           1. ค่าเครื่องจาก อุดร-มาเก๊า-ฮ่องกง-อุดร              4,182 บาท   (จองข้ามปี) 

           2. ค่าโรงแรม 3 คืน /2 เมือง                                 2,264 บาท

           3. ค่าอาหารและรถเมล์                                        3,740 บาท

           4. ตั๋วเข้าชมจุดต่าง ๆ                                           2,382 บาท

           .รวมทริปนี้ 4 วัน 3 คืน หมดไป                       12,568 บาท

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 532796เขียนเมื่อ 12 เมษายน 2013 21:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 กันยายน 2013 21:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เพิ่งไปมาค่ะ หลงทางกันสนุกสนาน แวะมาชม แลกเปลี่ยนกันได้นะคะ

คุณแพร  

หลงทางไปไหนบ้าง เล่าสู่กันฟังบ้างน่ะค่ะ มุดลงทะเลเหมือนผู้เขียนไหมน้อ เอิ๊กกกก

...แวะชมภาพสวยๆทั้งวิวทั้งคน...ท่องเที่ยวสนุกแถม...ได้ความรู้ประวัติศาสตร์เมืองมรดกโลกนะคะ

ดร.พจนา แย้มนัยนา

ขอบพระคุณสำหรับดอกไม้ และกำลังใจดี ๆ ที่มอบให้น่ะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท