เมื่อครบ ๔๐ ขวบ


    เขาว่ากันว่า ๑๐๐ ปีนั้น ไม่ใ่่ช่เวลาที่เนิ่นนาน ขณะนี้ตีสี่เกือบตีห้า ผมยังไม่ได้หลับ ปล่อยให้คนข้างกายหลับอยู่คนเดียว นึกย้อนหลังไปเมื่อหลายปีก่อน ภาพที่ยังจำได้คือ พ่อกับแม่ออกไปทำงานข้างนอก ย่าไกวเปลให้ผมนอน แปลนั้นทำจากผ้าถุง ผูกโยงกับหลังคาบ้าน ย่าเล่านิทานให้ฟัง ผมถึงกับเชื่อว่าสมัยก่อนสัตว์พูดได้ ภาพต่อมาเด็กน้อยคนนั้นได้เข้าเรียนหนังสือ พี่ๆเขาไปเรียนกันที่โรงเรียนวัดบางผรา แต่ผมได้เรียนที่โรงเรียนวัดพิชัยยาราม แม่ให้เงินพี่สี่บาทต่อวัน และเพิ่มให้อีกหนึ่งบาทเมื่อผมเข้าโรงเรียน เพราะผมได้ห้าบาท พี่ก็ต้องได้ห้าบาทด้วย ผมเดินไปโรงเรียนกับเพื่อนหลายคนในละแวกบ้านเดียวกันทั้งไปและกลับ น่าเสียดาย เพิ่งได้รองเท้าผ้าใบก็เมื่อขึ้น ป.๕ แล้ว ใส่ได้ไม่นานก็ต้องอำลา ภาพถัดมา คุณครูรัตนา สมบัติพิบูลย์ บอกแม่ในวันที่ไปส่งผมเข้าเรียน ป.๑ ว่า "เด็กคนนี้ให้อยู่ห้องฉันนะ" ผมได้อยู่ห้องสอง แต่ลูกพี่ลูกน้องของผมได้อยู่ห้องหนึ่ง โดนครูไสวตีจนมือซ้น ภาพต่อมา คุณครูรัตนา บอกผมว่า ถ้าไม่มีเงินซื้อข้าวก็บอกครูนะ

   ภาพต่อมา เด็กน้อยคนนั้นไปบอกพ่อกับแม่ว่า จะบวชเป็นสามเณร ตามคำบอกของอาจารย์สังวาลย์เพื่อไปขออนุญาตพ่อแม่เสียก่อน แม่บอกว่า อย่าบวชเลย แต่ผมก็ไปวัดและบอกอาจารย์ว่า ผมได้บอกพ่อแม่แล้ว(แต่ไม่ได้บอกว่าแม่ไม่อยากให้บวช) ภาพต่อมา เด็กน้อยคนนั้นไปเรียนหนังสือที่วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย และเริ่มฝึกสอนเมื่ออายุ ๑๕ ปี ภาพต่อมา วัยรุ่นที่สวมใส่ผ้าแตกต่างจากชาวบ้านชาวช่องเขา ขึ้นธรรมาสน์ พูดสิ่งที่ชาวบ้านเขาเรียกกันว่าธรรมะให้คนที่มาวัดในวันส่งตายาย ที่วัดท่ายางกลาง(พิชัยยาราม) เป็นครั้งแรก จำได้ว่า ธรรมาสน์สั่นสะท้าน ชาวบ้านเต็มศาลาหอฉัน คาดว่าไม่ต่ำจาก ๒๐๐ คน และที่ดีใจมากคือ หนึ่งในนั้นมีแม่ของสามเณรนั่งอยู่หน้าธรรมาสน์ด้วย

   ภาพต่อมา เด็กหนุ่มน้ำตาไหลเมื่อเห็นแม่และญาติๆแย่งกันอุ้มผ้าไตรรอบโบสถ์ "ผ้าเหลืองสำคัญขนาดนั้นเชียวหรือ" แม่ใบหน้ายิ้มย่องไม่ขาด เด็กหนุ่มนุ่งห่มผ้าประหลาดแตกต่างจากชาวบ้านก้มกราบอุปัชฌาย์ด้วยความสำนึกในพระคุณ ภาพต่อมา ผู้ที่ชาวบ้านขนานนานว่า "พระ" ไปสอนที่โรงเรียนศรียาภัยในตอนกลางวัน ตอนค่ำสอนหนังสือที่วัด และบางคืนไปเฝ้าอุปัชฌาย์ที่โรงพยาบาลชุมพร รู้สึกได้ว่า ชีวิตช่วงนี้ช่างคุ้มค่านัก คุ้มกับอาหารที่ชาวบ้านเขาให้มาประทังชีวิต ภาพต่อมา พระหนุ่มไปเรียนต่อที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เช้าสอนหนังสือพระเณร บ่ายเรียนจนถึงค่ำ อาทิตย์ไปสอนที่วัดคีรีวง อำเภอลานสกา ภาพต่อมาเดินทางไปรับปริญญาบัตรที่พุทธมณฑลคนเดียว โดยไม่มีญาติคนใดได้รับรู้เรื่องนี้เลย ขากลับก็อาศัยรถเขากลับ ภาพต่อมา พระหนุ่มลงเรือด่วนเจ้าพระยาจากปากเกร็ด ไปขึ้นที่ท่าเรือซังฮี้ ต่อรถไปอำเภอศาลายา เพื่อเรียนหนังสือ ภาพต่อมา พระหนุ่มไปปฏิบัติกรรมฐานที่เขาค้อเพื่ออบรมเป็นธรรมทูตสายต่างประเทศ แต่ไม่อาจอบรมให้เสร็จสิ้นได้ ภาพต่อมาเป็นงานศพอุัปัชฌาย์ที่วัดท่ายางกลาง ภาพต่อมาพระหนุ่มไปสอนหนังสือที่โรงเรียนศรียาภัย โดยคำขอร้องจากเจ้าคณะตำบลตากแดด (ประวิทย์ ติสฺสวโร) และหัวหน้าหมวดสังคม แต่ได้บอกไปว่า ยินดีช่วยเหลือ แต่คงช่วยได้ไม่นาน เพราะชีวิตกำลังระส่ำระสาย วุ่นวายและสับสน ภาพต่อมาทิดสึกใหม่ไปสอนหนังสือที่วิทยาลัยสารพัดช่างชุมพร ก่อนจะลาออกเพื่อไปหาความก้าวหน้าทางโลก ณ เมืองหลวง

   ภาพต่อมา หนุ่มฉกรรจ์ร่างผอม ได้แต่งงานกับหญิงสาวนางหนึ่งพื้นเพจังหวัดสงขลา จดทะเบียนสมรสเป็นที่เรียบร้อยตามสมมติของประเพณีและกติกาสังคม จวบจนบัดนี้ตามสมมติของเวลา ๔๐ ปี ขอกราบขอบพระัคุณบุพพการี (ผู้ทำอุปการะมาก่อนนั้น)ทุกชีวิต ขอให้ท่านทั้งหลายจงมีส่วนแห่งบุญที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคต ขอให้ทุกท่านจงมีแต่ความสุข พ้นทุกข์ทั้งปวง เข้าสู่ความสงบเย็นตลอดเวลา ขอขอบคุณชีวิตนี้ตลอดถึงประสบการณ์ระหว่างมีชีวิตที่ทำให้รับรู้ได้ว่า ชีีวิตนี้มีความหมายบางอย่าง กรรมอันใดที่ได้เคยล่วงเกินในสิ่งใดๆสรรพชีวิตใดๆ ด้วยกาย วาจา ใจ เจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม มีสติหรือเผลอสติก็ตาม ขอกราบอภัยไว้ ณ ที่นี้ ขออย่าได้ถือโทษโกรธเคืองใดๆ 

   เมื่อสี่สิบปีที่แล้วของวันนี้ พ่อต้องวิ่งออกไปให้ไกลจากบ้านจนกว่าไม่ได้ยินเสียงกู่ ขณะที่แม่กำลังคลอดเด็กน้อยคนหนึ่ง เด็กน้อยคนนั้นยังไม่ตาย ชีวิตที่มีอยู่พบทั้งดีและร้าย ทั้งหมดเพียงเพื่อผ่านมาและผ่านไป ที่ผ่านมาพอรับรู้ได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นรอบกับกายนี้บ้าง ส่วนข้างหน้านั้นไม่อาจหยั่งรู้

   ขณะนี้ แม้ผมจะยังไม่หงอก แต่ผิวกายตลอดถึงรูปร่างแตกต่างจากเมื่อก่อนนัก ศีรษะยังคงรักษาต้นตำรับไว้ดี พอจะแข่งขันเปล่งแสงสู้ดวงอาทิตย์ได้ การวิ่งออกกำลังกาย หรือขึ้นตึกสิบห้าชั้นจะให้เหมือนสมัยหนุ่มแน่นนั้นไม่ได้ เริ่มมีอาการเสียวฟันมากเมื่อดื่มน้ำเย็น หักโหมล่วงรุ่งล่วงค่ำเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้ กินอาหารก็ต้องเลือกกิน ดูเหมือนทุกอย่างเริ่มลดลงๆ จากที่ดีกลายเป็นอ่อนด้อย สิ่งที่ดูจะเพิ่มขึ้นคือ การเข้าใจโลกและชีวิต แม้จะไม่ปรุโปร่ง แต่ก็ดีกว่าที่ผ่่านๆมา สมัยเด็กและเป็นหนุ่ม....ขอบคุณชีวิตนี้ที่ได้อยู่ร่วมด้วย สี่สิบปีไม่ได้นานเลย ยังไม่รู้จะได้อยู่ร่วมด้วยอีกสักกี่ปี...

หมายเลขบันทึก: 532014เขียนเมื่อ 3 เมษายน 2013 05:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 ตุลาคม 2015 10:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดนะคะ :)

"ผ้าเหลืองสำคัญขนาดนั้นเชียวหรือ"

ชอบวรรคนี้เหลือเกิน และเป็นคำถามที่ผมเองก็ต้องการคำตอบ...

ขอบคุณบันทึกดีๆครับ

เป็นกิจกรรมที่ดีมากเลยนะคะ การทบทวนตัวเองในวันครบรอบแบบนี้ เป็นชีวิตที่มีคุณค่าดีจังค่ะ เวลาที่เหลือคือกำไรชีวิตแล้วนะคะนี่

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท