"วัดนี้ไม่มีตู้รับเงินบริจาค"
"วัดนี้โบสถ์เปิด ๒๔ ชม."
"มาวัดนี้ ต้องฉลาดขึ้นกลับไป"
ตอนเลี้ยวรถเข้าวัด มองเห็นอาคารศูนย์พัฒนาเด็กก่อนเลย ภายในวัดร่มครึ้มไปด้วยต้นไม้ มีป้ายหลักธรรมอยู่เต็มไปหมด แม้แต่ป้ายที่ติดว่า ให้รถ u turn ตรงนี้ ซึ่งผมก็ยังหัวเราะว่า ถึงขนาดต้องทำป้ายสั่งไว้เลย
ความคิดชุดเดิมของผมผุดขึ้นมา คือ คงต้องเดินหาที่ไหว้พระทำบุญเองอีกแล้ว
ผมกับพี่ ๆ เดินหาอยู่สักพัก ก็เห็นพระภิกษูชรารูปหนึ่งกำลังครองจีวร แล้วเดินนำสายตาเราไปยังศาลาโล่ง ท่านส่งเสียงเรียกพวกผมให้เข้าไปในศาลา แล้วเริ่มสนทนาอย่างคุ้นเคย โดยพยายามออกตัวว่า เจ้าอาวาสวัดนี้พูดไม่เพราะหรอกนะ
ถึงตอนนั้นผมก็ยังไม่รู้หรอกครับว่า พระรูปดังกล่าวเป็นเจ้าอาวาส เพราะไม่คิดว่าท่านเจ้าอาวาสจะมาต้อนรับผู้เดินทางต่างถิ่นแบบนี้ด้วยตนเอง
ท่านนั่งสนทนากับครอบครัวผมอย่างให้เวลาเต็มที่ คำสอนเรื่องความรักในวันวาเลนไทน์ ตรงกับวันที่เราไปทำบุญ แสดงว่า ท่าน 'ทันสมัย' แล้วคำพูดประโยคข้างบนก็ค่อย ๆ ทยอยออกมา
วัดนี้ไม่มีตู้รับเงินบริจาค ไม่ต้องรบกวนชาวบ้าน ไม่เน้นการทำบุญแบบนั้น
การสร้างโบสถ์ก็ไม่ต้องหรูหราเป็นหลักล้าน เพราะวัดเรามันวัดบ้านนอก จะสร้างให้มันใหญ๋โตไปทำไม
พอพ่อผมบ่นเรื่อง โบสถ์วัดที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะปิด ท่านก็เลยบอกว่า วัดนี้โบสถ์เปิด ๒๔ ชม. ซึ่งตอนหลังครอบครัวผมก็ได้เดินไปที่โบสถ์ โบสถ์ของวัดนี้เปิด ๒๔ ชม.จริง ๆ เพราะเป็นโบสถ์โล่งไม่มีฝา ภายในโบสถ์มีพระประธานเรียบง่าย และสามารถปฎิบัติศาสนกิจได้อย่างครบถ้วน บางครั้งใช้เป็นที่วางศพด้วยซ้ำ เพราะอยู่ติดเมรุของวัด "ที่เกิด ที่ตาย อยู่ใกล้กัน"
คำสอนของท่านยังรวมไปถึงเรื่อง การมีสติ ผ่านคำสอนเรื่องความเป็นระเบียบในการจอดรถจอดรองเท้า ให้หันหัวรถหัวรองเท้าออกนอกตั้งแต่ตอนจอด จะได้ไม่เสียเวลาขากลับและเป็นระเบียบเรียบร้อย
พอพ่อผมบอกจะขอถวายซอง เหมือนกับที่เรามักจะ 'ทำบุญ' กับพระในวัดทั่ว ๆ ไป หลวงตาท่านก็บอกว่า ท่านยังรับเองตอนนั้นไม่ได้
ขนาตตอนจะออกจากวัด ท่านยังเมตตาบอกเส้นทางขับรถให้อีกต่างหาก
หลวงตารูปที่เมตตาครอบครัวผมอย่างมาก ผมมาค้นข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเอง คือ พระครูสุธรรมประกาศ เตชสีโล เจ้าอาวาสวัดครับ
ดูข้อมูลผลงานของท่านได้ ที่นี่
ภาพจากศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม http://www.m-culture.in.th
ถ้าเบื่อวัด ททท. (จำมาจากหลวงตา)
เบื่อวัดใหญ่ที่สุดในโลก เบื่อวัดเครื่องรางขอให้อภิมหาโคตรรวย เบื่อวิหารพราหมณ์ในคราบวัดพุทธ (ชุดนี้ คำผม)
ผมอยากให้ลองแวะมาวัดนี้ครับ
เป็นบุญ ที่ได้มาทำบุญวัดนี้จริง ๆ
สาธุ
หลวงพ่อท่านน่าเคารพมากเลยนะครับ อยากเห็นสภาพวัดครับ ต้องน่าปฏิบัติธรรมแน่ๆเลยใช่ไหมครับ
มีโอกาสจะแวะค่ะ
กลับบ้านที่ชุมพรเมื่อไหร่ถ้ามีโอกาสผมจะแวะไปวัดนี้แน่ๆ ครับ
สวัสดีค่ะอาจารย์หมอฯ
แฮ่ ๆ... รายงานตัวว่า เป็นคนชุมพรเช่นเดียวกับ อาจารย์ธวัช ..ขอขอบคุณที่ อาจารย์หมอฯ ได้ค้นพบ "วัดแท้" ที่น่าประทับใจ ทำให้เรามีโอกาสได้รู้จักวัดนี้มากขึ้น โดยส่วนตัวแวะไปในเส้นทางนี้เมื่อกลับไปเยี่ยมบ้านช่วงปีใหม่ทุกปี โดยจะเดินทางไปไหว้องค์พระใหญ่หลวงปู่หลักเมือง ในถ้ำ อืมม์...ด้วยสาเหตุที่ไปในเส้นทางนั้นปีละครั้ง เดินทางไกลจาก อ. หลังสวน รถสองคันที่วิ่งตามๆกันไป คันหลังขับเองก็จะแวะไปที่วัดเทพประดิษฐทุกปี เช่นกัน ..ผิดวัดค่ะ.. เพราะอยู่ตรงโค้งพอดี ผิดทุกปี ก็เลยต้องเลี้ยวออกไป.. ยังไม่ได้มีโอกาสลงไปกราบนมัสการพระที่วัดเทพประดิษฐ์ สักครั้ง คราวต่อไปต้องไปทั้งสองวัดแล้วหล่ะค่ะ ขอบคุณบันทึกของอาจารย์หมอฯค่ะ
เล่าให้อาจารย์หมอฯทราบว่า ห่างจาก...วัดแท้..ที่แวะไปนั้นสัก 2 กม. ในเส้นทางเดียวกันด้านในเป็นวัดเทพเจริญ (ถ้ำรับร่อ) เป็นวัดที่ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ ต้องปีนบันไดขึ้นไปสูงๆ มีห้องโถงใหญ่ของหินงอก หินย้อย และมีองค์พระพุทธรูปหลักเมืองในถ้ำ เข้าไปนั่งแล้วสงบดีค่ะ พ่อและแม่ที่บ้าน ท่านก็พยายามเดินขึ้นไปด้วยไม้เท้า ขึ้้นบันไดไปให้ถึงองค์พระ ค่อยๆเดินไปทีละน้อย เราก็ลุ้นเป็นกองเชียร์ประกบข้างๆ เลยแซวกันว่า พ่อให้พามาไหว้พระที่วัดนี้ทุกปี นอกจากระลึกถึง ดำเนินรอยตามบรรพบุรุษแล้ว ก็ยังเป็นการทดสอบว่า ร่างกายยังไหวอยู่หรือไม่ ปีก่อนวันปีใหม่ เราร่วมกันสวดพาหุง 3-4 คนยังได้ยินเสียงก้องเลย อืมม์.. เพราะคุณพ่อย่างเข้า 80 แล้วหล่ะค่ะ บางครั้ง มีหนุ่มสาว แหงนมองบันได ก็ถอดใจว่าไม่ไหว มากขั้นเกินไป เมื่อได้ยินดังนั้นก็จะบอกว่า คนอายุเกือบจะ 80 แล้วยังไหวแล้วน้อง นั่นคุณพ่อพี่นะ..มีราวบันไดให้เกาะ ที่ให้พักด้วย ลองหน่อยนะ ข้างบนเงียบและสงบดี มีองค์พระ มีโบราณสถานอยู่ด้วย..เมืองเก่าของชุมพรเชียวนะ เข้าข่าย challenge นิดหน่อยค่ะ..ได้ผลค่ะ เห็นขึ้นไปจนถึงเช่นกัน ..หอบมากหน่อยเท่านั้น..นอกจากจิตใจสงบแล้วได้วัดสมรรถนะของร่างกายไปด้วย คงเป็นกุศโลบายของบรรพชนหรือไร แถมให้มีสติกับทุกย่างก้าวที่ขึ้นบันไดมากโขอยู่ :-))
อืมม์...เส้นทางนี้ได้รับคำบอกเล่าจากปู่ ย่า ทวด ที่เป็นคนดั้งเดิม เล่าว่าที่..วัดเทพเจริญ (ถ้ำรับร่อ) ด้านในเป็นที่ตั้งเมืองเก่าอุทุมพร เมื่อก่อนคนเดินเท้าเข้าไปกราบองค์พระใหญ่ในถ้ำ และมีงานสมโภชน์หลักเมืองที่นั่นหลังจากฤดูเกี่ยวข้าวเสร็จ จะเห็นว่าปัจจุบันชุมชน ต. ท่าข้าม อ. ท่าแซะ ก็ยังทำนาผืนใหญ่ๆให้เห็นกันอยู่ . เส้นทางที่อาจารย์หมอฯเข้าไปกราบนมัสการเจ้าอาวาส ที่ "วัดแท้" เทพประดิษฐ นั้นเรียกได้ว่าเป็นเส้นทางแสวงบุญ ศูนย์รวมศรัทธาของชาวชุมพรสมัยบรรพชนค่ะ เผื่ออาจารย์หมอฯจะแวะกลับไปที่ "วัดแท้" อีก ก็เรียนเชิญไปถึง วัดหลักเมืองเก่า ด้านในด้วยนะค่ะ มีพิพิธภัณฑ์โบราณด้วยหล่ะ..PR ให้จังหวัดบ้านเกิด. เพราะนานๆกลับบ้านเช่นกัน..ทำงานห่างบ้านค่ะ
ผมเคยไปวัดถ้ำรับร่อตอนเด็กๆ ครับ เกือบจำไม่ได้แล้วครับ กลับบ้านคราวหน้าต้องหาโอกาสไปให้ได้เลยครับ
สาธุค่ะอาจารย์หมอ
กำลัง รฤก ถึงอาจารย์พอดี ใกล้ มาฆบูชา แล้ว ดีใจได้อ่านบันทึกนี้
วัดตจว. ที่ไร้ชื่อ คือไม่ดัง วัดป่าส่วนใหญ่ ก็น่าพิสมัยยิ่ง
อีกสถานที่ คือ สำนักสงฆ์ ต่างๆ ขอบพระคุณค่ะ
ปล. เรื่องอินเดีย จะมีตอนต่อไป อีกไหมคะ :)
ถ้าเบื่อวัด ททท. (จำมาจากหลวงตา)
เบื่อวัดใหญ่ที่สุดในโลก เบื่อวัดเครื่องรางขอให้อภิมหาโคตรรวย เบื่อวิหารพราหมณ์ในคราบวัดพุทธ (ชุดนี้ คำผม)
ผมอยากให้ลองแวะมาวัดนี้ครับ
เป็นบุญ ที่ได้มาทำบุญวัดนี้จริง ๆ
สาธุ
แต่นี้ไป ในฐานะอุบาสก ๑ ใน ๔ เสาหลักค้ำจุนพระศาสนา ผมจะเลิกสนับสนุนวัดที่เบี่ยงเบนเหล่านั้น เพราะวัดที่ดี ๆ เช่นนี้ยังมีอีกมาก แต่เราโง่เอง ไม่รู้