ต่อจากตอนที่แล้วคำพระว่าปัญญาทั้ง 3 เป็นผู้กำหนดชีวิตความเป็นไปทั้งสิ้นของคน ปัญญาหมายถึงความรู้เพื่อจะแก้ปัญหา แต่วิญญาณแปลว่ารู้แจ้งต่อพฤติกรรมหรือกิจกรรมต่าง ๆ แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ คนมีปัญญาเรื่องใดก็แก้ปัญหาเรื่องนั้น ๆ ท่านผู้รู้กล่าวว่า...ปัญญาประเสริฐที่สุดในบรรดากุศลธรรมทั้งหลาย ดุจแสงสว่างของดวงจันทร์ในวันเพ็ญที่เปล่งแสงสว่างมากกว่าหมู่ดวงดาวทั้งปวง
ปัญญาทั้ง 3 คือ ปัญญาสำเร็จด้วยการฟัง ใครจำอะไรได้มากก็เรียกว่าเป็นคนมีปัญญาแห่งการจำ ปัญญาสำเร็จด้วยการคิดตามเหตุผลความเข้าใจใครคิดสร้างสรรค์อะไรสิ่งแปลก ๆ ได้ก็เรียกว่าเป็นคนมีปัญญาแห่งการคิด และ ปัญญาสำเร็จจากความรู้สึกภายในจิตใจ
การที่เรารู้สึกว่า จิตพอใจ ไม่พอใจล้วนเป็นไตรลักษณ์ แล้วไม่หลงไปยึดถือเป็นอารมณ์ให้เกิดทุกข์ได้นี้เป็นปัญญาคือความรู้ที่แก้ไขปัญหาได้เรียกว่า ปัญญารู้สึก
นั้นคือ...ปัญญาจำ ปัญญาคิด โดยมากใช้แก้ไขปัญหาทางวัตถุ แต่ปัญญารู้สึกใช้แก้ปัญหาความทุกข์ในทางจิตใจ แม้บางครั้งอาจใช้ปัญญาจำปัญญาคิดเป็นพื้นฐานเป็นความรู้เพื่อก่อให้เกิดการปฏิบัติตามดูรู้เห็นความรู้สึกและปัญญาความรู้สึกนี้ทุกคนมีได้เท่าเทียมกัน
กฎแห่งกรรมคือกฎของธรรมชาติแต่อยู่ในรูปของการกระทำ การกระทำเป็นสิ่งสำคัญ โลกจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับการกระทำของคนในโลก ปัญหาทั้งหมดขึ้นอยู่กับคน จะแก้ก็ต้องแก้ที่คนนั้นหรือ
ในทางพระพุทธศาสนาชี้แนะว่า ปัญหาทั้งหมดขึ้นที่การกระทำของคนที่ยังมีกิเลส ดังพุทธภาษิตว่า...คนจะชั่วจะดีเพราะชาติสกุลก็หาไม่ คนจะชั่วจะดีเพราะการกระทำของเขาเอง...
เมื่อแยกกฎแห่งกรรมออกมองใน 3 แง่ดังนี้
1. กฎแห่งกรรมเพื่อให้ได้มาซึ่งวัตถุ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ร่างกายรอดได้ นั้นคือ ทำอย่างไร ได้อย่างนั้น
2. กฎแห่งกรรมเพื่อให้สังคมรอดได้นั้นคือ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
3. กฎแห่งกรรมเพื่อให้จิตวิญญาณรอดได้เป็นการกระทำเพื่อไม่ให้เกิดทุกข์ในจิตใจ ถ้าทำด้วยจิตว่างย่อมไม่เป็นทุกข์ การทำด้วยจิตว่างไม่เรียกว่ากรรม แต่เรียกว่ากิริยา ได้รับผลเป็นปฏิกิริยา ไม่ทำให้เกิดทุกข์
พระพุทธเจ้าตรัสว่า สิ้นกรรมคือสิ้นเวทนานั้นเอง
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม แต่เมื่อจิตอยู่เหนือกรรมเหนือทุกข์จึงหมดสิ้นความเป็นสัตว์โลกนั้นแล.
บรรณานุกรม
พระวรศักดิ์ วรธัมโม. ( 2549 ).ไม่สิ้นไร้สัจธรรม. พิมพ์ครั้งที่ 3 .
สหรัฐอเมริกา : วัดพุทธธรรม เมืองวิลโลบรูค รัฐอิลลินอยส์.
ขอบพระคุณค่ะ อาจารย์ยูมิ "ปัญญาประเสริฐกว่าทรัพย์" จริง ๆ ค่ะ
สวัสดีครับ คุณ ธรรมทิพย์
มีโอกาสได้สนทนาธรรมกับพระคุณเจ้าผู้แตกฉานในธรรมเลยได้มุมคิดนำมาบันทึกครับ รู้ไว้ได้ประโยชน์ครับผม