กิจการผู้สูงอายุไทย ภาคเอกชน
ดร.สมัย เหมมั่น กิจการผู้สูงอายุไทย ภาคเอกชน

บ้านในฝันวันนี้


โดย : drsamaihemman , 07:56:42 น. ผู้อ่าน 112
แบ่งปัน พิมพ์หน้านี้
 
ชอบ (0)
 
 
 
 

 

บทสรุป การจัดสรร โครงการสิวารัตน์ 9  บ้านสวย ราคาประหยัด วันนี้ที่บางบัวทอง

 

ราคา เริ่มต้นที่ 1,300,000-   ติดต่อที่คุณเขมภณ  ผจกและน้องๆน่ารักทุกคนที่โครงการสิวารัตน์ ใก้ลที่ไหนไปที่นั่น  โทร 02-8011802-6

 บทสรุปผู้บริหารธุรกิจ  บริษัท เอกธนา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็น บริษัทฯในเครือ ของ บริษัท คาสเซ่อร์พีค เรียลเอสเตท จำกัดและบริษัท คาสเซ่อร์พีค โฮลดี้งส์ จำกัด(มหาชน) เริ่มต้นพัฒนาในปี พ.ศ. 2531โครงการสิวารัตน์ 1 ถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นที่พักอาศัย ประเภทบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 350 หลังคา และบ้านทาวเฮาส์ จำนวน 149 หลัง เป็นโครงการแรก และเคยพัฒนามาแล้วทั้งทาวเฮาส์ ออฟฟิศ บ้านเดี่ยวระดับกลาง-ระดับบน และที่พักอาศัยระดับล่าง พ.ศ. 2533 เริ่มโครงการที่ สิวารัตน์ 2 ถนนพุทธมณฑลสาย 5 เป็นที่พักอาศัยประเภท ทาวเฮาส์จำนวน 850 หลัง พัฒนาแล้วเสร็จ ในเวลา 3 ปี  อยู่ภายใต้แบรน “สิวารัตน์” เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยประเภทบ้านทาวเฮาส์ ในชาลเมือง ในปี  พ.ศ. 2535 เริ่มโครงการใหม่ โครงการ สิวารัตน์ 3 บนถนน พุทธมณฑลสาย 5  เป็นที่พักอาศัยประเภท ทาวเฮาส์ 2 ชั้น จำนวน1,500. หลังและ อาคารตึกแถว 3 ชั้น จำนวน 500 หลัง พัฒนาแล้วเสร็จ รวม 4 ปี   ปี พ.ศ. 2539 เริ่มโครงการสิวารัตน์ 4  บนถนน วัดเทียนดัด เป็นที่พักอาศัยประเภท ทาวเฮาส์ จำนวน 450 หลัง พัฒนาแล้วเสร็จในปี 2541  ปี พ.ศ. 2541 เริ่มโครงการสิวารัตน์ 5 บนถนนพุทธมณฑลสาย 4 เป็นที่พักอาศัยประเภททาวเฮาส์ หน้ากว้าง  6 เมตร แบบใหม่ ที่เดิมทั้งโครงการทำแบบ หน้ากว้าง 4 เมตรตลอดมา จำนวน 1,200 หลัง พัฒนาแล้วเสร็จ ใน3 ปี   ปี พ.ศ. 2544 เริ่มโครงการสิวารัตน์  6  บนถนนสายวัดไร่ขิง 36  เป็นที่พักอาศัยประเภททาวเฮาส์  6 เมตร จำนวน 840 หลัง  พัฒนาแล้วเสร็จ ใน 3 ปี   ปี  พ.ศ. 2548 เริ่มพัฒนาโครงการสิวารัตน์ 7  บนถนน ศาลายาบางบัวทอง เป็นที่พักอาศัยประเภทบ้านเดี่ยวจำนวน 150 หลัง  พัฒนาแล้วเสร็จใน 2 ปี   ปี  พ.ศ. 2550  เริ่มพัฒนาโครงการ สิวารัตน์ 8 บนถนนเพชรเกษม หน้า ฟาร์มจระเข้ สามพราน เป็น ที่พักอาศัยประเภท ทาวเฮาส์ หน้ากว้าง 6 เมตร จำนวน 400 หลัง พัฒนาแล้วเสร็จ ในระยะเวลา 3 ปี   ปี พ.ศ. 2552 เริ่มการพัฒนาโครงการ สิวารัตน์  10  บนถนนบางแขม ศาลากลาง เป็นที่พักอาศัย ทาวเฮาส์ 2 ชั้น จำนวน  350  หลัง  พัฒนาแล้วเสร็จจนถึง ปัจจุบัน นาง อารี เต็มพิทยาคมกรรมการผู้จัดการ ได้มอบอำนาจให้ ดร. สมัย  เหมมั่น เสนอแนะโครงการใหม่ และเตรียมพื้นที่โครงการโครงการสิวารัตน์ 9 โดยโครงการสิวารัตน์ 9  นั้นให้จัดสรรในนานของบริษัทฯในเครือ คือ บริษัท  เอกธนา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด  ที่อยู่ และสำนักงานเดี่ยวกันกับบริษัท คาสเซ่อร์พีค จำกัด  899 ถนนเพชรเกษม แขวง บางแค เขต บางแค  กรุงเทพมหานคร  

           ลักษณะโครงการ สิวารัตน์ 9  เป็นที่พักอาศัย  เนื้อที่ดิน  36 ตรว.  ประเภทบ้านแฝด 2 ชั้น  จำนวน 199  หลัง  ที่ตั้งโครงการ หมู่ 11 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
         
 
        สาเหตุ ผลที่เลือกที่ตั้งทำเล ที่ดิน และเลือกแบบบ้านแฝด
      ทั้งนี้ บริษัท คาสเซ่อร์พีค เรียลเอสเตท จำกัด และบริษัทในเครือ  บริษัท เอกธนา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ก็เป็นบริษัทในเครือ บริษัท คาสเซ่อร์พีค โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)  กรรมการและผู้บริหาร คนๆเดี่ยวกัน ที่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทุกรูปแบบ ทั้งทาวน์เฮาส์ ออฟฟิศ อาคารชุด ที่อยู่อาศัยระดับบน-ระดับกลางและระดับล่าง มีการพัฒนาไปในหลายรูปแบบ เพราะตอนนั้นเคิดว่า ในเมื่อเราอยากเป็นนักพัฒนา น่าจะพัฒนาได้ในทุกเซ็กเม้นท์ นั่นเป็นความคิดที่เกิดขึ้นมาในช่วงของก่อนปี 2540
 
                โอกาสกลยุทธ์  แต่หลังจากปี 2540 ความคิดในการพัฒนาของก็เปลี่ยนไป เพราะวิกฤตทำให้มองเห็นถึงเซ็กเม้นท์ของลูกค้ากลุ่มนี้ได้ชัดเจน เพราะช่วงวิกฤตเป็นช่วงที่ขาดซึ่งความเชื่อมั่น โดยเฉพาะเซ็กเม้นของความต้องการของผู้บริโภค ระดับ กลางและระดับล่าง แต่ลูกค้ากลุ่มที่ซื้อทาวเฮาส์ ในเมืองมีความต้องการเหนียวแน่น มีกำลังซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ก็เลยกำหนดเป็นทิศทางของบริษัทหลังผ่านวิกฤตที่จะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มนี้เป็นหลัก
            ดังนั้นในอนาคต ถ้าจะต้องมีวิกฤตใหม่เข้ามาก็มีความมั่นใจ ที่จะสามรถใช้กลยุทธ์ ด้าน ราคา ต้นทุน คุณภาพที่รับได้  ต้นทุนที่ราคาถูกกว่า  ราคาก่อสร้างที่ถูกกว่า แรงงานที่ควบคุมได้ทำให้ราคาต้นทุนต่ำกว่า
 
ทำไมความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ไม่หายไปตามวิกฤต แล้วแบลน   สิวารัตน์  ที่รู้จักในฐานะผู้พัฒนาที่พักอาศัยที่ราคาถูก บ้านเดี่ยวราคาถูก  ทาวเฮาส์ราคาถูก  บ้านแฝดราคาถูกในเมืองและ ชาลเมือง มีประสบการณ์ที่ยาวนาน
 
                ลูก ค้ากลุ่มที่กำหนดไว้เป็นลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองเห็นถึงความจำเป็นของที่อยู่อาศัย เป็นกลุ่มของเจเนอเรชั่นเอ็กซ์ ต้องการความเป็นอิสระของชีวิต พึ่งตัวเอง ต้องการความคุ้มค่าของตัวโปรดักส์มากกว่าซื้อเพราะมีความต้องการ และให้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการจริง ๆ ไม่ใช่เป็นเรื่องของมาร์เก็ตติ้งที่เข้าไปผลักดันให้เขาต้องการ
 
                การพัฒนา โปรดักส์ ของ โครงการสิวารัตน์   ก็จะต้องออกมาเพื่อเซิร์ฟกับคนกลุ่มนี้โดยตรง พยายามหาคำตอบว่าราคาที่คนกลุ่มนี้ต้องการคือจุดไหน เขาต้องการอะไร ความคุ้มค่าของเขาอยู่ที่ตรงไหน การทำงานเพื่อจับกลุ่มลูกค้ากลุ่ม
นี้มาตลอดเลยก่อให้เกิดเป็นแบรนด์ของบริษัทขึ้นมา จากตัวสินค้าของบริษัทคาสเซ่อร์พีค จำกัด ตั้งแต่ช่วงวิกฤตและเริ่มติดตลาดประมาณปี 2542-2543 แต่มามีอิมแพคแรงมากประมาณช่วงปี 2544-2545 จากโครงการต่าง ๆ ที่เราเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทุกคนมองเห็นเลยว่า ถ้าเป็นโครงการของแบรนสิวารัตน์  แล้ว ราคาถูก ทำเลดี สินค้าออกมาเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ มีบริการดี มีการดูแล มีการเข้าไปจัดการ การบริการหลังการขายถือว่าเป็นหัวใจสำคัญด้านการตลาดของ สิวารัตน์  เป็นอันดับหนึ่งเลย
 
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นและนำไปสู่แบรนด์ที่แข็งแกร่งในปัจจุบันจะเห็นว่า การพัฒนาของบริษัท เอกธนา พร็อพเพอร์ จำกัด และบริษัทในเครือ   นั้นได้ใส่ใจกับคุณภาพของงานที่ทำอยู่ ทั้งเข้าใจ ลูกค้า เรื่อง ทำเล  ราคาถูก  ตอบสนองลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เน้นให้คุณภาพงานที่จะส่งมอบให้ลูกค้า
 
ข้อมูลที่เรานำมาใช้พิจารณาเพื่อพัฒนาเซ็กเม้นที่พักอาศัย ทาวเฮาส์ ในเมืองและชาลเมือง เป็นข้อมูลจากที่อยู่อาศัยทั้งตลาดหรือพิจารณาจากกลุ่มสินค้าเฉพาะที่บริษัทพัฒนาเอง
 
 
 
                เราพิจารณาจากยอดขายในกลุ่มสินค้าของบริษัท ไม่ได้ดูจากเซ็กเม้นท์ในตลาด เพราะตอนนั้นตลาดวาย คุณดูจากตลาดไม่ได้ เพราะหาตลาดไม่ได้ ต้องเช็คกับตัวเองเลยว่า มันเป็นอย่างไรบ้างกับกลุ่มลูกค้าของคุณที่กำลังเข้ามา
 
หลายบริษัทก็หันมาพัฒนาเรื่องแบรนด์กันมากขึ้นโครงการหมู่บ้านจัดสรรก็จัดทำเช่นกัน
 
จากการเรียนรู้ในช่วงของเหตุการณ์ ปี 2540 ที่ผ่านมา ที่ทุกคนก็เริ่มเห็นว่ามันมีความสำคัญ การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่
                ก่อนหน้านี้เรามีความรู้สึกว่า บริษั?มทำอะไรลูกค้าก็ซื้อโปรดักส์ออกมาถูกต้องลูกค้าก็ซื้อ แต่ในช่วงระยะหลัง การพัฒนาเกิดขึ้นมาจากการพัฒนาของลูกค้าด้วย ลูกค้าก็มองเห็นถึงความสำคัญของผู้พัฒนาด้วย เพราะเหตุการณ์วิกฤตมันก็ได้สร้างวิกฤตให้แก่ทั้งผู้พัฒนากับลูกค้าด้วย ผู้พัฒนาหลายรายเสียหายก็ทำให้โครงการมีปัญหา ลูกค้าก็ซัฟเฟอร์เยอะ เมื่อผ่านเหตุการณ์นั้น ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าเริ่มต้องมองดูถึงตัวดีเวลลอปเปอร์ด้วย ทำให้ระยะหลังโครงการที่ทำออกมาจำเป็นต้องสร้างเสร็จก่อน เพราะว่าลูกค้าเกิดความไม่เชื่อมั่นใจนักพัฒนา
 
อย่างของ สิวารัตน์ ก็ยิ่งต้อง พัฒนา มากขึ้น เพราะสิวารัตน์ ไม่ได้สร้างก่อนขาย แต่ สิวารัตน์ ขายก่อนสร้าง เรื่องของคอมมิทเม้นท์ของเราต้องถูกต้องแม่นยำและไม่เผื่อ
 
                สมัยก่อนเราทำงานแต่ละโครงการสิวารัตน์ จะต้องเผื่อโครงการไม่เสร็จสัก 5-6 เดือน แต่สมัยนี้ไม่ได้ เสร็จคือเสร็จไม่มีคำว่าเผื่อ คนจะต้องถูกกดดันจากเวลา คุณภาพ การส่งมอบ แต่ก่อนถ้าถามว่าคุณคิดว่าเสร็จไหม อาจจะตอบว่าก็คิดว่าน่าจะเสร็จ แต่ปัจจุบันไม่มี มีแต่ต้องบอกว่าเสร็จ และไม่มีเหตุผล คุณจะอ้างเหตุผล ปัญหาจากโน้นนี่ไม่มี ก็จะเกิดวิธีการคิดการทำงานใหม่ ที่จะไดร์ฟทุกคนใหม่ นี่คือผลที่เกิดขึ้น
เท่าที่ดูผลประกอบการครึ่งปีแรก เห็นชัดเจนว่า คนที่พัฒนาแบรนด์ชัดเจน 6-7 อันดับแรกมีแบรนด์ทั้งนั้น อย่างนี้ต่อไปนักพัฒนาแต่ละรายต้องพยายามพัฒนาแบรนด์ของตัวเองทั้งหมด

                เขาก็อาจจะเป็นนักพัฒนารายย่อย ถามว่ายังเกิดได้ไหม ผมก็ว่ายังเกิดได้ แต่เกิดแล้วใหญ่ไม่ได้ ก็คือลูกค้าเองก็อาจจะมีอยู่กลุ่มหนึ่ง แต่ว่าลูกค้าก็มีหลายประเภท ประเภทติดแบรนด์ก็มี หรือประเภทต้องการอะไรที่ไพร์ซซิ่งถูกใจ โลเกชั่นตรงนั้นพอดี แต่โครงการที่เกิดขึ้นคงไม่ใหญ่ ก็คงจะเป็นโครงการที่จบในระยะสั้น จะมาแล้วหายไป เจ้าของที่ดินมีแค่นี้พัฒนาขึ้นมาเองแล้วจบ
 
                     สำหรับ  บริษัท เอกธนา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดและบริษัทในเครือ  มีจุดแข็งในด้านการพัฒนาการก่อสร้างทาวเฮาส์ หน้ากว้าง 4 และ 6 เมตร มีความชำนานในงานเป็นอย่างมาก

กิจกรรม ส่งเสริมการขายของน้องๆ

คำสำคัญ (Tags):
หมายเลขบันทึก: 530344เขียนเมื่อ 6 มกราคม 2013 08:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มกราคม 2013 17:55 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท