หลังจากที่ไม่มีงานประจำที่เป็นหน้าที่การทำงานในระดับปฏิบัติการทำและรับผิดชอบชัดเจนมานานถึง ๗ ปี
เมื่อไม่กี่เดือนที่หน่วยงานเล็กๆ ที่ข้าพเจ้าดำรงวิถีการงานนี้อยู่ได้มีการมอบหมายงาน และข้าพเจ้าก็ต้องมีงานประจำในระดับปฏิบัติการรับผิดชอบด้วย ข้าพเจ้าจึงอาสารับผิดชอบงานบริการคลินิกจิตเวช หลังจากแสดงบทบาทหลังม่านมานานถึงเวลาต้องออกโรงบ้าง จึงต้องแบกรับภาระงานนี้
อุปนิสัยข้าพเจ้าทำงานได้หมด แม้แต่กวาดพื้นถูพื้นเก็บขยะก็ทำได้ ไม่หวั่นอยู่แล้ว อาจเนื่องด้วยว่าได้ฝึกฝนผ่านการล้างส้วมด้วยมือเปล่ามามากต่อมากแล้ว นับประสาอะไรกับการที่มีงานปฏิบัติการเพิ่มมาอีกหนึ่งงาน ดังนั้นเมื่อได้โอกาสก็สามารถทำงานได้ทุกงาน
และในงานนี้ข้าพเจ้าก็นำแนวคิดเรื่อง R2R มาใช้พัฒนางานเลย
ปรับ process การทำงานใหม่
นำแนวคิดเรื่อง LEAN เข้ามาผสมผสานกับเรื่อง Triage checklist เพื่อดูว่าสามารถลดความแออัด และลดอุบัติการณ์วิกฤตสุขภาพจิตและจิตเวชได้ไหม
ซึ่งได้ทดลองทำมาได้ประมาณ 1 เดือน
อุบัติการณ์การเกิดความผิดพลาดจากการประเมินและคัดกรองผู้ป่วยเป็น 0 ไม่มีปรากฏการณ์การเกิดวิกฤตสุขภาพจิตและจิตเวชในระหว่างรอตรวจ
ระยะเวลาของการให้บริการเฉลี่ย 45 นาที ไม่เกิน หนึ่งชั่วโมงนับตั้งแต่ยื่นบัตร และสามารถปิดบริการคลินิก ได้ประมาณ 11 โมง จากที่เมื่อก่อนการบริการจะล้นทะลักไปจนถึงช่วงบ่าย และจำนวนผู้รับบริการ ประมาณ 120-150 คนต่อวัน แต่เมื่อมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจำนวนผู้รับบริการลดลงเฉลี่ยประมาณ 60-80 รายต่อวัน
ประเด็นที่สนใจพัฒนาต่อ
คือเรื่องการบริการสุขภาพจิตและจิตเวชเชิงรุกในหอผู้ป่วย
และการฟื้นฟูสมรรถภาพฯ สำหรับผู้ป่วยในกลุ่ม Re-Med ที่มามีอาการคงเดิมและไม่ได้เข้าพบแพทย์ แต่ยังพบจุดอ่อนในเรื่องการทานยา
และอีกกลุ่มที่น่าสนใจคือ กลุ่มผู้ป่วยขาดนัด
- ขอบคุณบทความดีดีนี้ มากๆ ค่ะ