เป็นที่ยอมรับกันโดยปริยายว่าปัจจุบันสังคมเปลี่ยนไป โลกไร้เพรมแดนอยู่แค่คลิ๊ก
อยู่ที่ว่าจะได้นำพาตัวเองเรียนรู้ได้ทันโลกได้อย่างไร มันจึงเป็นที่มาของทุกข์ ทุกข์ที่เที่ยววิ่งตาม
เหนื่อยและล้าอ่อนแรง กว่าจะได้มา เมื่อได้มาก็แค่ตอบโจทย์ให้สังคมตามความคิดที่เจ้าตัวอยากตอบ
อยากได้ยิน ...ก็หนีไม่พ้นความอยากที่มีในจิต
อยากเป็นโน่น เป็นนี่ อยากเป็นนี่อยากเป็นนั่น
อยากให้คนยอมรับ มากกว่าตัวเองยอมรับคนอื่น
อยากได้นั่นได้นี่ ไม่อยากให้เลย...อันนี้
"อยาก" คำนี้คำเดียวที่ไม่กล้าพูดกัน จึงมี แต่"อยากอยู่นั่นแหละ"
เลยไม่ได้ อย่างที่อยากกันสักที ก็เลยยังอยากอยู่เช่นนี้นี่แหละ
คำว่าอยาก ฟังดูเป็นคำพูดที่ออกจากความรู้สึกที่แท้จริงของผู้พูด เช่น
อยากได้ตุ๊กตา, แม่อยากให้หนูไปโรงเรียน,คุณครูอยากให้หนูอ่านหนังสือทุกวัน
และเป็นที่นิยมของผู้นำประชาชน จำนวนไม่น้อยใช้เป็นคำหวานหว่านล้อมใจประชาชน
ผู้นำประเทศท่านหนึ่งพูดว่า "รัฐบาลอยากเห็นประชาชนอยู่ดี มีสุข"
รัฐมนตรีท่านหนึ่งกล่าวว่า"อยากให้ชาวนาขายข้าวได้ราคา แม้ไม่ขายจำนำก็ยังได้ราคา"
คำว่าอยากจึงแสดงถึงความรู้สึกที่ออกมาจากใจ และยังแสดงถึงความบริสุทธิ์ของความคิด
แม้ว่าคำพูดนั้นอาจถูกใช้ไปในทางที่ผิด ไม่นำพาไปสู่ความปรารถนา ความสำเร็จที่แท้จริงได้ก็ตาม
ความอยากก็ยังอยู่ในใจสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้อยู่นั่นเอง
"อยาก"คือ "ต้องการ"
ต้องการ คือ "Need"
"Need" คือ ความปรารถนา ส่วนจะปรารถนาอยู่ในระดับใดก็สุดแท้แต่จิตของแ่ละคน
และเจตนาของแต่ละคนที่ใช้ Need มีหลายอย่างเช่น Need for speed , Need money now,
Need a job, Need to fine a person for free!
พูดถึง ความอยากนี่แล้วอยากปลีกตัวไปถือสันโดษเสียจริง
ข้อความต่อจากนี้ไป คัดลอกจาก หนังสือธรรมะชุด รวมธรรมะ ชื่อเล่ม"สันโดษ"
สันโดษ มาจากภาษาบาลีว่า "สันโตสะ สันตุฏฐิ" แปลว่าความยินดี ความพอใจ ในของๆตน ในของที่มีอยู่
"พระพุทธเจ้าตรัสทรงแสดงแก่ภิกษุเป็นพื้นคำอธิบายจึงเป็นคำอธิบายสำหรับภิกษุ ซึ่งเป็นผู้สละสิ่งทั้งปวง
ออกบวชแล้วว่า ยินดีด้วยปัจจัย (เครื่องอาศัย) ๔ อย่าง ตามมี ตามได้ "
ส่วนข้อพระธรรมวินัย ๘ ที่พระองค์ทรงแสดงต่อพระนางปชาบดีโคตมีนั้น ความว่า " ธรรมที่เป็นไปเพื่อ
๑ กำหนัดย้อมใจ ๒ ประกอบอยูกับทุกข์ ๓ สั่งสม ๔ อยากได้ ๕ ไม่สันโดษ
๖ คลุกคลีด้วยหมู่คณะ ๗ เกียจคร้าน ๘ เลี้ยงยาก
เหล่านี้มิใช่ธรรม มิใช่วินัย มิ ใช่คำสอนของพระศาสดา
ส่วนธรรมที่เป็นไปเพื่อ
๑ ปราศจากกำหนัดย้อมใจ ๒ ไม่ประกอบกับทุกข์ ๓ ไมใ่สั่งสม ๔ อยากนย้อย หรือมักน้อย
๕ สันโดษ ๖ สงัด ๗ ปรารถความเพียร ๘ เลี้ยงง่าย
ธรรมเหล่านี้เป็นธรรม เป็นวินัย เป็นคำสอนของศาสดา
ขอบคุณค่ะน้องโอ๋-อโณ
โน่น นี่ นั่น บางครั้งก็ทำให้หงุดหงิดใจ
แต่บางครั้งก็รู้สึกดี เพราะโน่น นี่ นั่น
ก็ช่วยให้การทำงานดำเนินไปด้วยดีได้คะ
ขอบคุณข้อคิดดีๆเพื่อใช้สติพิจารณากิเลสแห่งความอยากค่ะ..
ขอบคุณค่ะ พี่ใหญ่