หมายเหตุ..บทความนี้ผมเขียนไว้แต่ปี ๔๘ แต่อ่านแล้วยังทันสมัย ปีนั้นเพื่อนรักผมเป็น ผบ. ตร. จราจร ปีนี้เพื่อนรักผมอีกคนหนึ่ง เป็นผบ.ตร. แล้ว ..แต่รับรองอะไรๆ ก็คงเหมียนเดิม
ปีใหม่สงกรานต์แต่ละปี การจราจรบนถนนมิตรภาพ จากสระบุรีสู่โคราช ขอนแก่น บุรีรัมภ์ ก็ติดขนัด ผู้คนหงุดหงิดอารมณ์เสีย บางคนด่ารัฐบาลว่าเอาเงินภาษีราษฎรไปทำอะไรหมด
ผมได้สำรวจพบว่าสาเหตุสำคัญประการหนึ่งคือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตำรวจไทย ที่ไปเพิ่มพื้นผิวการจราจร เช่นถนนมี 4 เลน เขาก็คิดกันได้ว่าให้เพิ่มเลนวิ่งทางหนึ่งเป็น 3 เลน ส่วนอีกทางหนึ่งที่สวนมารถมีน้อยก็ลดให้เหลือ 1 เลน
ตรรกะของตำรวจไทยก็คือถ้าเราเพิ่มผิวการจราจรให้มากขึ้นมันก็น่าจะทำให้การจราจรไหลลื่นได้มากขึ้น
แต่ผิดถนัดครับ ยิ่งเพิ่มผิวจราจร จาก 2 เลน เป็น 3 เลน ยิ่งทำให้รถติดหนักมากขึ้น 10 เท่า ....10 เท่านะครับไม่ใช้เท่าเดียว
เหตุผลคือ คุณไม่ได้เพิ่มผิวการจราจรอย่างต่อเนื่องตลอดสาย แต่เพิ่มเป็นบางช่วงเท่านั้น เช่น ช่วงสีคิ้วลำตะคอง ประมาณ 10 กม. จากนั้นก็บีบจาก 3 ให้เหลือ 2 เลน เหมือนเดิม
ไอ้ช่วงบีบกลับนี่แหละครับที่คือสาเหตุสำคัญของการติดขัด
...เพราะรถจากเลนที่สามต้องชะลอตัวลง แล้วเบียดเข้ามาในเลนที่สอง ทำให้รถในเลน 2 เบรคตัว แล้วตีออกไปเลนที่ 1 ทำให้เลน 1 เบรค และหยุดตัวไปหมดทั้งระบบในที่สุด
ถ้าปริมาณการจราจรไม่มากนักผลเสียก็ไม่เท่าไร แต่ถ้าปริมาณรถมากเกินระดับหนึ่ง มันจะส่งผลให้รถติดยาวหลายกิโลเมตรในที่สุด เพราะรถที่ตามมาจะเบรคและหยุดต่อกันเป็นหางยาว พอต้นขบวนออกตัว กว่าที่ท้ายขบวนจะออกตัวได้ก็กินเวลาเป็นชั่วโมง เพราะเสียเวลาในการออกตัวเป็นระลอก
หลักการนี้ไม่ต่างอะไรกับการติดไฟแดง พอไฟเขียวมาทำไมรถคันท้ายๆออกตัวไม่ได้ทันที บางทียังไม่ทันออกตัวไฟแดงมาอีกแล้วก็มี
ผมเคยเผชิญปรากฎการณ์นี้มาด้วยตนเองครั้งหนึ่ง บริเวณลำตะคองที่ตำรวจขยายช่องการจราจรให้เป็น ๓ เลน ระยะทาง 10 กิโลใช้เวลาประมาณ 2 ชม. พอพ้นตรงนี้ ปล่อยกลับให้ถนนเล็กลงเหลือ ๒ เลนดังเดิม แต่การจราจรกลับพุ่งตัวเป็นปกติ วิ่งได้ 100 กม. ต่อชม.สบายๆ
และก็เหตุผลเดียวกันนี้แหละ ที่ทำให้ถนนวงแหวนมอเตอร์เวย์ชลบุรีบางช่วงที่เคยราบรื่นดีพอสมควร ต้องติดหนักในบางครั้ง เพราะดันทะลึ่งไปเพิ่มผิวการจราจรให้เป็น 3 เลน ใน “บางช่วง “ ถ้าทำ ๓ เลนต้องทำตลอดสายอย่าทำเพียงบางช่วง มันจะยิ่งเลวร้ายกว่าเดิมเสียอีก
แบบนื้คือ ค่าโง่ ไม่รู้ว่าใครโง่ ตำรวจ หรือนักวิชาการที่ปรึกษา (ที่กินเงินไปมาก)
ผลพวงอีกประการของการนี้ก็คือ มันทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการเบียดตัว เปลี่ยนเลน ตัดหน้ากันเพิ่มขึ้น และพอชนกัน ก็หยุดมาทะเลาะกัน รถก็ยิ่งติดหนึบมากขึ้นอีก 10 เท่า
อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้รถติดคือช่วงขึ้นเขา (เช่นที่แก่งคอย ขึ้นไปมวกเหล็ก) แล้วรถหนักเช่น รถบรรทุก และ รถโดยสารซึ่งวิ่งได้ช้ามาก ไปวิ่งปิดเลนถนนหมดทุกเลน ในช่วงขึ้นเขาสั้นๆ ๓ กม. นี้ นี้รถจะมาออต่อหางกันยาวหลายกิโล
ดังนั้นตำรวจต้องไปกำกับดูแลเป็นพิเศษในการบังคับให้รถหนักวิ่งเลนซ้ายเท่านั้น ห้ามแซงไปออกเลนขวาเด็ดขาด แต่เฮ้อ...สอนตำรวจไทย สอนไปเหอะ แม่นไมควังร๊อก
อีกเหตุผลคือ การเอาเปรียบกันด้วยการลงไปวิ่งไหล่ถนนด้านซ้าย ลักษณะเหมือนกับขยายเลนจาก 2 เป็น 3 เลนทุกประการ เพราะพอถึงคอสะพาน หรือมีรถจอด วิ่งไปไม่ได้ก็ต้องตีเข้าใน แล้วมาเบียดให้รถบนถนนหลักต้องชะลอตัว หยุด ......ดังนั้นตำรวจควรไปรออยู่ แล้วจับปรับไอ้พวกนี้ให้หนัก (คงได้เงินหลาย เอาเข้าหลวงสักครึ่งนึงเด๊อ)
...ทวิช จิตรสมบูรณ์ (ช่วงสงกรานต์ ๒๕๔๘)
(ปีนั้นผมยังไม่ได้มี คนถางทาง ...๒๕๕๖)
อยากแถมด้วยครับ...ว่ารถพ่วง...รถบรรทุก...หรือรถบรรทุกอ้อยคันใหญ่ๆ...งดวิ่งวันสงกรานต์ได้น่าจะดีนะครับ
ท่านทิม ครับ เรื่องนี้ผมก็เคยเสนอไว้แ้ล้ว เข้าไปเสนอเว็บของ ตร. จราจร เลย ปีนั้นเพื่อนผมเป็นผบ.ตร.จราจรซะด้วยสิ แต่ไม่ได้เืรืื่อง(ตามเคย)