สัญญาณอันตราย บทความของอาจารย์วิจารณ์


เศรษฐกิจที่ดูดีในขณะนี้ มันซ่อนของเน่าเสีย หรือลมที่ว่างเปล่า ไว้ข้างใน เหมือนเมื่อปี ๒๕๓๘ - ๒๕๔๐ หรือไม่

สัญญาณอันตราย

ผมมีความเห็นว่า ความตื่นตัวต่อสัญญาณอันตรายเป็นธรรมชาติที่มีคุณต่อชีวิตบุคคล  และระบบเตือนภัยของบ้านเมืองเป็นเรื่องสำคัญต่อความมั่นคง

ผมจำได้ว่า ช่วงปี ๒๕๓๘ - ๒๕๔๐ ช่วงก่อนวิกฤตเศรษฐกิจ ที่ประเทศไทยล้มละลาย  มีคนออกมาเตือนเรื่องฟองสบู่เป็นระยะๆ  และจะโดนผู้บริหารบ้านเมืองสมัยนั้นด่าว่า ว่าบ่อนทำลายบรรยากาศการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ  ที่จำได้แม่นยำที่สุดคือ นายกฯ บรรหาร

บทความ Rectify Financial Imbalances Before It’s Too Late โดย ทนง ขันทอง  ใน นสพ. เดอะ เนชั่น วันที่ ๑ มี.ค. ๕๖  บอกเราว่ามีสัญญาณอันตรายหลายอย่าง  เช่น นโยบายประชานิยม ทำให้หนี้สาธารณะพุ่งสูงขึ้น  นโยบายก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และนโยบายประชานิยม ทำให้มีการใช้จ่ายภาครัฐในโครงการใหญ่ๆ  ธนาคาร เอสเอ็มอี และธนาคารอิสลาม ซึ่งเป็นธนาคารของรัฐ มีหนี้เสียรวมกัน ๘ หมื่นล้านบาท  ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร มีหนี้จากการรับจำนำข้าวและโครงการอื่นๆ ของรัฐบาล ๖ แสนล้านบาท

หนี้ครัวเรือนพุ่งขึ้นเป็น ๒.๙ ล้านล้านบาท จากการสนับสนุนของรัฐบาลด้วยโครงการประชานิยม

ผมอ่านแล้ว สงสัยว่า เศรษฐกิจที่ดูดีในขณะนี้  มันซ่อนของเน่าเสีย หรือลมที่ว่างเปล่า ไว้ข้างใน เหมือนเมื่อปี ๒๕๓๘ - ๒๕๔๐ หรือไม่

แต่ที่วิตกอย่างยิ่ง คือ มันเปลี่ยนใจคนไทย เปลี่ยนมาตรฐานจริยธรรม  ให้ถือว่าการคอรัปชั่นทรัพย์สมบัติส่วนรวมเป็นเรื่องปกติ

วันที่ ๒ มี.ค. ๕๖ มีโอกาสพบผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่รู้เรื่องการรับจำนำข้าวดี และเป็นบุคคลน่าเชื่อถือ  ท่านบอกว่าเขาไม่ได้จริงจังกับการขายข้าวที่รับจำนำมา  แต่จริงจังกับการปั่นเพื่อให้เกิดกิจกรรมที่เงินไหลเข้ากระเป๋าคนบางคนมากกว่า  ผมไม่มีพื้นความรู้พอที่จะเข้าใจเรื่องเหล่านี้  จึงฟังหูไว้หู ไม่ปักใจเชื่อเสียทั้งหมด  แต่ก็เป็นห่วงบ้านเมือง

วิจารณ์ พานิช

๑ มี.ค. ๕๖ ปรับปรุง ๓ มี.ค. ๕๖

สวัสดีครับ อาจารย์วิจารณ์

ผมเป็นคนหนึ่งที่วิตกเช่นอาจารย์ครับ เรียนตามตรงว่ากลัวและเป็นห่วงชาติบ้านเมืองจริงๆครับ ก็ยังโชคดีที่ยังทำใจได้ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิมีจริง คนที่ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ จะต้องได้รับผลที่ตัวเองก่อ และคนทำความดีจะต้องได้รับการปกป้องหรือได้รับผลกระทบที่น้อยกว่าคนทั่วๆไป  ทำให้ไม่หมดกำลังใจพยายามทำในสิ่งที่คิดว่าดีที่สุด อะไรจะเกิดก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามนั้น เป็นวิบากกรรมของคนไทย แต่ก็ไม่ใช่ปล่อยไปตามยถากรรม ก็ต้องช่วยกันผนึกกำลังเพื่อช่วยกันแก้ไขสิ่งไม่ถูกต้องให้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ส่วนจะทำได้แค่ไหนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

[email protected]

ป.ล.ผมเข้าไปในบันทึกของอาจารย์ http://www.gotoknow.org/posts/521198 และได้แสดงความเห็นของผมตามข้างบนแต่ไม่สามารถจัดเก็บข้อมูลได้ ให้ผมใส่ user ซึ่งผมก็ เข้าในระบบอยู่แล้วและไม่มีที่ให้ผมเข้าระบบ แต่เมื่อผมมาเปิดบันทึกนี้ จึงสามารถบันทึกในเวปของอาจารย์ได้ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร เดี๋ยวนี้มีอากรไม่ปกติปล่อยมากๆ
หมายเลขบันทึก: 521283เขียนเมื่อ 4 มีนาคม 2013 10:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 มีนาคม 2013 10:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สมควรยุบกระทรวงพลังงาน ความรู้น้อย ปัญญาน้อย   "ควรสนับสนุนคนที่รักชาติไทยและจะทำประชาชนคนไทยได้รับความเป็นธรรมด้านพลังงานมาบริหารจัดการพลังงานของชาติเถอะครับ"   โดยเฉพาะต้อง   "ยกเลิกกองทุนน้ำมัน"    เวลาน้ำมันถูก-แพง นั้นให้ประชาชนรับผิดชอบเอง  สำหรับ    "กองทุนน้ำมันมีไว้อุ้มกลุ่มคนบางกลุ่มและผู้ได้ประโยชน์จากเงินกองทุนน้ำมัน"   เลิกอยุติธรรมเสียทีเถิด พอได้แล้ว ละอายได้แล้วครับ ครับ ครับๆๆๆๆๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท