จดหมายถึงครู l จิตวุ่นวาย


จดหมายถึงครู l จิตวุ่นวาย

วันศุกร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2556

กราบสวัสดีค่ะครู

  เช้านี้เมื่อคืนหนูนั่งภาวนากับตนเอง เหมือนอยู่แบบทนอยู่ หุงข้าวไว้เพื่อกะว่ารุ่งเช้าจะเอาไปถวายพระ ข้างในเหมือนเป็นอะไรสักอย่างที่อยากแก้ไขเรื่องแม่ ไม่ใช้แม่ที่เป็นตัวคน แต่เป็นแม่ที่อยู่ในใจหนู เหมือนกับ ทำไมข้างในหนูรู้สึกน้อยใจ เจ็บปวดเวลาถูกตำหนิ

แล้วข้างในหนูก็ยังโทษเรื่องเก่า ซ้ำ ๆ ทั้ง ๆ ที่มันผ่านมานาน เหมือนเป็นเรื่องฝังใจแล้วหาเหยื่อ

ทบทวนนึกย้อนตั้งแต่วัยเรียน ประถมหนูเป็นเด็กเรียนดีแบบไม่ต้องอ่านหนังสืออะไรมากมายชีวิตการเรียนจึงสบาย ๆ เรียนไปเล่นไปเจ้าค่ะ

พอมามัธยมย้ายโรงเรียน

จากพ่อแม่ทำนาก็มาเริ่มขายของ

ตอนนั้นใจหนูคะนอง เห็นการขายของคือ การสร้างรายได้ไม่เห็นต้องเรียนเลยไม่ค่อยสนใจ

เล่นแต่กีฬาไม่สนใจเรียนจนการเรียนตกต่ำ

แต่พอม.ปลายมาฮึกเรียนใหม่ตั้งต้นใหม่ดันตาย

ด้วยเจออาจารย์ที่เป็นแรงบันดาลใจให้อยากเป็นวิศวกร ผนวกกับพ่อแม่ เคยทำงานก่อสร้าง

พอเอ็นติดวิศวะ แล้วสอบภาคสมทบเภสัชติด

หนูร้องไห้ 3 วัน เหมือนเป็นรอยแผล ขุนเคืองที่อยู่ในใจ

นี่คือความชั่วที่ทำให้หนูภาวนาไม่ได้ โทษแม่ ว่าทำให้ไม่ได้เรียนสิ่งที่ชอบ จิตอกตัญู

ทำให้แก้ไขอะไรไม่ได้ มันไม่ลง ต่อต้านหนักจากที่ชอบคำนวณ จิตวกกลับไม่เอาคำนวณ ไม่สนไม่ตั้งใจเรียน

จิตหนูทำแบบนี้ แม่สั่งให่เรียนก็เรียน

แต่ข้างในต่อต้าน

มาตอนนี้ครูสั่งให้ทำ ก็ทำ แต่ข้างในไม่ลง

หน๔พยายามหาคำตอบ หาทางแก้กับตนเองทำยังไงถึงจะลง

หากไม่ทำเลย นั่นคือ การปิดประตูแก้ไขของหนู

ทำแบบที่ผ่าน ๆ มา ผลก็อย่างที่ผ่าน ๆ มาคือ ไม่เจริญ เจ็บทั้งคู่ ทั้งครูและหนู

นึกถึงคำสอนหลวงปู่

“ทำอะไรก็ผิด ถ้าจิตไม่พัฒนา”

หนูถามตนเอง

“พัฒนาจิต?”

วันนี้หนูรู้สึกว่า

หนูเป็นความชั่ว อืม หนูคล้ายรหัสอะไรบางอย่างที่เป็นโจทย์ที่ครูต้องถอดรหัสเสมอ ๆ

อาจจะเป็นอุปาทานของหนูเองเจ้าค่ะ

เรื่องอาทิตย์ ครูเมตตาหนู แล้วค่อย ๆ ถอดรหัสจากหนู

มาตอนนั้นก็น้องภัส

มาตอนนี้ก็โบโซ่

หนูไม่แน่ใจว่า หนูเป็นอะไร

มันจะเป็นอะไรที่เป็นเช่นนี้เสมอ ๆ

จะว่าไปคิดแบบโง่ ๆ ฟุเงซ่าน หนูอาจจะจิตอ่อน

แล้วอะไร ๆ มากระทบแล้วกลืนง่าย

แต่ที่แย่หน่อยคืด หาทางแก้เองไม่เป็น เลยเป็นภาระครูเรื่อย ๆ

แต่ตอนนี้ข้างในวนเวียนทบทวนแต่เรื่องแม่ เรื่องพี่สาว

เรื่องครู

ทำยังไงใจจะไม่ต่อต้าน

ไม่มีอคติ

หากพิจารณาตอนข้างในหนัก ๆ ไม่คลิ๊กแน่ ๆ นาน ๆไปก็รู้สึกกลุ้มขึ้นมาแทนเจ้าค่ะ

เหมือนข้างในหนูปั่นป่วน พอทำวัตรเย็นค่อยรู้สึกผ่อนคลาย สักพัก นองชีพัชสะกิดบอกว่า “กอปวดหัว”

หนูจึงตัดสินใจไปนั่งใกล้ ๆ แล้วชวนนั่งสมาธิ

แม่ชีน้อยค่อนข้างปั่นป่วนเจ้าค่ะ

ระลึกถึงครูว่า “ครูต้องเจออะไรแบบนี้ตลอดเลย แต่ครูก็ไม่เคยบ่น”

หนูรู้สึกข้างในเย็น พอที่จะนิ่งกับตนเองได้แล้วระลึกไปถึงกอ

ลืมตาขึ้นน้องนั่งสมาธินิ่ง เหงื่ออกที่จมูกและศีรษะ

หนูหายใจแบบลืมตา แต่รู้สึกว่าเหมือนกอสบายตัวขึ้น สมาธิที่น้องภาวนาคงช่วย

สักพัก กอขยับเหมือนเหนื่อย ๆ แล้วก็นั่งสมาธิต่อ

หนูทึ่งน้องมากเจ้าค่ะ

เพราะรู้สึกว่า “สู้”

นิ่งไปสักพักสีหน้าดีขึ้น

นาน ๆ ไปเริ่มง่วง เห็นแล้วก็ ทึ่งปนเอ็นดู ความเป็นนักสู้น้อย ๆ พอทำวัตรเสร็จถามดูบอกว่า

“ดีขึ้นแล้ว”

ครูเมตตาชี้ว่า “ทำไมหนูไม่รายงานขอที่ฝากซื้อ”

พอถูกถามและถูกจี้ จิตหนูก็ไปเข้าล็อคเดิม จ้องที่ลมตรงจมูก เหมือนหนีมาหลบเจ้าค่ะ”

เขียนใส่กระดาษไว้แล้วก็ไม่กล้าให้ ต้นไม่ที่ซื้อมาก็ไม่กล้าจะเอาลง

ข้างในก็ปั่นป่วน

ครูเมตตาให้นอนกับเด็ก ๆ จึงนั่งถอดบทเรียน

ฉบับนี้เหมือนเขียน ๆ ๆ ข้างในออกมาก่อน แต่หนูเองก็ยังไม่ได้คำตอบลงใจเจ้าค่ะ

หนูอยากแก้เรื่องนี้ “จิตอกตัญญู”

ตรงนี้แหละที่ทำให้ข้างในกระด้าง แล้วไม่เจริญ

หนูอยากให้อ่อนลง

หลวงพี่ชี้ว่า “มันคิด มันไม่อยู่กับปัจจุบัน”

“กลับมาอยู่กับปัจจุบัน ปล่อยมันซะ พูดง่าย แต่ทำมันยากอยู่ แต่ก็ต้องทำเอา”

สิ่งดี ๆ ครูทำให้ดู ให้เห็นเสมอ ๆ แต่ทำไมใจหนูมันดื้อด้านแท้

เสียชาติเกิดที่เดียวหากชาตินี้ ธรรมไม่ลงใจ

กราบขอขมาและกราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ


คำสำคัญ (Tags): #560405#aar#km
หมายเลขบันทึก: 532260เขียนเมื่อ 5 เมษายน 2013 22:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 เมษายน 2013 22:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท