ห้องเรียนคุณภาพ รายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี
(เกษตร)
สภาพปัจจุบันในการจัดการเรียนรู้
การจัดการเรียนรู้รายวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร) ของโรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย ระหว่างปีการศึกษา 2553 -2554 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 นั้น โรงเรียนได้จัดโครงสร้างหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร) ตามสภาพความพร้อมด้านบุคลากร งบประมาณ อาคารสถานที่และห้องปฏิบัติการ ดังนี้
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรียนในรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร) รหัสวิชา ง 22102 จำนวน 0.5 หน่วย เวลา 20 คาบ โดยศึกษาความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการเกษตร ความหมาย ปัจจัยการปลูกพืช ความสำคัญและประโยชน์ของการทำการเกษตรด้วยการปลูกพืชตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง การใช้เครื่องมือ วัสดุ – อุปกรณ์ รวมทั้งการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง การทำโครงงานที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร แสวงหาความรู้ต่างๆ อย่างหลากหลาย
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เรียนในรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร) รหัสวิชา ง 32102 จำนวน 0.5 หน่วย เวลา 20 คาบ โดยศึกษา ค้นคว้า เกี่ยวกับความหมายความสำคัญของการเกษตร เครื่องมือ อุปกรณ์การปลูกพืช เทคโนโลยีการเกษตร แนวทางในการประกอบอาชีพเกษตร คุณลักษณะที่ดีของผู้ประกอบอาชีพเกษตร ปัจจัยในการเจริญเติบโตของพืช การปลูกพืช การขยายพันธุ์พืช การดูแลการป้องกันรักษา โรค และการเก็บเกี่ยวผลผลิต การจัดจำหน่ายผลผลิตการเกษตรและการแปรรูป จัดการและแก้ปัญหาในการทำงานจากการปลูกพืชในภาชนะ การประดิษฐ์ภาชนะปลูกพืช การทำโครงงานที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร เลือกใช้ทรัพยากรในการทำงานเกษตรอย่างประหยัด สร้างสรรค์ และคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ที่มาและความสำคัญของปัญหา
จากการประเมินผลการจัดการเรียนรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี โรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2553 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทำได้เฉลี่ยเพียงร้อยละ 67.20 และ 76.97 ตามลำดับเท่านั้นซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายกำหนดไว้ การวิเคราะห์หาสาเหตุที่ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีต่ำเกิดจากเหตุสำคัญ 3 ด้าน คือ
1) ด้านตัวครู ครูยังใช้วิธีการสอนไม่หลากหลาย เน้นเนื้อหามากกว่าการฝึกให้นักเรียนได้คิด วิเคราะห์ สังเคราะห์อย่างมีเหตุผล
2) ด้านตัวนักเรียนขาดความสนใจในการเรียน ไม่ได้ฝึกทักษะอย่างจริงจัง ไม่สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ทำให้ขาดความรับผิดชอบ เห็นแก่ตัว แก้ปัญหาไม่เป็นเบื่อหน่ายในการเรียน
3) ด้านสื่อ อุปกรณ์ทางการเรียน ยังมีน้อย ไม่พอเพียงกับผู้เรียน ดังนั้นผู้รายงานในฐานะที่เป็นครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี จึงมีความสนใจที่จะพัฒนาการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ห้องเรียนคุณภาพ โดยมีการจัดทำหน่วยการเรียนรู้ ระบุเป้าหมายการเรียนรู้ หลักฐานการเรียนรู้ของผู้เรียนและกิจกรรมการเรียนรู้ สอดคล้องสัมพันธ์กันและตอบสนองมาตรฐานการเรียนรู้ในหลักสูตรครบถ้วน โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาทักษะการคิด เลือกวิธีการวัดและประเมินผลได้ตรงกับเป้าหมายการเรียนรู้และตอบสนองมาตรฐานการเรียนรู้ในหลักสูตรและมีการนำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้
วัตถุประสงค์
1. เพิ่มผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และมัธยมศึกษาปีที่ 5
2. พัฒนาให้นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8 ประการ และมีสมรรถนะที่สำคัญ 5 ประการ
3. สร้างวินัยเชิงบวก (Positive Discipline) นำร่อง กระบวนการสร้างวินัยเชิงบวก ที่เน้นการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม หรือคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8 ประการ สังเคราะห์และจัดทำฐานข้อมูล Best Practice ในเรื่อง การสร้างวินัย หรือคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่เป็นรูปธรรม
ชั้นตอนการดำเนินงาน
1. นำผลการทดสอบระดับชาติ และข้อมูลสารสนเทศประเมินภายนอก ประเมินภายใน มาใช้ในการวางแผนออกแบบพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร)
2. ออกแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบ Backward Design โดยอิงกับมาตรฐานการเรียนรู้ และเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
3. กำหนดหน่วยการเรียนรู้ รายวิชาการงานอาชีพ (เกษตร) โดยระบุเป้าหมายการเรียนรู้ หลักฐานการเรียนรู้ของผู้เรียน และกิจกรรมการเรียนรู้ให้สอดคล้องสัมพันธ์กันและตอบสนองมาตรฐานการเรียนรู้ในหลักสูตร
4. จัดการเรียนรู้ ที่มีขั้นตอนกิจกรรมนำเข้าสู่การเรียน กิจกรรมพัฒนานักเรียนทั้งด้านผลการเรียนและการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ ซึ่งกิจกรรมส่วนใหญ่จะเน้นบทบาทของนักเรียนมากกว่าครู เช่น นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ การเผยแพร่องค์ความรู้สู่ชุมชนและสาธารณะ
5. จัดกิจกรรมการเรียนรู้และดำเนินการสอนแบบโครงงานเทคโนโลยีเกษตรและอื่นๆให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา และจัดกิจกรรมส่งเสริม ป้องกัน และแก้ปัญหาให้กับนักเรียนแต่ละกลุ่ม โดยการป้องกันแก้ปัญหานักเรียนที่มีผลการเรียนต่ำกว่าเกณฑ์ด้วยวิธีการที่สัมพันธ์สอดคล้องกับการป้องกันแก้ปัญหานักเรียนตามงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
6. ส่งเสริมให้นักเรียนใช้กระบวนการคิด ค้นคว้าสร้างความรู้ได้ด้วยตนเอง สามารถเชื่อมโยงไปสู่การเรียนรู้และการนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ เช่น การปลูกพืช การเลี้ยงสัตว์ การแปรรูปผลผลิตเกษตร การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและภูมิปัญญาไทย
7. ให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าเพื่อพัฒนาตนเอง จากสื่อเอกสารในรายวิชาเกษตรและสื่อทางอินเตอร์เน็ต แล้วนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ประกอบการเรียนการสอนและออกแบบการเรียนรู้ ผลิตใบงาน ใบความรู้ เอกสารประกอบการเรียนการสอนที่น่าสนใจ และทันสมัย ออกแบบสร้างสื่อแผ่นภาพไวนิลในรายวิชาการงานอาชีพ (เกษตร)
8. วัดผลประเมินผลตามสภาพจริง ด้วยวิธีการและเครื่องมือที่หลากหลาย มีเกณฑ์การประเมินผลงาน/ชิ้นงานครอบคลุมมาตรฐานและเป้าหมายการเรียนรู้ ให้คำแนะนำทั้งรายบุคคลและกลุ่ม และเปิดโอกาสให้พัฒนาผลงานอย่างต่อเนื่อง
9. มีหนังสือเพียงพอในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้อย่างหลากหลาย และจัดมุมหรือป้ายนิเทศ/สื่อการสอน ที่ส่งเสริมการเรียนรู้/แสวงหาผลงานผู้เรียนที่มีคุณภาพแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนครูเพื่อนำข้อบกพร่องมาแก้ไขและพัฒนาตนเอง
10. จัดหาสื่ออุปกรณ์ที่ทันสมัยน่าสนใจ และสื่อเทคโนโลยีที่เอื้อต่อการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพนักเรียน เช่น VCD รายการกบนอกกะลา วารสารเกษตรธรรมชาติรายเดือน วารสารเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตรจากองค์กรต่างๆ
11. นำผลการประเมินมาวิเคราะห์จุดเด่น จุดด้อยของผู้เรียนและสะท้อนผลสู่ผู้เรียนเพื่อการพัฒนา เช่น นำผลการประเมินมาจัดกลุ่มผู้เรียนและออกแบบการเรียนรู้หรือพัฒนาผู้เรียนอย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง ละรายงานผลการเรียนรู้ของผู้เรียนแก่ผู้ปกครอง เพื่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนาผู้เรียนทุกด้าน
ผลการดำเนินงาน
ตาราง 1 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร)
รหัสวิชา ง 22102 ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ปีการศึกษา |
จำนวน (n) |
Mean |
S.D. |
t |
df |
Sig. |
2553 |
178 |
67.20 |
7.880 |
2.465 |
258.361 |
.014 |
2554 |
166 |
70.22 |
13.798 |
จากตาราง 1 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร) รหัสวิชา ง22102 สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (mean difference = 3.01) ที่ระดับ .05
ตาราง 2 เปรียบเทียบสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร)
รหัสวิชา ง 32102 ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ปีการศึกษา |
จำนวน (n) |
Mean |
S.D. |
t |
df |
Sig. |
2553 |
127 |
76.94 |
8.918 |
4.351 |
256 |
.000 |
2554 |
131 |
81.33 |
7.198 |
จากตาราง 2 พบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี
รหัสวิชา (เกษตร) ง 32102 สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (mean difference = 4.38) ที่ระดับ .05
ตาราง 3 ความพึงพอใจเกี่ยวกับบรรยากาศในห้องเรียนคุณภาพวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร)
รหัสวิชา ง 22102 ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ลำดับ |
รายการประเมิน |
ระดับความพึงพอใจเฉลี่ย |
ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน |
1 |
มีความสะอาด |
4.08 |
.771 |
2 |
มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย |
4.15 |
.849 |
3 |
มีการตกแต่งห้องอย่างสวยงาม |
4.16 |
.851 |
4 |
มีแสงสว่างเพียงพอ |
3.90 |
.831 |
5 |
อากาศถ่ายเทสะดวก |
4.18 |
.847 |
6 |
มีป้ายนิเทศที่สวยงาม ให้ความรู้ที่ทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์ |
4.02 |
.857 |
7 |
ปราศจากกลิ่นและเสียงรบกวน |
4.07 |
.827 |
8 |
มีสื่อปุกรณ์การจัดการเรียนรู้ที่ทันสมัย |
3.97 |
.880 |
9 |
มีข้อตกลงในการใช้ห้องเรียนที่เหมาะสม |
4.01 |
.877 |
10 |
ขนาดห้องเรียนเหมาะสมกับผู้เรียน |
4.10 |
.853 |
รวมเฉลี่ย |
4.06 |
.342 |
จากตาราง 3 พบว่าความพึงพอใจเกี่ยวกับบรรยากาศในห้องเรียนคุณภาพวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร) รหัสวิชา ง 22102 ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รวมเฉลี่ยคือ 4.06 และความพึงพอใจเกี่ยวกับบรรยากาศในห้องเรียนคุณภาพวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร) มากที่สุด คือ อากาศถ่ายเทสะดวก ( = 4.18) รองลงมาคือ มีการตกแต่งห้องอย่างสวยงาม (= 4.16), มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ( = 4.15), ขนาดห้องเรียนเหมาะสมกับผู้เรียน ( = 4.10), มีความสะอาด (4.08), ปราศจากกลิ่นและเสียงรบกวน ( = 4.07) มีป้ายนิเทศที่สวยงาม ให้ความรู้ที่ทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์ (= 4.02), มีข้อตกลงในการใช้ห้องเรียนที่เหมาะสม (= 4.01), มีสื่ออุปกรณ์การจัดการเรียนรู้ที่ทันสมัย (= 3.97) และมีแสงสว่างเพียงพอ (= 3.90) ตามลำดับ
ตาราง 4 ความพึงพอใจเกี่ยวกับบรรยากาศในห้องเรียนคุณภาพวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร)
รหัสวิชา ง 32102 ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ลำดับ |
รายการประเมิน |
ระดับความพึงพอใจเฉลี่ย |
ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน |
1 |
มีความสะอาด |
4.09 |
.769 |
2 |
มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย |
4.19 |
.847 |
3 |
มีการตกแต่งห้องอย่างสวยงาม |
4.21 |
.848 |
4 |
มีแสงสว่างเพียงพอ |
3.91 |
.827 |
5 |
อากาศถ่ายเทสะดวก |
4.22 |
.839 |
6 |
มีป้ายนิเทศที่สวยงาม ให้ความรู้ที่ทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์ |
4.08 |
.854 |
7 |
ปราศจากกลิ่นและเสียงรบกวน |
4.15 |
.819 |
8 |
มีสื่อปุกรณ์การจัดการเรียนรู้ที่ทันสมัย |
4.03 |
.861 |
9 |
มีข้อตกลงในการใช้ห้องเรียนที่เหมาะสม |
4.04 |
.859 |
10 |
ขนาดห้องเรียนเหมาะสมกับผู้เรียน |
4.08 |
.847 |
รวมเฉลี่ย |
4.10 |
.351 |
จากตาราง 4 พบว่าความพึงพอใจเกี่ยวกับบรรยากาศในห้องเรียนคุณภาพวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร) รหัสวิชา ง 32102 ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รวมเฉลี่ยคือ 4.10 และความพึงพอใจเกี่ยวกับบรรยากาศในห้องเรียนคุณภาพวิชาการงานอาชีพ (เกษตร) มากที่สุด คือ อากาศถ่ายเทสะดวก ( = 4.22) รองลงมาคือ มีการตกแต่งห้องอย่างสวยงาม (= 4.21), มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย (= 4.19), ปราศจากกลิ่นและเสียงรบกวน (= 4.15), มีความสะอาด (= 4.09), มีป้ายนิเทศที่สวยงาม ให้ความรู้ที่ทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์ และขนาดห้องเรียนเหมาะสมกับผู้เรียน (= 4.08), มีข้อตกลงในการใช้ห้องเรียนที่เหมาะสม (4.04), มีสื่ออุปกรณ์การจัดการเรียนรู้ที่ทันสมัย (= 4.03) และมีแสงสว่างเพียงพอ (= 3.91) ตามลำดับ
ตาราง 5 คุณภาพการจัดการเรียนรู้ ในห้องเรียนคุณภาพวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร)
โดยคณะผู้บริหาร เป็นผู้ประเมิน
ลำดับ |
รายการประเมิน |
คุณภาพเฉลี่ย |
ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน |
1 |
มีแผนการจัดการเรียนรู้ |
5.00 |
.000 |
2 |
มีการจัดการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย |
5.00 |
.000 |
3 |
จัดการเรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง |
5.00 |
.000 |
4 |
มีบันทึกหลังสอน |
4.50 |
.577 |
5 |
มีการวัดประเมินตามสภาพจริงด้วยเครื่องมือที่หลากหลาย |
4.25 |
.957 |
6 |
มีการรายงานข้อมูลให้ผู้ปกครองทราบและเป็นปัจจุบัน |
3.25 |
.500 |
7 |
มีการใช้แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น |
4.00 |
.000 |
8 |
มีการส่งเสริมนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ |
5.00 |
.000 |
9 |
นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ |
5.00 |
.000 |
10 |
มีกิจกรรมสอนซ่อมเสริมหรือกิจกรรมที่แก้ปัญหาด้านผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน |
5.00 |
.000 |
รวมเฉลี่ย |
4.60 |
.183 |
จากตาราง 5 พบว่าคุณภาพการจัดการเรียนรู้ ในห้องเรียนคุณภาพวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร) กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี โรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย กรุงเทพมหานคร รวมเฉลี่ยคือ 4.60 และคุณภาพการจัดการเรียนรู้ในห้องเรียนคุณภาพวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร) มากที่สุดคือ มีแผนการจัดการ
เรียนรู้ มีการจัดการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย, จัดการเรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง, มีการส่งเสริมนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ, นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้, มีกิจกรรมสอนซ่อมเสริมหรือกิจกรรมที่แก้ปัญหาด้านผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน (= 5.00) รองลงมาคือ มีบันทึกหลังสอน (4.50), มีการวัดประเมินตามสภาพจริงด้วยเครื่องมือที่หลากหลาย (= 4.25), มีการใช้แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น (4.00) และมีการรายงานข้อมูลให้ผู้ปกครองทราบและเป็นปัจจุบัน (= 3.25) ตามลำดับ
ตาราง 6 คุณภาพการจัดการเรียนรู้ ในห้องเรียนคุณภาพวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร)
โดยครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้ฯ เป็นผู้ประเมิน
ลำดับ |
รายการประเมิน |
คุณภาพเฉลี่ย |
ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน |
1 |
มีแผนการจัดการเรียนรู้ |
4.90 |
.316 |
2 |
มีการจัดการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย |
4.80 |
.422 |
3 |
จัดการเรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง |
4.70 |
.483 |
4 |
มีบันทึกหลังสอน |
4.30 |
.675 |
5 |
มีการวัดประเมินตามสภาพจริงด้วยเครื่องมือที่หลากหลาย |
4.40 |
.699 |
6 |
มีการรายงานข้อมูลให้ผู้ปกครองทราบและเป็นปัจจุบัน |
4.10 |
.876 |
7 |
มีการใช้แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น |
3.90 |
.738 |
8 |
มีการส่งเสริมนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ |
4.60 |
.516 |
9 |
นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ |
4.60 |
.699 |
10 |
มีกิจกรรมสอนซ่อมเสริมหรือกิจกรรมที่แก้ปัญหาด้านผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน |
4.70 |
.483 |
รวมเฉลี่ย |
4.50 |
.194 |
จากตาราง 6 พบว่าคุณภาพการจัดการเรียนรู้ ในห้องเรียนคุณภาพวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร) กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี โรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย กรุงเทพมหานคร รวมเฉลี่ยคือ 4.50 และคุณภาพการจัดการเรียนรู้ในห้องเรียนคุณภาพวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร) มากที่สุดคือ มีแผนการจัดการเรียนรู้ (= 4.90) รองลงมาคือ มีการจัดการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย (= 4.80), จัดการเรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง และมีกิจกรรมสอนซ่อมเสริมหรือกิจกรรมที่แก้ปัญหาด้านผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน (= 4.70), มีการส่งเสริมนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ และนักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (= 4.60), มีการวัดประเมินตามสภาพจริงด้วยเครื่องมือที่หลากหลาย (= 4.40), มีบันทึกหลังสอน (= 4.30), มีการรายงานข้อมูลให้ผู้ปกครองทราบและเป็นปัจจุบัน (= 4.10) และมีการใช้แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น (= 3.90) ตามลำดับ
การสรุปและอภิปรายผล
จากตารางที่ 1- 2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และมัธยมศึกษา ปีที่ 5 ที่เรียนรายวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิตินั้น มีสาเหตุสำคัญมาจากการปรับรูปแบบวิธีการ
จัดการเรียนรู้ของครู โดยการปรับปรุงห้องเรียนให้เป็นห้องเรียนคุณภาพ ที่นำเอาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนมาเป็นหลักในการวางแผนการจัดการเรียนรู้และนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ภาคทฤษฎี มีการสรุปผลการเรียนรู้ หลังเรียนพร้อมกับมอบหมายงานให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม หรือเรียนรู้ด้วยตนเองผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตตลอดจนซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่ได้เตรียมไว้บริการนักเรียน ส่วนการเรียนรู้ภาคปฏิบัติได้เน้นการปฏิบัติจริงในรูปของกิจกรรมโครงงานต่างๆ ทำให้นักเรียนมีความรู้ มีทักษะและประสบการณ์ตรงนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงในชีวิตประจำวัน จึงมีความรู้ ความเข้าใจที่คงทนและมีผลโดยตรงต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร) รหัสวิชา ง22102 และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร) ง32102 จึงกล่าวได้ว่าห้องเรียนคุณภาพเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการจัดการเรียนรู้ที่ช่วยเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
นอกจากนั้นสำรวจความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร) รหัสวิชา ง 22102 (ตารางที่ 3) และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร) ง 32102 (ตารางที่ 4) โดยใช้กิจกรรมห้องเรียนคุณภาพ นักเรียนเกือบทั้งหมดมีความพึงพอใจอย่างมากเกี่ยวกับบรรยากาศการเรียนรู้ในห้องเรียนคุณภาพวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร) ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับผลการประเมินห้องเรียนคุณภาพวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร) ของครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (ตารางที่ 5) และคณะผู้บริหารโรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย(ตารางที่ 6) ที่อยู่ในเกณฑ์ดีมากจริงเชื่อมั่นได้ว่าห้องเรียนคุณภาพวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร) มีผลโดยตรงต่อการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (เกษตร) และยังเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ ได้นำไปใช้เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัยต่อไป
นำผลงานมายึดถือเป็นแบบอย่างได้อย่างไร ส่งผลสัมฤทธิ์ต่อการเรียนของนักเรียนอย่างไร
จากการดำเนิงานกิจกรรม “ห้องเรียนคุณภาพวิชาการงานอาชีพ(เกษตร)” ตามขั้นตอน/วิธีการพัฒนา โดย
§ นำการเปลี่ยนแปลงสู่ห้องเรียนคุณภาพวิชาการงานอาชีพ(เกษตร)
§ ออกแบบการจัดการเรียนรู้อิงมาตรฐาน
§ มีการวิจัยในชั้นเรียน (CAR)
§ การใช้ ICT เพื่อการสอนและสนับสนุนการสอนวิชาการงานอาชีพ(เกษตร)
§ พัฒนางานโดยการสร้างวินัยเชิงบวก (Positive Discipline)
เป็นกระบวนการที่สามารถนำมาใช้ให้เกิดผลดีแก่ผู้เรียนได้จริง และยั่งยืน พร้อมทั้งเป็นการพัฒนาครูให้สามารถจัดกระบวนการเรียนรู้ จนส่งผลต่อผู้เรียน ดังนี้
1. เพิ่มผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และมัธยมศึกษาปีที่ 5
2. พัฒนาให้นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8 ประการ และมีสมรรถนะที่สำคัญ 5 ประการ
3. เป็นการสร้างวินัยเชิงบวก (Positive Discipline) ที่เน้นการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม หรือคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ 8 ประการ สังเคราะห์และจัดทำฐานข้อมูล Best Practice ในเรื่อง การสร้างวินัย หรือคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ที่เป็นรูปธรรม
ออกแบบการจัดการเรียนรู้อิงมาตรฐาน
นำการเปลี่ยนแปลงสู่ห้องเรียนคุณภาพวิชาการงานอาชีพ(เกษตร)
เชิญวิทยากรให้ความรู้นักเรียนเรื่อง สมุนไพรแก่นตะวัน
การใช้ ICT เพื่อการสอนและสนับสนุนการสอนวิชาการงานอาชีพ(เกษตร)
น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ชีวภาพ จากน้ำหมักชีวภาพ
เกลือหอมปรับอากาศ และเกลือตะไคร้หอมไล่ยุง
สวัสดีปีใหม่ไทยครับ
สุขสันต์วันสงกรานต์ประสานสุข
นิราศทุกข์โรคภัยห่างไกลหาย
สุขภาพสมบูรณ์เกื้อกูลกาย
สิ่งใดหมายให้สมหวังประดังมา
ขอบคุณในผลงานวิจัยที่นำมาแบ่งปันครับ