ระบบการเรียนเพื่อ PhD ของออสเตรเลียจะไม่เหมือนกับที่สหรัฐอเมริกา หรืออังกฤษตรงที่เราจะต้องรอผลการตรวจวิทยานิพนธ์หลังจาก submit thesis ไปแล้วเป็นเวลาประมาณ 5-6 เดือน หลังจากนั้นถ้ามีการแก้ไขก็จะยืดเยื้อไปอีกจนอาจจะเป็นเกือบปี
ปริญญายังมาไม่ถึงเมืองไทย แต่กระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้วโดยสมบูรณ์ ตัวเองใช้เวลาทั้งสิ้นเกือบ 1 ปีทั้งๆที่ thesis มีการแก้ไขเพียงตัวพิมพ์ผิด 2 ที่เท่านั้น เวลาที่ใช้ส่วนใหญ่คือการติดต่อเรื่องเอกสาร การเซ็นเอกสารกลับไปกลับมา สำหรับสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเรียนปริญญาเอกที่ The University of Western Australia คงจะได้นำมาเล่า วิเคราะห์วิจารณ์ในโอกาสข้างหน้านะคะ
แต่สิ่งสำคัญที่จะเน้นในบันทึกนี้ก็คือ เป็นการขอบคุณน้องๆพี่ๆ ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ที่โน่น เราให้กำลังใจกันและกันอยู่เสมอ ถือได้ว่าทุกคนมีส่วนในการที่ทำให้ได้มาถึงวันนี้ จึงขอนำบทกลอนจากคุณ Ann Davies มาฝากค่ะ
We all have to lose sometimes
before we can win,
We have to cry sometimes
before we can smile,
We have to hurt
before we can be strong,
But if you keep on working
and believing,
you'll have victory
in the end.
ขอยืนยันว่า เป็นจริงทุกประการค่ะ
But if you keep on working
and believing,
you'll have victory
in the end.
สำหรับผมเมื่อไหร่จะได้มีโอกาสได้เรียน PhD ก็ไม่รู้นะครับ...แต่ก็มีโอกาสดีที่ได้เรียนรู้ร่วมกัย นศ.PhD หลายๆท่านใน Gotoknow ก็ถือว่าโชคดี
ชอบบทนี้เช่นเดียวกันครับ
But if you keep on working
and believing,
you'll have victory
in the end.
...........................................
คุณไมโตฯ อ่าน working เป็น walking หรือเปล่าคะ
ทำไม่ยอมหยุด เชื่อมั่นว่าทำได้ จะไปไหนก็ถึงค่ะ จริงไหมเอ่ย
วันนี้ สองสาวน้อย น้องฝน น้องฟ้ามาตีแบดอยู่หน้าแฟลตพี่ เจ้าตัวเล็กเก่งมากเลย ตีลูกถูกตลอด แต่รับไม่ได้ เจ้าตัวโตก็น่ารัก คอยเสิร์ฟให้น้อง ทำไปบ่นไป หัวเราะไป มีพี่หยีกับพี่หยกและป้ามาเป็นโคชค่ะ (ขอเล่าส่งข่าวในบันทึกพี่เอง ให้คุณพ่อหายคิดถึงหน่อยนะคะ)
ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวให้อ่านคะ เขียนมาอีกนะคะ นิวจะได้รู้เป็นประสบการณ์ไว้ด้วยคะ ขอบพระคุณคะ
สวัสดีค่ะคุณโอ๋-อโณ
ระบบการ submit thesis และรอผลการตรวจของที่ออสเตรเลียนานจริงๆ ค่ะ มีเพื่อนทั้งที่กลับบ้านไปเลยหลังจาก submit และมีบางคนที่ทำงานรอ และรอด้วยความลุ้นระทึกว่าผลจะเป็นอย่างไร
นึกถึงคราวตัวเองมั้งแล้ว คงสยอง
อ่านมาถึงค.ห. คุณ Mitochondria แล้วขำกลิ้งดีจัง ไม่ได้ขำน้องฝน ขำคุณพ่อ ที่อึ้งไปหลายครั้ง ฮ่าฮ่า ^__^ ชอบใจๆ
อ่านบันทึกนี้แล้วรู้สึกดีค่ะ ขอเสริมนิดนึงจากพี่มัยนะคะ อย่าว่าแต่คนไทยที่เครียดเลยฝรั่งก็เครียดเหมือนกันเมื่อโดนถามบ่อยๆ จนเค้าทำเสื้อออกมาเหมือนกันเขียนว่า Don't ask me about my thesis. เค้าทำส่งมาให้ตัวนึงเหมือนกัน ยังไม่ได้ใส่เลย ถ้าพี่ทำเสื้อ screen ออกมาน่าจะดีนะใส่ตอนที่คนชอบถามกันจัง จะได้ไม่ต้องตอบหลายรอบ :D
สวัสดีค่ะคุณโอ๋-อโณ
เข้าใจแล้วค่ะว่ากว่าจะได้ส่งเล่ม และ Approved ลำบากขนาดไหน แต่มาขำตรงเสื้อDon't ask me about my thesis ค่ะ อยากได้สักตัวจัง ^_^
ดีใจด้วยกับอ.อ้อม อาจารย์ อ้อม ฐิติรัตน์ สุวรรณสม นะคะ นี่แสดงว่าได้กลับบ้านเราแล้วใช่ไหมคะ มิน่าเห็นในอนุทินด้วย ส่งเสร็จแล้ว โอกาสที่จะเรียบร้อยก็ใกล้ๆ 100% นั่นแหละค่ะ น้องๆที่ตามมาทุกคนก็ได้รับปริญญากันเรียบร้อยค่ะ ช้าเร็วเท่านั้นเอง สบายใจได้ค่ะ เรื่องเสื้อก็...พอผ่านไปแล้วก็เป็นเรื่องขำจริงๆ คนละความรู้สึกกับตอนรอเลยค่ะ