ศาสนาคริสต์เป็นประชาธิปไตยยิ่งกว่าพุทธ


คนคนเดียว นั่งหลับตาใต้ต้นโพธิ์ ตรัสรู้...ก็สามารถครอบงำคนส่วนใหญ่ได้โดยลามไปจากยอด ...สร้างยอดก่อนแล้วจึงสร้างฐาน

ศาสนาคริสต์เป็นประชาธิปไตยยิ่งกว่าพุทธ

ผมเป็นชาวไทยพุทธที่คิดเข้าข้างตนเองมาตลอดว่า ศาสนาพุทธดีกว่าคริสต์  ...ดูสิวันนี้นักวิทยาศาสตร์ปราดเปรื่องมากหลายต่างหันมานับถือพุทธกันมาก นับแต่พวกก่อตั้งทฤษฎีควันธรรม (quantum) มาจนถึง ไอน์ไสตน์ และ สตีฟ จอบส์  เป็นอาทิ

ท่านพุทธทาสภิกขุก็มาเสริมว่า พุทธศาสนาเป็นวิทยาศาสตร์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะประเด็นที่มีเหตุผล และ พิสูจน์ได้ด้วยตนเอง  

แต่วันนี้ผมคิดว่าศาสนามีอะไรมากไปกว่านั้น  มันไม่ใช่เพียงแค่การพิสูจน์ทราบ แต่มันยังมีความเชื่อมาปน  ทั้งความเชื่อแบบจุลภาค และ ความเชื่อแบบมหภาค

คนฝรั่งสะสมการเป็นนักคิดมานานหลายพันปี     คิดหาสาเหตุในสรรพสิ่งต่างๆไปเรื่อย โดยเฉพาะธรรมชาติรอบตัวว่า มันเกิดมาได้อย่างไร   คิดย่อยแยกไปจนกระทั่งมาลงตัวกันที่   “พระเจ้าสร้างโลก”    

การ “ชอบคิด” ของพวกเขานี่แหละ ที่ทำให้เขาเรืองรุ่งกว่าชนเผ่าอื่นมาจนวันนี้

พวกเขาคิดเรื่องนี้กันมานานก่อนศาสนาพุทธ   ส่วนชาวพุทธโดยเฉพาะคนไทยเรานั้น ไม่ปรากฏว่ามีแนวคิดอะไรเลย  (คิดประดิษฐ์ตัวอักษรเพื่อบันทึกความคิดของตนเองก็ยังไม่ได้ ต้องไปลอกมาจากพวกแขกปัลลวะ ขอม มอญ โน่น)  ....อีกทั้งต้องรอให้พพจ. ตรัสรู้แล้วประทานคำสอนมาให้แทนที่จะคิดได้เอง    

ส่วนฝรั่งนั้นเขาคิดหาคำตอบกันมานาน จนตกผลึก  กลายเป็นความเชื่อแบบมหภาคว่า พระเจ้าสร้างโลก แล้วพระเจ้าจะประทานพรให้มีผู้ไถ่บาปมาเกิด (พระมหาไถ่ หรือ Messiah)   เพื่อนำพาพวกเขาไปสู่ความมีชีวิตนิรันดร์  

และแล้วพระไครส์ก็ได้เกิดมา   เพื่อยืนยันความเชื่อมหภาคนั้น...สมดังที่ข้าฯได้ตั้งทฤษฎีไว้นานปีแล้วว่า ความเชื่อนั่นแหละคือความจริง  ดังนั้นห้ามไปลบหลู่ความจริงเป็อันขาด  แต่ความจริงในโลกนี้เปลี่ยนไปได้เรื่อยๆ ตามความเชื่อร่วมสมัยนั่นเอง  เช่นวันนี้เชื่อกันว่าวิทยาศาสตร์คือคำตอบของโลก  ก็หันไปเรียนวิทยาศาสตร์กันมาก  ส่วนไสยศาสตร์มีคนเรียนน้อยลงมาก 

มันน่าแปลกใจมากว่าทำไมประเทศไทยนับถือศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นศาสนาที่สอนให้คนฉลาด  ให้คำนึงถึงเหตุผล แต่ทำไมคนไทยจึงโง่ลงเรื่อยๆ  ในขณะที่คนฝรั่งนับถือศาสนาคริสต์ที่สอนให้คนเชื่อ อย่างไม่ค่อยมีเหตุผลนัก แต่ทำไมประเทศฝรั่งเจริญกว่าเรามาก  

พระฝรั่งจำนวนมาก ก็เอาประเด็น “เจริญกว่า”  นี้มาเป็นจุดขายศาสนาของเขา ทำให้คนไทยพุทธจำนวนหนึ่งเปลี่ยนศาสนาแล้วหันไปเข้ารีตคริสต์ศาสนาแทน

ผมมีความเห็นว่าศาสนาคริสต์นั้นจริงอยู่ เป็นศาสนาที่ตั้งอยู่บนความเชื่อ มีเหตุผลน้อยกว่าศาสนาพุทธ  แต่ความเชื่อดังกล่าวนั้นมันมีฐานมาจากพลังศรัทธาและการยอมรับร่วมกันมาเป็นเวลานานหลายพันปี  ไม่ใช่ความเชื่อลอยๆ 

พระเจ้า พระไครสท์ (บุตรของพระเจ้า)  จึงเป็นศูนย์รวมจิตใจร่วมกันของคนฝรั่งมานานบนรากฐานแห่งความเชื่ออันทรงพลังยิ่งนี่เอง  

