เมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ที่ผ่านมา นางสาวศิวนุช สร้อยทอง นักศึกษาปริญญาโทสาขากฎหมายอาญาคณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ข้าพเจ้า และกลุ่มแรงงานต่างด้าวผู้ผ่านการพิสูจน์สัญชาติกับประเทศต้นทางแล้ว ประกอบไปด้วย ครอบครัวน้องหม่อง ทองดี คุณพ่อคุณแม่น้องดวงตา หม่องภา และพี่นวล ได้เข้าหารือกับสำนักทะเบียนแขวงเม็งราย จังหวัดเชียงใหม่ ถึงแนวทางการรับรองสิทธิอาศัยของแรงงานต่างด้าวที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติและบุตรของบุคคลดังกล่าว หรือการย้ายชื่อจากทะเบียนประวัติเข้าสู่ทะเบียนบ้านคนอยู่ชั่วคราว (ทร.๑๓)นั่นเอง
ความเป็นมาของการขอเพิ่มชื่อเข้าทะเบียนบ้านคนอยู่ชั่วคราวนั้น (ทร.๑๓) ต้องเรียนให้ทราบในเบื้องต้นว่า แรงงานต่างด้าวสามสัญชาติที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติกับประเทศต้นทางตามMOUแล้ว แต่เดิมเข้ามาในประเทศไทยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เป็นผู้ที่ไม่มีทั้งสิทธิเข้าเมืองและสิทธิอาศัยที่ถูกต้อง แม้ว่าบางกลุ่มอาจได้รับการผ่อนผันให้อยู่อาศัยในราชอาณาจักรไทยได้ อย่างไรก็ดีการเดินทางออกนอกพื้นที่ที่อาศัยยังคงต้องขออนุญาตทุกครั้ง รวมถึงยังไม่มีสถานะหรือสิทธิประการต่างๆที่พึงได้รับอย่างเต็มที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตไม่น้อยต่อมาเมื่อเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์พิสูจน์สัญชาติกับประเทศต้นทาง ประเทศดังกล่าวจะให้การรับรองว่าเป็นบุคคลดังกล่าวเป็นคนชาตินั้นๆ และออกหนังสือเดินทางให้ ฉะนั้นเมื่อผ่านกระบวรการดังที่กล่าวข้างต้นบุคคลเหล่านี้จึงมีสถานะเป็นผู้เข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายและมีสิทธิอาศัยชั่วคราวในราชอาณาจักรไทย เมื่อมีสิทธิอาศัยโดยชอบแล้วดังนั้นจะต้องถูกรับรองสิทธิดังกล่าวด้วยจึงเป็นที่มาของการย้ายชื่อออกจากทะเบียนประวัติและเพิ่มชื่อเข้าทะเบียนบ้านคนอยู่ชั่วคราว (ทร.๑๓) หลังจากนี้บุคคลดังกล่าวจะมีชื่อในทะเบียนบ้านคนอยู่ชั่วคราวของไทยและสามารถเดินทางได้ทั่วราชอาณาจักรไป ไม่จำต้องของอนุญาตเช่นแต่ก่อนอีกแล้ว
ผลการหารือกับสำนักงานทะเบียนแขวงเม็งรายถึงแนวทางการเพิ่มชื่อเข้าทร.๑๓ ของแรงงานต่าวด้าวที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติ และบุตรมีดังนี้
แรงงานต่างด้าวที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติสามารถดำเนินการขอเพิ่มชื่อเข้าที่สำนักทะเบียนท้องถิ่น หรืออำเภอที่ตนมีที่อยู่ตามทะเบียนประวัติ โดยแขวงเม็งรายมีแนวทางการใช้พยานหลักฐานในการเพิ่มชื่อ ดังนี้
๑. พานายจ้างและเจ้าบ้านมายังสำนักทะเบียนที่อยู่ในเขตพื้นที่ของทะเบียนบ้านซึ่งแรงงานต้องการเพิ่มชื่อเข้า
๑.๑ กรณีที่นายจ้างและเจ้าบ้านที่ขอเพิ่มชื่อเข้าทะเบียนบ้าน เป็นคนเดียวกัน
o พานายจ้าง(คนเดียวกับเจ้าบ้าน)มาที่สำนักทะเบียนเพื่อแสดงความยินยอมให้เพิ่มชื่อเข้าในทะเบียนบ้าน โดยเตรียมหลักฐานของนายจ้างดังนี้
o ทะเบียนบ้านของนายจ้างพร้อมสำเนา
o บัตรประจำตัวประชาชนของนายจ้างพร้อมสำเนา
o ใบโควต้า
o กรณีนี้ ใช้พยานบุคคลสองคนในการยืนยันตัวบุคคลคน ว่าบุคคลตามหนังสือเดินทางและบุคคลตามทะเบียนประวัติ และผู้ร้องเป็นคนเดียวกัน โดยที่พยานบุคคลเป็นผู้มีสัญชาติไทย ถ้าเป็นผู้ไม่มีสัญชาติไทย ต้องเป็นผู้ที่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มีอาชีพเป็นหลักฐาน มีความน่าเชื่อถือนำเอกสารแสดงตนของพยานมาด้วย คือ ทะเบียนบ้านพร้อมสำเนา และบัตรประชาชนพร้อมสำเนา
๑.๒ กรณีนายจ้างและเจ้าบ้านจะขอเพิ่มชื่อเข้าทะเบียนบ้านเป็นคนละคนกัน
o พานายจ้าง และ เจ้าบ้านมาที่สำนักทะเบียน เพื่อให้เจ้าบ้านให้ความยินยอมในการเพิ่มชื่อเข้าทะเบียนบ้าน โดยเตรียมหลักฐานดังนี้
หลักฐานของนายจ้าง
o ทะเบียนบ้านของนายจ้างพร้อมสำเนา
o บัตรประชาชนของนายจ้างพร้อมสำเนา
o ใบโควต้า
o เอกสารแสดงความเกี่ยวข้องกับเจ้าบ้าน เช่น นายจ้างเช่าอาคารของเจ้าบ้านเพื่อเปิดร้านอาหาร ลูกจ้างมีชื่ออยู่ที่อาคารร้านอาหารนั้น กรณีนี้นายจ้างต้องนำสัญญาเช่าอาคารมาระหว่างนายจ้างกับเจ้าบ้านมาแสดง ด้วย
หลักฐานของเจ้าบ้าน
o ทะเบียนบ้านของเจ้าบ้านพร้อมสำเนา
o บัตรประชาชนของเจ้าบ้านพร้อมสำเนา
กรณีที่นายจ้างกับเจ้าบ้านเป็นคนละคนกัน เช่นนี้นำพยานบุคคลหนึ่งคนในการยืนยันตัวบุคคลคน ว่าบุคคลตามหนังสือเดินทางและบุคคลตามทะเบียนประวัติ และผู้ร้องเป็นคนเดียวกัน โดยที่พยานบุคคลเป็นผู้มีสัญชาติไทย ถ้าเป็นผู้ไม่มีสัญชาติไทย ต้องเป็นผู้ที่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มีอาชีพเป็นหลักฐาน มีความน่าเชื่อถือนำเอกสารแสดงตนของพยานมาด้วย คือ ทะเบียนบ้านพร้อมสำเนา และบัตรประชาชนพร้อมสำเนา
๒. ทะเบียนประวัติ (ทร.๓๘)
๓. รูปถ่ายขนาด ๒ นิ้ว จำนวน ๓ ใบ (เป็นรูปถ่ายที่เป็นปัจจุบัน)
๔. หนังสือเดินทาง แปลหน้าแรกที่มีรายการชื่อและรูปถ่าย โดยหน่วยงานที่เชื่อถือได้ ไม่จำเป็นต้องแปลโดยหน่วยงานรัฐ อาจเป็นโดยบริษัท โดยเอกชน หรือโดยมหาวิทยาลัยเป็นต้น
๕. ถ่ายเอกสารหนังสือเดินทางทุกหน้าที่มีรายการ
ทั้งนี้หลักฐานข้างต้นเป็นแนวทางของการดำเนินการเพิ่มชื่อของสำนักทะเบียนแขวงเม็งราย อย่างไรก็ดีก่อนที่จะเข้าพบแขวงเม็งราย ทางเราได้เดินทางเข้าหารือกับสำนักทะเบียนอำเภอเมืองเชียงใหม่พบว่าในส่วนของหลักฐานหนังสือเดินทาง อำเภอเชียงใหม่ต้องให้มีการแปลเอกสารและรับรองหนังสือเดินทางโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในขณะที่สำนักแขวงเม็งรายคำนึงถึงเหตุผลความจำเป็นและภาระของประชาชนแล้ว เห็นว่าไม่จำเป็นต้องมีการรับรองโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแต่อย่างใด เพราะคนกลุ่มนี้เป็นแรงงานต่างด้าวซึ่งต้องมีการรายงานตัวเป็นประจำอยู่แล้ว และเป็นการเคารพต่อหลักฐานของประเทศต้นทางซึ่งประเทศไทยมีความตกลง MOUไว้อีกด้วย นี่เป็นข้อสังเกตประการหนึ่งว่า สำนักทะเบียนในจังหวัดเดียวกัน ยังมีกระบวนการที่แตกต่างกัน โดยที่สำนักทะเบียนแขวงเม็งรายให้ประชาชนนำหลักฐานที่ใช้มาอย่าง ไม่เป็นสร้างภาระแก่ประชาชนเกินสมควร แต่สำนักทะเบียนอำเภอเมืองนั้นยังคงมีความเป็นกังวลเกี่ยวกับความถูกต้องของเอกสารที่ประชาชนนำมาเป็นอย่างมาก จนทำให้ประชาชนต้องไปรับรองความถูกต้องของเอกสารจนอาจเป็นการสร้างขั้นตอนอันไม่จำเป็นแก่ประชาชน
ในส่วนของพยานบุคคล ๒ คน ซึ่งระเบียบคำสั่งให้เพิ่มชื่อแรงงานที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติ เข้าในทะเบียนบ้านคนอยู่ชั่วคราว ไม่ได้เรียกร้องนั้น ทางแขวงเม็งรายได้ให้ความกระจ่างกับทางเราว่าเหตุผลที่ต้องนำพยานบุคคลที่น่าเชื่อถือ ๒ คนมายันตัวบุคคลนั้น เนื่องจากชื่อในหนังสือเดินทางจะเป็นชื่อที่เป็นภาษาของประเทศต้นทาง ซึ่งเป็นเสียงที่อ่านยากสำหรับคนไทย และเป็นชื่อที่แตกต่างจากชื่อในทะเบียนประวัติ จึงต้องการพยานบุคคลมาเพื่อยืนยันว่าบุคคลในเอกสารทะเบียนประวัติ หนังสือเดินทาง และผู้ร้อง เป็นบุคคลเดียวกัน
จากการที่ข้าพเจ้าเข้าหารือกับแขวงเม็งรายนั้น ข้าพเจ้ามีความชื่นชมว่าสำนักทะเบียนแขวงเม็งราย ตลอดจนเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะหัวหน้างานทะเบียน คุณประภาส ศรีจันทร์พรหม ท่านเป็นผู้มีความรู้ มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการทะเบียนเป็นอย่างมาก และสำนักทะเบียนแห่งนี้มีชาวต่างประเทศมาการดำเนินการเพิ่มชื่อเข้าทะเบียนบ้านคนอยู่ชั่วคราวเป็นประจำ จึงมีความเชี่ยวชาญในการดำเนินการ รวมถึงการตอบคำถามให้การแนะนำในประเด็นที่ทางเรามีข้อสงสัยได้อย่างมีเหตุผลชัดเจน
แนวทางการปฏิบัติงานของสำนักทะเบียนแขวงเม็งรายนี้อาจเป็นแนวทางของการเพิ่มชื่อ ให้กับอีกหลายสำนักทะเบียนได้ แม้จะมีระเบียบแล้วแต่ในทางปฏิบัติจริง ยังมีสำนักทะเบียนจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่เคยมีแรงงานต่างด้าวที่พิสูจน์สัญชาติแล้วมาดำเนินการเพิ่มชื่อ เบื้องต้นทางสำนักทะเบียนอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ก็อยากศึกษาถึงแนวทางการดำเนินการของสำนักทะเบียนแขวงเม็งรายด้วยเช่นเดียวกัน
ในวันดังกล่าวยังไม่มีการยื่นคำร้องขอเพิ่มชื่อแต่อย่างใด เพราะแรงงานต้องกลับไปเตรียมตัว และเตรียมหลักฐานต่างๆที่ต้องใช้เพื่อยื่นคำร้อง ซึ่งจะมีการยื่นคำร้องในลำดับต่อไป
ทั้งนี้จากการพูดคุยกับคุณประภาส หัวหน้างานทะเบียนนั้น ได้ทราบว่าท่านมีความตื่นตัว มีวิสัยทัศน์ เห็นถึงความสำคัญและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนของประเทศไทยในปี ๒๐๑๕ อีกด้วย ท่านมองว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบกับสำนักทะเบียนได้เนื่องจากจะมีการเคลื่อนย้ายประชากรและแรงงานจำนวนมาก และท่านตระหนักว่าทางสำนักทะเบียนจะต้องเตรียมตัวตั้งรับ ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ดังกล่าว ถือเป็นตัวอย่างของหน่วยงานราชการที่ดียิ่ง ที่มีความทันสมัย ทันต่อโลกต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน จากการพูดคุยกับท่านแล้วข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นที่น่าชื่อชมอย่างยิ่ง
ไม่มีความเห็น