Weekly meeting สคส. วันนี้..เริ่มด้วยการ review หนังสือ How to Think Like Leonardo Da Vinci ในหลักปฏิบัติข้อที่ 3 ของ Leonardo Da Vinci คือ Sensazione ผู้นำเสนอคือ 3 สาวคนสวยแห่ง สคส. ซึ่งก็คือ พี่อ้อ (อารีย์) น้องนุ่น (ธัญรดา) และ น้องนุ้ย (ศุภมาศ) หลักข้อนี้เป็นเรื่องของการรับรู้จากประสาทสัมผัสต่างๆ ที่ Da Vinci ถือปฏิบัติในในการดำเนินชีวิต การนำเสนอในวันนี้สร้างความสนุกสนานปนกับความสงสัยให้กับผู้ร่วมประชุมมาก...ที่สงสัยเพราะ การปฏิบัติของ Da Vinci ที่ระบุไว้ในหนังสือเล่มนี้เป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่......ประเด็นสำคัญที่ดิฉันได้จากการนำเสนอในวันนี้คือ
ประสาทสัมผัสที่แสนละเอียดอ่อนของ Da Vinci ซึ่งเป็นความคุ้นชินในการดำรงชีวิตประจำวันของเค้านั้น เช่น
การมองเห็น : แม้ว่าแสงจะเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ฉันก็รู้สึกได้
การได้ยิน : ฉันสามารถบอกได้ทันทีว่าดนตรีที่กำลังเล่นนั้นผิดคีย์
การได้กลิ่น : ฉันสามารถบอกได้ถึงคุณภาพของอาหารหรือไวน์จากกลิ่นหอมของมัน
การรับรส : ฉันรับประทานอะไรเข้าไปแล้ว บอกได้ว่าใช้อะไรเป็นเครื่องปรุงรส
การสัมผัส : ฉันรับรู้ถึงความรู้สึกที่เกิดจากการสัมผัสกับพื้นผิวของสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวประจำวัน เช่น เก้าอี้ โซฟา เบาะรถที่ฉันนั่ง
นี้เป็นเพียงบางส่วนที่ Da Vinci ถือปฏิบัติ......แต่มีการปฏิบัติหนึ่งของ Da Vinci ที่ดิฉันถือว่าน่าทึ่งกับความละเอียดอ่อนขนาดนี้ เรื่องมีอยู่ว่า
"เวลาที่ Da Vinci ทำอาหาร เค้าจะสัมผัส ดมกลิ่น พิจารณา เครื่องปรุงต่างๆ เหล่านั้นก่อน...แล้วจึงค่อยๆ หั่น หรือจัดการกับเครื่องปรุงเหล่านั้น...ในขณะปรุงก็จะคอยสังเกตและดมกลิ่นเมื่อเครื่องปรุงเหล่านั้นคลุกเคล้า ผสมผสาน กันจนกลายเป็นอาหารที่ปรุงสำเร็จ ก่อนรับประทานก็จะมอง สังเกต ดมกลิ่น ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ขณะรับประทานก็จะพินิจพิเคราะห์ถึงอาหารที่อยู่ในปากนั้นเป็นการเสพความสุขในขณะรับประทานอาหาร"
นี้เป็นเพียงบางส่วนที่ดิฉันเรียบเรียงได้จากการนำเสนอในครั้งนี้ ซึ่งถ้านำการปฏิบัตินี้มาโยงเข้ากับ KM แล้วจะเห็นว่า..การปฏิบัติในการดำเนินชีวิตของ Da Vinci นี้ แสดงให้เห็นว่า Da Vinci เป็นผู้มีความใฝ่รู้ ช่างสังเกต และละเอียดถี่ถ้วน ที่ฝังลึกอยู่ในจิตวิญญาณ จึงได้สะสมความรู้ต่างๆ เหล่านี้ทุกวัน..ทุกวัน เลยทำให้ Da Vinci เป็นคนที่มีความรู้ฝังลึกอยู่ในตัวสูงมาก....สิ่งนี้จึงน่าจะทำให้ Da Vinci กลายเป็นอัจฉริยะในที่สุด
ไม่มีความเห็น