ที่คนฝรั่งเขา “เชื่อ”  เรื่องนี้มานาน ไม่ใช้เพราะงมงายอย่างเดียว แต่มันคู่ขนานไปกับการคิดหาเหตุผลในการกำเนิดโลก  กำเนิดตน  ว่ามันมีที่มาอย่างไร ในที่สุด ก็มาถึงทางตัน  ก็ไปจบลงที่พระเจ้า   ...นี่คือหลักฐานแห่งการคิด  แสดงว่าฉลาด  ไมได้โง่งมงายเสมอไป 

พวกแขกอินเดียก็เก่ง คิดไปจนตัน ก็ไปจบที่พระพรหมสร้างโลก 

ส่วนคนไทยไม่คิดอะไรในเรื่องนี้  ยกเว้นคนไทยอีสาน ที่คิดแล้วไปจบที่พระยาแถน  จนต้องส่งบั้งไฟไปบรรณาการตลอดมา     เลยทำให้คนไทอีสานฉลาดที่สุดในบรรดาตระกูลไตด้วยกัน  (แต่วันนี้เพี้ยนไปมาก กลายเป็นโง่ที่สุดไปแล้ว เพราะพันธุกรรมทางความคิดถูกสารพิษการเมือง การตลาดปนเปื้อนมากหลายจนกลายพันธุ์ไปหมดแล้ว  ได้แต่แบมือรับจ้างเดินขบวนไปวันๆ) 

ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่เกิดขึ้นมาแบบที่เรียกว่า ไม่เป็นประชาธิปไตย กล่าวคือ ไม่มีฐานมวลชนสนับสนุนเหมือนศาสนาคริสต์    เป็นศาสนาแบบปัจเจก..หรือนัยหนึ่งแบบเผด็จการ  ที่คนคนเดียว นั่งหลับตาใต้ต้นโพธิ์  ตรัสรู้...ก็สามารถครอบงำคนส่วนใหญ่ได้โดยลามไปจากยอด   ...สร้างยอดก่อนแล้วจึงสร้างฐาน  

แต่ศาสนาคริสต์นั้นเป็นศาสนาที่มีฐานมวลชนมาก่อน  (ความเชื่อดั้งเดิม) มาสนับสนุน แล้วจึงสร้างยอด ที่พระไครสท์  จึงจัดได้ว่าเป็นศาสนาแบบอิงฐานมวลชน  จึงเท่ากับว่าเป็นศาสนา “ประชาธิปไตย”   ยิ่งกว่าศาสนาพุทธ

วิทยาศาสตร์นั้นว่าไปแล้วก็คือความเชื่อแบบปชต. เช่น ส่งจรวดออกไปนอกโลก  ลงดวงจันทร์ ถ่ายทอดให้เห็นกันทั่วโลก  คนก็เลยเชื่อกันแบบรวมหมู่ 

ส่วนการตรัสรู้ธรรมนั้นไม่สามารถถ่ายทอดได้ รู้เฉพาะตน  จึงไม่มีพลังมวลชนหนุนหลัง  มีแต่เสียงลือ  คำสอน  การกล่าวอ้างของพระอรหันต์รูปต่างๆ    (ทั้งจริงและปลอม) 

ชาติหน้าถ้ามีจริง เกิดใหม่ ถ้าให้เลือกเกิดได้ ผมก็ยังขอเกิดเป็นชาวพุทธแหละครับ เพราะผมนั้นเป็นคนนิยมเผด็จการมากว่าประชาธิปไตยอยู่แล้ว อิอิ

...คนถางทาง (๑๐ เมษายน ๒๕๕๖) 

-

หมายเลขบันทึก: 532599เขียนเมื่อ 10 เมษายน 2013 12:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน 2013 12:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

อืมม... เรื่องนี้คนไทยไม่เกี่ยวไหมครับ คริสต์มาจากตะวันออกกลางแล้วไปยุโรป ส่วนพุทธเป็นของอินเดียอยู่นานแสนนานแล้วไปตะวันออกไกลโน่น พึ่งมาถึงแถวตะวันออกเฉียงใต้ไม่นานนี้เอง (เมื่อเทียบกับอายุศาสนา)

ผมว่าศาสนาดั้งเดิมของชนเผ่าแถวนี้ก่อนมีศาสนาพุทธ (และอิสลาม) น่าจะมีอิทธิพลสำคัญต่อความคิดของคนในพื้นที่นี้มากกว่าศาสนาใหม่ที่พึ่งเข้ามาถึงทั้งหลายครับ

อืมม.... (อีกที) จริงๆ แล้วฐานของศาสนาพุทธคือฮินดู หลายคนยังบอกว่าศาสนาพุทธเป็นนิกายหนึ่งของฮินดูที่แตกยอดความคิดออกไปมากเท่านั้นเอง

อืมม.... (อีกสองที) แล้วศาสนาดั้งเดิมที่เข้ามาถึงก่อนพุทธและอิสลามในพื้นที่นี้คือฮินดูซึ่งปัจจุบันก็ยังมีอิทธิพลแทรกอยู่ในความเชื่ออยู่มากครับ


อีกอย่างนะครับ ผมว่าหาพระที่สั่งสอนแบบเป็นภาษาที่พูดให้เข้าใจ ใด้ง่ายๆยากครับ ผมเห็นพระท่านมาก็สวดเป็นบาลี-สันสฤษ แบบโยมไม่รู้เรื่องเอาเลย ไม่ยอมแปลหรือแนะนำโยม ให้ปฎิบัติธรรม หรือบอกว่าเพราะประฏิบัติตัวแบบนี้ จึงเป็นแบบนี้ ถ้ามีพระอย่างพระอาจารย์พยอม หรือพระใหม่อย่างพระมหาสมปอง ที่นำการสอนแบบนี้มาใช้ เราคงใด้คิดอะไรหลายอย่างที่ดีๆนานแล้วครับ อย่างทำไมถึงต้องทำสมาธิ เห็นพระทางบ้านผมเป็นแบบนี้ตรับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท